ปธ.สภาอุตฯ หวั่นรัฐสั่งหยุดขนส่งสินค้าเข้า-ออกพื้นที่สีแดง กระทบโรงงานอุตสาหกรรมในพื้นที่กว่า 7,000 แห่ง
นครราชสีมา – วันนี้ (9 มกราคม 2564) ที่ อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายหัสดิน สุวัฒนะพงศ์เชฏ ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดนครราชสีมา ได้ออกมาเปิดเผยถึงผลกระทบต่อภาคอุตสาหกรรมในพื้นที่ จ.นครราชสีมา จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ว่า โรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ในพื้นที่ จ.นครราชสีมา ซึ่งมีอยู่กว่า 2,700 แห่ง และผู้ประกอบการอุตสาหกรรมขนาดกลาง ขนาดเล็กอีกกว่า 5,000 แห่ง ต่างได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอกแรกมาอย่างสาหัส โรงงานหลายแห่งต้องหยุดการผลิตเนื่องจากนำเข้าวัตถุดิบจากต่างประเทศไม่ได้ การส่งออกก็มีปัญหา ไม่มีออร์เดอร์เข้ามา ประกอบกับการขนส่งข้ามจังหวัดก็ทำได้ยากลำบาก ทำให้ผู้ประกอบการหลายเจ้าต้องประสบกับปัญหาการขาดทุนอย่างหนัก แต่หลังจากสถานการณ์เริ่มคลี่คลายลง มีการกลับมาเดินเครื่องผลิตสินค้ากันเกือบจะปกติแล้ว ก็ต้องมาพบกับการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่อีก ซึ่งผู้ประกอบการหลายคนก็รู้สึกวิตกกังวล กลัวว่ารัฐบาลจะมีการประกาศชัตดาวน์ประเทศอีกหรือไม่ ถ้ามีก็จะยิ่งเป็นการซ้ำเติมภาคอุตสาหกรรมอีก ซึ่งตนเองมองว่า การระบาดครั้งนี้เราได้บทเรียนมาก่อนแล้ว จึงได้มีการวางมาตรการป้องกันในโรงงานอย่างเข้มงวด ตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข แต่สิ่งที่ตนเป็นห่วงคือขณะนี้มีหลายจังหวัดเป็นพื้นที่สีแดง ซึ่งเกรงว่าทางรัฐบาลจะมีมาตรการสั่งห้ามขนส่งสินค้าเข้าออกจังหวัดดังกล่าว อันจะทำให้เกิดปัญหาต่อภาพรวมของอุตสาหกรรมได้ โดยเฉพาะโรงงานขนาดใหญ่หลายแห่งในพื้นที่ จ.นครราชสีมา ต้องรับวัตถุดิบมาจากท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่สีแดง ขณะเดียวกันโรงงานอุตสาหกรรมในพื้นที่ จ.นครราชสีมา ก็ต้องส่งวัตถุดิบสำคัญ เช่น ข้าวและน้ำตาล ไปยังโรงงานอุตสาหกรรมจังหวัดอื่นๆ ด้วย ดังนั้นจึงขอให้รัฐบาลอย่าเพิ่งมีมาตรการสั่งห้ามการขนส่งสินค้าไปยังจังหวัดพื้นที่สีแดงในช่วงนี้ เพราะตนเชื่อว่าสถานการณ์ในขณะนี้ทุกโรงงานมีระบบการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อย่างรัดกุมอยู่แล้ว แต่ที่บางโรงงานซึ่งตรวจพบผู้ติดเชื้อจำนวนมากนั้น ก็เป็นเพราะมีการสแกนหาอย่างเข้มข้น จึงพบในปริมาณมากนั่นเอง.
///////////ประสิทธิ์ ตั้งประเสริฐ // นครราชสีมา