เมื่อเข้าสู่ฤดูหนาวได้เริ่มกลับมาแพร่ระบาดมากขึ้น แต่ความรุนแรงของอาการนั้น กลับพบไม่มากนัก เนื่องจากส่วนใหญ่มีภูมิคุ้มกันที่ได้จากทั้ง วัคซีนโควิด และ จากการติดเชื้อตามธรรมชาติ ซึ่งส่วนใหญ่มักจะรักษาด้วยการกินยาตามอาการ
โดยยาส่วนใหญ่ที่พบ มักจะเป็นยาที่สกัดจากสมุนไพร อย่าง “ฟ้าทะลายโจร” ซึ่งแพทย์ส่วนใหญ่แนะนำให้กินได้ทันทีเมื่อรู้สึกว่าเริ่มมีอาการ แม้จะยังตรวจไม่พบ 2 ขีดก็ตาม
โดย “หมอดื้อ” ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊ก ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา Thiravat Hemachudha แนะนำถึงวิธีการทาน “ฟ้าทะลายโจร” ตามที่ กระทรวงสาธารณสุข อย. แนะนำ โดยมีรายละเอียดดังนี้
– ต้องเริ่มทาน เมื่อมีอาการเลย เช่นเดียวกับยาต้านไวรัสทุกชนิด
– แต่ละยี่ห้อจะมีการกินที่ต่างกัน ซึ่งขึ้นอยู่กับตัวออกฤทธ์ว่ามีมากน้อยเท่าใด
ข้อควรระวัง
– ATK ขึ้นสองขีดช้า หรือไม่ขึ้นก็ได้ (แม้แต่ อย. สหรัฐเอง ก็ประกาศเตือนเช่นกัน)
– เมื่อเหลือขีดเดียวก็ยังมีเชื้อสามารถแพร่ได้ ทางห้องปฏิบัติการของเราพบว่าแม้แต่เหลือขีดเดียว ยังมีปริมาณไวรัสมากพอสมควร เช่นเดียวกับรายงานจากต่างประเทศ
– ถ้าเป็นและอาการหายแล้ว เหลือขีดเดียว ยังคงต้องใส่หน้ากาก ทานข้าวคนเดียวต่ออีกสองถึงสามวัน
ซึ่ง “หมอดื้อ” ได้อธิบายเพิ่มเติมว่า “ฟ้าทะลายโจร” ทานเพื่อรักษาไม่ใช่ป้องกัน ไม่ใช่ทานทุกวัน ถ้าทานยาละลายลิ่มเลือด กลุ่ม warfarin ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเพื่อการปรับขนาด เพราะ warfarin จะออกฤทธิ์มากไป ซึ่ง “ฟ้าทะลายโจร” จะได้ผลก็ต่อเมื่อ ทานเร็วเมื่อเริ่มมีอาการ ขณะที่ ยาแผนปัจจุบ้น จะได้ผลเมื่อทานเร็วเช่นกัน
สำหรับคำถามที่ว่า จนถึงวันนี้ยังใช้ “ฟ้าทะลายโจร” อยู่หรือ ?
คำตอบคือ ใช่ เพราะ “ฟ้าทะลายโจร” ออกฤทธิ์ หลายตำแหน่งของกลไกของไวรัส เมื่อทานตามที่ อย. กำหนดขนาดแล้วแต่ยี่ห้อ ถ้าแพ้ก็ใช้ยี่ห้อที่มี ตัวที่ออกฤทธิ์เลย คือ แอนโดรกราโฟไลท์