ทีมแพทย์ พยาบาลโคราช ร้องขอกำลังเสริมดูแลประชากรในพื้นที่กว่า 2.7 ล้านคน ฉีดวัคซีนโควิด19 ให้ได้อย่างน้อย 70 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่จิตอาสา 904 ตร.ทล.โคราช เดินหน้ามอบอาหาร ชุดPPE ให้บุคลากรทางการแพทย์

นครราชสีมา-วันนี้ (6 พฤษภาคม 2564) ที่โรงพยาบาลสูงเนิน อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา นายพงษ์เทพ มาลาชาสิงห์ กต.ตร.จังหวัดนครราชสีมา ร่วมกับ จิตอาสา 904 ตำรวจทางหลวงโคราช เป็นตัวแทนพลตำรวจโทต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง นำชุด PPE จำนวน 20 ชุด , เฟสชิลด์ จำนวน 100 ชิ้น แว่นตา 20 ชุด รวมทั้ง ข้าวกล่อง ขนม น้ำส้ม น้ำดื่ม จำนวน 120 ขุด และเงินจำนวน 10,000 บาท มามอบให้กับบุคลากรทางการแพทย์ รพ.สูงเนิน โดยมี นพ.วิชาญ คิดเห็น ผู้อำนวยการ รพ.สูงเนิน เป็นตัวแทนรับมอบ ทั้งนี้ เพื่อไว้ใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ดูแลผู้ป่วยอย่างหนักในช่วงโควิด19 กำลังแพร่ระบาดในอำเภอสูงเนินอยู่ขณะนี้ และเพื่อเป็นขวัญกำลังใจ เสริมพลังให้กับเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มแข็งและเหน็ดเหนื่อยเพื่อช่วยผู้ป่วยให้ผ่านพ้นวิกฤติการติดเชื้อโควิด19 นี้ไปให้ได้

โดยนายพงษ์เทพ มาลาชาสิงห์ กต.ตร. จังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า ยินดีที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือสังคมและบ้านเมืองในยามที่เกิดวิกฤติโควิด19 แพร่ระบาดอย่างนี้ เพราะเป็นช่วงเวลาที่ทุกคนกำลังเดือดร้อนต้องการความช่วยเหลือ ไม่โดยเฉพาะทีมแพทย์ พยาบาล ที่ต้องปฏิบัติหน้าที่อย่างหนักหน่วงเพื่อช่วยรักษาผู้ป่วยติดเชื้อโควิด19 ให้หายโดยเร็ว ถึงเวลาที่จะต้องร่วมมือกัน ในวันนี้ กต.ตร.จังหวัดนครราชสีมา จิตอาสา 904 ตำรวจทางหลวงโคราช และชมรมข่าวเฉพาะกิจเพื่องานสาธารณภัย จึงระดมสิ่งของที่จำเป็นมาช่วยบุคลากรทางการแพทย์ซึ่งเป็นด่านหน้า เพื่อเป็นกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่และจะเดินหน้าช่วยเหลือสนับสนุนจนกว่าสถานการณ์โควิด19 จะคลี่คลาย

ด้าน นพ.วิชาญ คิดเห็น ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสูงเนิน ได้กล่าวแสดงความขอบคุณ พร้อมกับเผยถึงแนวทางการรับมือกับวิกฤติโควิด19 ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ว่า ทีมบุคลากรทางการแพทย์ไม่ถอยอย่างแน่นอน แม้ว่าจะมีความยากลำบากในการปฏิบัติงานพอสมควร ส่วนสถานการณ์การแพร่ระบาดในจังหวัดนครราชสีมา พบอัตราการติดเชื้อที่ลดลง แต่ทีมงานยังเหลืองานใหญ่ที่กำลังจะมาถึงคือการฉีดวัคซีนให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัด ที่เราจะต้องมาช่วยกันเพื่อฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมไม่ต่ำกว่าร้อยละ 70 ของประชากร เพื่อสร้างภาวะภูมิคุ้มกันในพื้นที่ จะได้เริ่มกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ ซึ่งการนำพาพี่น้องประชาชนในจังหวัดนครราชสีมามาฉีดวัคซีน ถือเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องมาช่วยกัน โดยจะต้องดูแลสุขภาพตัวเองให้ดี นอนหลับให้เต็มอิ่ม กินอาหารที่มีประโยชน์ เพื่อเตรียมพร้อมรับการฉีดวัคซีน ขณะเดียวกันบุคลากรทางการแพทย์ในพื้นที่มีกำลังพลหลักหมื่น แต่จะต้องฉีดวัคซีนให้กับประชากรกว่า 2 ล้าน 7 แสนคน ดังนั้น ทีมแพทย์พยาบาลมีกำลังจัดหาวัคซีนและพร้อมฉีดวัคซีนให้ได้ แต่การนำพาชาวโคราชมาส่ง ดูแลเรื่องการเดินทาง เรื่องอาหาร รวมถึง การให้คำแนะนำเรื่องการลงทะเบียน การใช้แอพลิเคชั่น การติดตาม การกรอกข้อมูล ซึ่งมีจำนวนไม่น้อยที่เป็นผู้สูงอายุ หรือใช้เทคโนโลยีไม่ค่อยคล่อง จำเป็นจะต้องอาศัยผู้ที่พอจะมีความรู้ในเรื่องนี้ มาคอยให้คำแนะนำช่วยเหลือคนละไม้ละมือ

แทบจะพูดได้ว่า “ไม่มีการร้องขอความช่วยเหลือครั้งไหนที่ทีมแพทย์พยาบาลจะต้องการมากกว่าครั้งนี้แล้ว ก็คือ การมาฉีดวัคซีนให้ได้มากที่สุด และให้ได้เร็วที่สุด อยากจะให้พวกเรามาช่วยกันสักครั้งหนึ่ง โดยหากมีแผนดำเนินการอย่างไร ทางจังหวัดจะแจ้งให้ทราบอย่างละเอียดอีกครั้ง แต่เบื้องต้นทราบว่า ประชากรในเขตอำเภอเมืองนครราชสีมา ราว 5-6 แสนคน จะให้บริการฉีดวัคซีนโควิด19 ใน 4 จุด คือที่ห้างสรรพสินค้า 3 ห้าง คือ ห้างสรรสินค้าเดอะมอลล์ โคราช ,ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช และศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่า โคราช กับที่โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ซึ่งพี่น้องประชาชนจะเดินทางไปรับบริการแต่ละจุดอย่างไร และไปเมื่อไร จะต้องหารือกันอีกครั้ง เพื่อบูรณาการความร่วมมือ แต่ในส่วนของต่างอำเภอ จะกำหนดวิธีการเข้ารับบริการฉีดวัคซีนของแต่ละอำเภอเอง ไม่เหมือนกัน แต่จะมีหลักการเดียวกัน คือ บริการฉีดวัคซีนให้ได้มากที่สุดและให้ได้เร็วที่สุด เพื่อไปสู่เป้าหมายขั้นต่ำ ร้อยละ 70 ของประชากรในจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งถ้าใครไม่มั่นใจว่าจะฉีดวัคซีนดีมั้ย ตนขอยืนยันว่า ตนและหลายๆท่านที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงก็ฉีดกันแล้ว ขอให้มาฉีดวัคซีนกันให้ครบเพื่อสร้างภาวะภูมิคุ้มกันให้เกิดขึ้น เพื่อจะได้เดินหน้าได้ต่อไป นพ.วิชาญฯ กล่าว.

//////////////ประสิทธิ์ ตั้งประเสริฐ / นครราชสีมา