นายกรัฐมนตรีเตือนอย่าขึ้นราคาสินค้าหวังทุจริตโครงการ “คนละครึ่ง” / “เราชนะ” วอนเห็นใจผู้มีรายได้น้อย เร่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจร้านค้าที่กระทำผิด

วันนี้ (23 ก.พ. 64) เวลา 13.30 น. ณ โถงตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เผยถึงสถานการณ์เศรษฐกิจภายในประเทศ โดยดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม เดือนมกราคม 2564 อยู่ในอันดับที่ 83.5 ซึ่งถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีขึ้น การส่งออกรถยนต์ขยายตัว แนวโน้มเศรษฐกิจปี 2564 คาดว่าจะดีขึ้นตามลำดับ จากมาตรการดูแลเศรษฐกิจของรัฐบาลผ่านโครงการต่าง ๆ รวมทั้งมาตรการทางด้านการเงินเพื่อแบ่งเบาภาระหนี้สินของผู้ประกอบธุรกิจรายย่อย และประชาชน รวมถึงสินค้าเกษตรที่มีราคาเพิ่มสูงขึ้น อาทิ ข้าวเปลือกเจ้า ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ หัวมันสำปะหลัง ปาล์ม ยางแผ่นดิบ และไก่พันธุ์เนื้อ ซึ่งจะส่งผลดีต่อเกษตรกร ผู้ประกอบการ ผู้ผลิตด้วย

นายกรัฐมนตรีมอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในระดับพื้นที่เร่งตรวจสอบการขึ้นราคาสินค้าโดยไม่มีเหตุผลและไม่มีความจำเป็น สุ่มเสี่ยงต่อความผิดทุจริตหากมีการขึ้นราคาสินค้าผิดปกติเพื่อหวังประโยชน์จากโครงการคนละครึ่ง ขอให้เห็นใจผู้มีรายได้น้อยที่ได้รับความยากลำบาก ซึ่งได้ย้ำในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีให้ตรวจสอบหากมีการทุจริตภายในโครงการใด ๆ ก็ตาม เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหาย รวมทั้งจะนำผู้กระทำผิด หรือผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องมาลงโทษตามกฎหมาย ด้วย

ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงแนวทางเกษตร BCG รวมทั้งการแก้ปัญหาการเผาอ้อย ซึ่งจะให้มีประชาสัมพันธ์การจัดการและการใช้ประโยชน์จาก กากน้ำตาล ใบอ้อย สร้างมูลค่าเพิ่มและตอบสนองต่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมโลก และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งนายกรัฐมนตรียังหยิบยกภาวะน้ำประปาเค็มที่เหตุจากน้ำทะเลหนุน และน้ำต้นทุนในการผลักดันระบบนิเวศมีไม่เพียงพอ เนื่องจากปริมาณของน้ำฝน จึงต้องมีนโยบายจัดทำประตูน้ำเพิ่มเติมในแม่น้ำสายสำคัญให้สามารถกักเก็บน้ำและระบายน้ำได้เมื่อมีปัญหา
………………..