อุทยานแห่งชาติทับลาน เร่งทำแนวกันไฟป่าในพื้นที่เสี่ยง เน้นจุดหาของป่าและรังผึ้ง ป้องกันการเกิดไฟป่าหลังกำลังเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอ หน.อุทยานฯ ระบุสาเหตุหลักเกิดจากฝีมือคนเกือบ 100%

นครราชสีมา – วันนี้ (5 พฤษภาคม 2567) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการดับไฟป่า อุทยานแห่งชาติทับลาน ได้ระดมกำลังลงพื้นที่ทำแนวกันไฟป่า ในเขตรอยต่อระหว่างพื้นที่การเกษตรของชาวบ้าน กับอุทยานแห่งชาติทับลาน อ.ครบุรี และ อ.เสิงสาง อย่างต่อเนื่อง ภายหลังจากที่ช่วงนี้สถานการณ์การเกิดไฟป่า ยังคงมีเกิดขึ้นต่อเนื่อง และกำลังเจ้าหน้าที่ดับไฟป่าไม่เพียงพอ จึงต้องเร่งทำแนวกันไฟป่าเพื่อป้องกันไว้ก่อนล่วงหน้า

โดยนายประวัติศาสตร์ จันทรเทพ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทับลาน เปิดเผยว่า เรื่องแนวกันไฟทางอุทยานแห่งชาติทับลานเน้นไปที่จุดซึ่งมีความล่อแหลมมากๆ โดยเฉพาะจุดที่เป็นป่าเบญจพรรณซึ่งมีต้นผักหวานอยู่เป็นจำนวนมาก, ป่าที่มีผึ้งทำรังอยู่เป็นจำนวนมาก และป่าที่มีรังมดแดงหนาแน่น แต่ขณะนี้อัตรากำลังพลของเจ้าหน้าที่ดับไฟป่าของอุทยานแห่งชาติทับลานเหลืออยู่น้อย เนื่องจากต้องส่งไปช่วยเหลือพื้นที่เกิดไฟป่าในเขตที่หนักๆ เช่น ที่กาญจนบุรี และเชียงใหม่ ส่งผลให้เหลือเจ้าหน้าที่ที่สามารถลงพื้นที่ทำแนวกันไฟ เดินลาดตระเวน และดับไฟป่าอยู่เพียงแค่ 100 กว่าคนเท่านั้น ซึ่งถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับพื้นที่อุทยานแห่งชาติทับลานที่รับผิดชอบอยู่กว่า 1,400,000  ไร่ ดังนั้นจึงไม่สามารถดูแลได้อย่างทั่วถึง ต้องจัดเจ้าหน้าที่ลงทำแนวกันไฟป่า โดยเน้นไปในพื้นที่เสี่ยงดังกล่าวก่อน ทั้งนี้สำหรับสาเหตุการเกิดไฟป่านั้น ที่ผ่านมาพบว่ามีสาเหตุหลักเกิดจากคนเกือบ 100% โดยแบ่งเป็น ชาวบ้านเข้าไปเผาป่าเพื่อให้ต้นผักหวานแตกยอดออกมาใหม่, ชาวบ้านที่ใช้คบเพลิงเผารังผึ้ง ซึ่งมักจะมีเศษไฟตกหล่นทำให้เกิดไฟป่า และกลุ่มลักลอบเข้าไปตัดไม้หวงห้าม โดยการเผาป่าเบี่ยงเบนกำลังเจ้าหน้าที่ให้ไปอยู่ในจุดเกิดไฟป่าทั้งหมด จะได้เข้าไปตัดไม้สะดวกขึ้น บางช่วงที่กำลังพลไม่พอ ต้องเกณฑ์เจ้าหน้าที่นักวิจัย และนักวิชาการทั้งหมด มาช่วยดับไฟป่าด้วย ทำให้ขณะนี้เจ้าหน้าที่ต้องทำงานอย่างหนักมาก ดังนั้นหากชาวบ้านที่พบเห็นไฟป่า สามารถโทรศัพท์สายด่วนแจ้งได้ที่เบอร์ 1362 หรือ โทร 037-210340 นายประวัติศาสตร์ฯ กล่าว.

ประสิทธิ์ ตั้งประเสริฐ / นครราชสีมา