ชัชชาติ ลุยพระราม 8 พายคายัคเก็บขยะ ปลูกต้นไม้ล้านต้น ชาวบ้านแซวผู้ว่าฯ มาขยะหาย ตั้งเป้าลดก๊าซเรือนกระจก ในกทม. ปี 2030 ต้องเป็นศูนย์
เมื่อเวลา 06.45 น. วันที่ 5 มิ.ย.65 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) เป็นประธานกิจกรรม “รวมพลเก็บขยะในแม่น้ำเจ้าพระยาและปลูกต้นไม้” ที่ลานกิจกรรมใต้สะพานพระราม 8 และสวนหลวงพระราม 8 เขตบางพลัด เนื่องในวันสิ่งแวดล้อมโลก 2565 (World Environment Day 2022) โดยมี นายขจิต ชัชวาณิชย์ ปลัด กทม. นายชาตรี วัฒนเขจร รองปลัด กทม. นายวิรัตน์ มนัสนิทวงศ์ ผู้อำนวยการสำนักสิ่งแวดล้อม และผู้แทนกรมเจ้าท่า ผู้อำนวยการเขตบางพลัด หน่วยงานสังกัด กทม.และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงประชาชนเข้าร่วมในกิจกรรม
นายชัชชาติ กล่าวว่า ตามที่องค์การสหประชาชาติ(UN) กำหนดให้เป็นวันที่ 5 มิถุนายนของทุกปีเป็นวันสิ่งแวดล้อมโลก ปีนี้เป็นแนวคิดรณรงค์ภายใต้หัวข้อ #OnlyOneEarth ตามที่ทราบกันว่าในกาแลกซี่มีดวงดาวเป็นพันล้านดวง แต่โลกมีใบเดียวดังนั้นเราจึงต้องรักษาไว้ แต่หากเราพูดว่าโลกก็จะดูใหญ่ไป
ตนจึงพูดถึง Only One Bangkok คือมีแค่กรุงเทพฯ เดียว มีแค่เขตเดียว ย่อยมาที่ชุมชนให้ได้เพราะเป็นสิ่งที่เกี่ยวข้องกับชีวิตเรามากขึ้น เพื่อส่งต่อสิ่งแวดล้อมให้แก่ลูกหลานที่เกิดขึ้นในวันนี้ที่ยังต้องอยู่ในกรุงเทพฯเดียวนี้ต่อไป
นายชัชชาติ กล่าวว่า ตามนโยบายของตนที่มีเป้าหมายว่าภายในปี 2030 จะต้องลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และก๊าซเรือนกระจกให้เป็นศูนย์(Net zero) รวมถึงนโยบายปลูกต้นไม้ 1 ล้านต้นจะต้องสำเร็จภายใน 4 ปี ทั้งนี้ กทม.ไม่มีทางสำเร็จได้หากไม่ได้ความร่วมมือจากประชาชนดังนั้นจึงต้องกระตุ้นความร่วมมือจากภาคีเครือข่ายชุมชนและประชาชน โดยมี กทม.เป็นผู้นำ
หลังจากนั้น นายชัชชาติได้บีบแตรเพื่อปล่อยขบวนเรือเก็บขยะจำนวน 50 ลำ โดย นายชัชชาติ ลงพายเรือคายัคสีแดงหมายเลข 05 เพื่อสำรวจขยะบริเวณแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นเวลากว่า 30 นาที เนื่องจากไม่มีขยะในแม่น้ำ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างที่นายชัชชาติลงเรือเก็บขยะอยู่ มีประชาชนแจ้งข้อมูลกับนายชัชชาติว่า เมื่อวานนี้ (4 มิถุนายน) ยังมีขยะอยู่เลย เพราะท่านผู้ว่าฯ มาก็ไม่มีขยะแล้ว ซึ่งนายชัชชาติกล่าวว่า “ไม่เป็นไร วันนี้ไม่มีขยะก็ดีแล้ว เดี๋ยวเราก็ช่วยกันดูแล”
ต่อมาเวลา 07.30 น. นายชัชชาติ เป็นประธานในพิธีปลูกต้นไม้สะสมในโครงการต้นไม้ 1 ล้านต้น บริเวณสวนหลวงพระราม 8 โดย นายชัชชาติ ปลูกต้นกล้าไม้มะฮอกกานี พร้อมข้าราชการสังกัด กทม.และประชาชนเข้าร่วมปลูกด้วย ทั้งไม้มะฮอกกานี ตะเคียนทองและขี้เหล็ก รวม 69 ต้น
ผู้สื่อข่าวถามถึงแนวทางนโยบายลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และก๊าซเรือนกระจกให้เป็นศูนย์ นายชัชชาติ กล่าวว่า ตามแนวคิดการหักล้างก๊าซเรือนกระจกให้เป็นศูนย์ให้ได้ กทม.ต้องร่วมกับองค์กรมหาชนเป็นองค์กรก๊าซเรือนกระจก โดยอย่างน้อยปี 2030 กทม.ต้องเป็นศูนย์ด้วยการจัดการ 4 ปัจจัยใน กทม.
คือ 1.การขนส่งคมนาคม ที่คิดเป็น 30% ฉะนั้น กทม.เป็นตัวอย่างในการลดการใช้การสันดาบภายในด้วยการใช้พลังงานสะอาด พร้อมส่งเสริมระบบนิเวศรถไฟฟ้า กทม.เองต้องเริ่มใช้รถพลังงานไฟฟ้ามากขึ้นแต่ต้องดูเรื่องต้นทุนด้วย 2.ลดการใช้พลังงานในอาคาร
3.การกำจัดขยะ เพราะการฝังกลบจะปล่อยก๊าซมีเทน ในอนาคตจึงมีแผนการแยกขยะเพื่อให้เกิดขยะน้อยที่สุด การบำบัดน้ำเสียในคลอง ซึ่งปลัด กทม.มีแนวคิดติดตั้งเครื่องดักไขมันในชุมชนคู่กับการทำบ่อบำบัดน้ำเสียรวมด้วย
และ 4.ปลูกต้นไม้ ซึ่งเป้าหมาย 1 ล้านต้นใน 4 ปีเราจะต้องขอความร่วมมือจากภาคเอกชนและทุกภาคส่วน เช่น ให้วันอาทิตย์เป็นวันปลูกต้นไม้ เพื่อให้เกิดพื้นที่สีเขียวตามนโยบายสวนสาธารณะ 15 นาที ทั้งหมดนี้จึงเป็นแนวทางของนโยบายดังกล่าว