“สุวัจน์” เปิดโครงการ GO ZERO WASTE: SAVE OUR OCEAN PROJECTS ปล่อยเต่าสู่ท้องทะเลภูเก็ต ฟื้นระบบนิเวศน์ กระตุ้นท่องเที่ยว ย้ำ 3 เสาหลัก ธุรกิจ ชุมชน และธรรมชาติ ต้องร่วมมือกัน เพื่อความยั่งยืน

เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธี “ปล่อยเต่าคืนสู่ท้องทะเลที่ภูเก็ต” ที่หาดกมลา จ.ภูเก็ต โดยสวนน้ำอันดามันดา โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล ภูเก็ต ร่วมกับ มูลนิธิอนุรักษ์เต่าทะเลหาดไม้ขาว และองค์การบริหารส่วนตำบลกมลา จัดขึ้น เพื่อรณรงค์ให้นักท่องเที่ยวหันมาใช้วัสดุที่นำกลับมาใช้ซ้ำ ทดแทนการใช้พลาสติก ที่จะสร้างอันตรายให้กับสัตว์ทะเล โดยมีนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ เข้าร่วมกิจกรรมกับนักท่องเที่ยวชาวไทยและประชาชนในพื้นที่

นายสุวัจน์ กล่าวว่า การจัดกิจกรรมครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ GO ZERO WASTE: SAVE OUR OCEAN PROJECTS เพื่อสร้างความยั่งยืนให้กับธุรกิจท่องเที่ยวของ จ.ภูเก็ต และเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นหัวใจของของเศรษฐกิจไทย ท่ามกลางสถานการณ์ความผันผวนทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นทั่วโลก ส่งผลกระทบต่อการลงทุน การส่งออก

อดีตรองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เศรษฐกิจประเทศไทยอยู่ได้ด้วยการเข้ามาลงทุนในประเทศ การส่งออก และการท่องเที่ยว แต่ปัจจุบัน การลงทุนและการส่งออกไม่ดีนัก การท่องเที่ยวจึงเป็นหัวใจหลักที่เปรียบเสมือนไม้ค้ำยันเศรษฐกิจให้กับประเทศ โดยก่อนสถานการณ์โควิด นักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย 40 ล้านคน แม้ว่าปัจจุบันจะมีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นประมาณ 28 ล้านคน เมื่อสิ้นปีที่แล้ว แต่ก็ยังไม่มากเท่าที่ควร ดังนั้นหากร่วมมือกัน ก็จะทำให้การท่องเที่ยวของภูเก็ตดี ภาพรวมของเศรษฐกิจภูเก็ตก็จะดีขึ้น จีดีพี ก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย

“กิจกรรม การนำร่องปล่อยเต่าตนุ 3 ตัว ที่ทางมูลนิธิอนุรักษ์เต่าทะเลหาดไม้ขาว ได้หารายได้จากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์รักษ์โลก และการร่วมบริจาคสมทบทุน นำเต่ามาอนุบาลจนหายเป็นปกติ คืนกลับสู่บ้านเกิดของเขา นอกจากนี้ยังมีการรณรงค์ให้เกิดการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ โดยให้นักท่องเที่ยวหันมาใช้วัสดุที่นำกลับมาใช้ซ้ำ ทดแทนการใช้พลาสติก ที่จะสร้างอันตรายให้กับเต่าและสัตว์ทะเลอื่น ๆ เป็นการฟื้นฟูระบบนิเวศน์ให้กับท้องทะเล เพื่อธรรมชาติที่สวยงาม ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาเที่ยวที่ จ.ภูเก็ตเพิ่มมากขึ้น แต่ทั้งนี้ก็ต้องได้รับความร่วมมือจาก 3 เสาหลักทั้ง ภาคธุรกิจ ชุมชน และธรรมชาติ ที่ต้องช่วยกัน เพื่อให้ทุกชีวิตอยู่ร่วมกันได้อย่างยั่งยืน ” นายสุวัจน์ กล่าว

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการรณรงค์การลดใช้พลาสติกแล้ว ยังมีการกระจายรายได้ไปสู่ชุมชน โดยมีการนำสินค้า OTOP จาก 11 กลุ่มผู้ประกอบการท้องถิ่น เข้ามาจัดจำหน่ายภายในสวนน้ำฯ เพื่อสื่อสารถึงเอกลักษณ์ ซึ่งเป็นซอฟท์พาวเวอร์ที่สำคัญ ของจังหวัดภูเก็ตสู่สายตานักท่องเที่ยวทั่วโลก เช่น ผ้ามัดย้อมลายสายแร่ดีบุกภูเก็ต กระเป๋ากระจูด ซึ่งเป็นการช่วยส่งเสริมให้สินค้าแต่ละชุมชนเติบโตได้อย่างยั่งยืน เสริมสร้างวัฒนธรรม และวิถีชุมชนให้เข้มแข็ง และยังกระจายรายได้จากนักท่องเที่ยวสู่เกษตรกรในท้องถิ่นอีกด้วย