ข่าวดี! ผลทดสอบวัคซีน ChulaCov-19 เทียบเท่าไฟเซอร์ จ่อใช้จริง เม.ย.65
แพทย์จุฬาฯเผยผลทดสอบวัคซีนโควิดสัฯญชาติไทย ChulaCov 19 กระตุ้นภูมิคุ้มกันได้สูงเทียบเท่ากับวัคซีน mRNA ไฟเซอร์ ไบออนเทค ยับยั้งเชื้อสายพันธุ์ดั้งเดิม และเชื้อกลายพันธุ์ ทั้ง 4 สายพันธุ์ คือ อัลฟา เบตา แกมมา และเดลตา ช่วยขจัดและควบคุมเชื้อที่อยู่ในเซลล์ของผู้ติดเชื้อโควิดได้เป็นอย่างดี
ศ.นพ.เกียรติ รักษ์รุ่งธรรม ผอ.บริหารโครงการพัฒนาวัคซีนโควิด-19 ศูนย์วิจัยวัคซีน คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ รพ.จุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย แถลงข่าวผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์ของโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ถึงความคืบหน้าการวิจัยและพัฒนาวัคซีน ChulaCov-19 ที่ใช้เทคโนโลยี mRNA เช่นเดียวกับ Pfizer และ Moderna จนสามารถเรียกได้ว่า ChulaCov-19 เป็นวัคซีน mRNA สัญชาติไทยรุ่นเแรกว่า ผลการวิจัยเบื้องต้นของการทดลองในระยะที่ 1 กับอาสาสมัครจำนวน 36 คน อายุระหว่าง 18-55 ปี ที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มมา 7 วันแล้ว พบว่ามีความปลอดภัยดี ไม่มีผลข้างเคียงรุนแรงใดๆ มีเพียงผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นอยู่ในระดับเล็กน้อย หรือปานกลาง และจะดีขึ้นภายใน 1-3 วัน
ที่สำคัญยังพบว่าวัคซีน ChulaCov 19 สามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันชนิดแอนติบอดี้ได้สูงเทียบเท่ากับวันซีน mRNA อื่นๆ เช่น ไฟเซอร์ ไบออนเทค สามารถกระตุ้นแอนติบอดีได้สูงมากในการยับยั้งเชื้อสายพันธุ์ดั้งเดิม และแอนติบอดีที่สูงนี้ ยังสามารถยับยั้งเชื้อข้ามสายพันธุ์ได้ ทั้ง 4 สายพันธุ์ คือ อัลฟา เบตา แกมมา และเดลตา อีกทั้งยังกระตุ้นภูมิคุ้มกันชนิด ที-เซลล์ ซึ่งจะช่วยขจัดและควบคุมเชื้อที่อยู่ในเซลล์ของคนที่ติดเชื้อโควิดได้
หลังจากนี้ ทีมผู้วิจัยจะทำการทดสอบเฟสที่ 2 เริ่มฉีดวัคซีนให้อาสาสมัครประมาณวันที่ 25 สิงหาคมนี้ ส่วนการดำเนินการในเฟส 3 อยู่ระหว่างการหารือว่า การขึ้นทะเบียนจะต้องมีขั้นตอนของ อย. อย่างไรบ้าง โดยตั้งเป้าให้ ChulaCov-19 เป็น 1 ใน 4 วัคซีนที่ได้รับการรับรองของคนไทย ที่จะเริ่มใช้ได้จริงภายในเดือนเมษายน 2565
สำหรับ วัคซีน ChulaCov19 สามารถเก็บในอุณหภูมิตู้เย็น 2-8 องศาเซลเซียส ได้นาน 3 เดือน และเก็บในอุณหภูมิห้อง 25 องศาเซลเซียส ได้นาน 2 สัปดาห์ อีกทั้งวัคซีนชนิด mRNA สามารถผลิตได้เร็ว ไม่ต้องรอเพาะเลี้ยงเชื้อ สังเคราะห์ในหลอดทดลอง ไม่เกิน 4 สัปดาห์ ไม่ต้องใช้โรงงานขนาดใหญ่ และสามารถปรับแต่งวัคซีนต้นแบบตามพันธุกรรมของเชื้อกลายพันธุ์ได้อย่างรวดเร็ว พร้อมการถ่ายทอดเทคโนโลยีให้กับบริษัท Bionet Asia เพื่อผลิตได้ทันที