นายกฯนำทีมเศรษฐกิจ รองนายกฯ รมว.คลัง- รมช.คลัง แถลงกระตุ้นเศรษฐกิจ ครม. เห็นชอบ มาตรการกระตุ้นการบริโภค “ช้อปดีมีคืน” คืนภาษีสูงสุด 30,000 บาท/คน “สุพัฒนพงษ์” ชี้เงินหมุนเวียนไตรมาส4 2 แสนล้าน
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ (12 ต.ค.) ว่าที่ประชุม ครม.เห็นชอบมาตรการช็อปดีมีคืน ที่กระตุ้นการบริโภคคนในประเทศในกลุ่มที่เสียภาษี โดยคืนภาษีสูงสุด 30000 บาท มาลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
ทั้งนี้มาตรการนี่จะเริ่มต้นในวันที่ 23 ต.ค.-31 ธ.ค.2563 นี้
ทั้งนี้ในการแถลงข่าวครั้งนี้ นายกรัฐมนตรีนำนายสุพัฒนพงษ์ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังคนใหม่ และนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง มาแถลงข่าวด้วย โดยระบุว่าเป็นทีมเศรษฐกิจที่จะเข้ามาช่วยทำงานให้ประเทศผ่านวิกฤตเศรษฐกิจจากผลกระทบโควิด-19 ได้
นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พลังงานกล่าวว่า มาตรการกระตุ้นการบริโภคในช่วงไตรมาสที่ 4 จะมีเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจเพื่อหมุนเวียนประมาณ 2 แสนล้านบาท เป็นเงินของรัฐบาลประมาณ 6 หมื่นล้านบาท ที่เหลือเป็นการใช้จ่ายของประชาชน
สำหรับรายละเอียดมาตรการ “ช้อปดีมีคืน” ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นการบริโภคในประเทศ สนับสนุน ผู้ประกอบการที่อยู่ในระบบภาษี ส่งเสริมการผลิตสินค้าท้องถิ่น และส่งเสริมการอ่าน โดยเป็นการลดหย่อนภาษี เงินได้บุคคลธรรมดาในปีภาษี 2563 สำหรับค่าซื้อสินค้าและบริการให้แก่ผู้ประกอบการจดทะเบียนตามจำนวนที่ จ่ายจริง แต่รวมกันไม่เกิน 30,000 บาท ซึ่งมีกลุ่มเป้าหมาย คือ กลุ่มผู้เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา กลุ่มผู้ประกอบการประเภทผู้ประกอบการค้าสินค้าและบริการที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มและผู้ประกอบการขาย หนังสือและสินค้า OTOP
โดยไม่รวมสินค้าเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ยาสูบ สลากกินแบ่งรัฐบาล น้ำมัน ค่าที่พัก และค่าตั๋วเครื่องบิน มาตรการจะมีระยะเวลาดำเนินการตั้งแต่วันที่ 23 ตุลาคม – 31 ธันวาคม 2563 เพื่อใช้ ลดหย่อนภาษีในปีภาษี 2563 ณ มีนาคม 2564 โดยคาดว่าจะมีเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจเนื่องจากการดำเนิน มาตรการทั้งหมดประมาณ 1.2 แสนล้านบาท
อย่างไรก็ตามหากประชาชนได้ใช้สิทธิ์โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่ง รัฐ หรือโครงการคนละครึ่งแล้ว จะไม่สามารถใช้สิทธิ์ได้