“รัฐบาล” เปิดงาน Kick Off กิจกรรมแสดงพลังทำความดีกลุ่มผู้ต้องขัง เฉลิมพระเกียรติพระชนมพรรษา 6 รอบอย่างยิ่งใหญ่
นครราชสีมา – “รัฐบาล”ผนึกพลัง 3 กระทรวง จัดกิจกรรม KICK OFF แสดงพลังการทำความดีของผู้ต้องราชทัณฑ์ ผ่าน “โครงการร่วมใจภักดิ์ รักษ์สิ่งแวดล้อม เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ” เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ต้องขัง ผู้ถูกคุมความประพฤติทั่วประเทศกว่า 70,000 คนแสดงพลังในการทำความดีด้วยการบำเพ็ญประโยชน์ เพื่อชดเชยความเสียหายที่เคยได้กระทำกลับคืนสู่สังคม
โดยวันนี้ (15 พฤษภาคม 67) เวลา 14.00 น. ที่ทัณฑสถานเกษตรอุตสาหกรรมเขาพริก จังหวัดนครราชสีมา นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการร่วมใจภักดิ์ รักษ์สิ่งแวดล้อม เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 พร้อมด้วยพลตำรวจเอก พัชรวาท วงษ์สุวรรณรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติแลสิ่งแวดล้อม, ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์, พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม, นายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์, นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, นางพงษ์สวาท นีละโยธิน ปลัดกระทรวงยุติธรรม รวมถึงคณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงทรัพยากรธรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกระทรวงยุติธรรม กลุ่มผู้ก้าวพลาดจากกรมราชทัณฑ์ กรมคุมประพฤติ และกรมพินิจและคุ้มครองเด็ก ร่วมโครงการดังกล่าว
โดยกิจกรรมมีการปล่อยแถวผู้ร่วมกิจกรรมรักษ์สิ่งแวดล้อมออนไลน์ 5 พื้นที่ภูมิภาคและมีการปล่อยแถวผู้ต้องขัง ผู้ถูกคุมประพฤติและเด็กสถานพินิจฯ ที่ทัณฑสถานเกษตรอุตสาหกรรมเขาพริก เพื่อร่วมปลูกป่า 100 ไร่ นอกจากนี้นายกรัฐมนตรียังได้มอบใบประกาศยกย่องคนต้นแบบที่ผ่านการอบรม โคกหนองนา แห่งน้ำใจและความหวัง กรมราชทัณฑ์และปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและบุคคลจิตอาสา อนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจำนวน 10 ราย รวมทั้งเยี่ยมชมนิทรรศการ 2 กระทรวง “ภายใต้แนวคิด ยุติธรรมเสริมทรัพย์” ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่าง 3 องค์กรในการนาผู้ก้าวผิด คิดพลาด มาเป็นพลังในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมผ่านกิจกรรมต่างๆอีกด้วย
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ด้วยมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2567 เรื่องการจัดกิจกรรมแสดงพลังในการทำความดีของกลุ่มผู้ต้องราชทัณฑ์ โดยการดำเนินโครงการนี้เป็นการแสดงพลังของผู้กระทำผิดที่กระทรวงยุติธรรมดูแล ด้วยการทำงานสาธารณประโยชน์ให้แก่สังคม อันเป็นการชดเชยความเสียหายที่ได้กระทำไป โดยให้มีการดำเนินงาน ภายใต้ความร่วมมือของ 3 กระทรวง ประกอบด้วย กระทรวงยุติธรรม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ภายใต้ชื่อโครงการ “ร่วมใจภักดิ์ รักษ์สิ่งแวดล้อม เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567”
ซึ่งการดำเนินงานแบ่งเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรก กระทรวงยุติธรรมจะนำผู้ก้าวพลาดไปร่วมในการจัดกิจกรรมในพื้นที่ต่างๆ ที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กลุ่มที่ 2 เป็นการจัดกิจกรรมในพื้นที่ของกระทรวงยุติธรรม และจัดขึ้นภายใต้ 5 กิจกรรมหลัก ได้แก่กิจกรรมปลูกป่าและการเพิ่มพื้นที่สีเขียว ประกอบด้วย การปลูกป่าทั้งป่ายกและป่าชายเลนกิจกรรมการเก็บขยะชายฝั่งกิจกรรมขุดลอกคูคลองพัฒนาแหล่งน้ำ และการขุดลอกท่อระบายน้ำ ดำเนินการพื้นที่ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลกิจกรรม Green Justice ยุติธรรมพิทักษ์สิ่งแวดล้อม เนื่องจากหน่วยงานของกระทรวงยุติธรรม ตั้งอยู่ในทุกจังหวัด ทั้งเรือนจำทัณฑสถาน สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน และสำนักงานคุมประพฤติ
โดยเฉพาะในเรือนจำที่มีประชากรทั้งผู้ต้องขังและเจ้าหน้าที่อยู่ร่วมกันเป็นจำนวนมากในแต่ละแห่ง ถือเป็นชุมชนขนาดใหญ่ ซึ่งหากไม่มีการบริหารจัดการที่ดีจะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในชุมชนหรือเมืองที่สถานที่นั้นตั้งอยู่ รวมถึงส่งผลกระทบต่อสุขอนามัยของผู้ที่อยู่อาศัยด้วย ดังนั้น กระทรวงยุติธรรมจึงมีแนวคิดที่จะให้มีกิจกรรม Green Justice ขึ้น ภายในทุกสถานที่ควบคุมและสถานฟื้นฟู ซึ่งจะมีการบริหารจัดการในเรื่องของการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม การเพิ่มพื้นที่สีเขียว การจัดการขยะการบำบัดน้ำเสีย เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมการอบรมให้ความรู้ทางด้านการอนุรักษ์หลักสูตรสิ่งแวดล้อม เช่น หลักสูตรพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ หลักสูตรอาสาสมัครดับไฟป่า หลักสูตรทางด้านการเกษตร และอบรมให้ความรู้เรื่องป่า 3 อย่าง ประโยชน์4 อย่าง ซึ่งเป็นแนวคิดที่สอดคล้องกับโครงการพระราชทาน “โคกหนองนาแห่งน้ำใจและความหวัง กรมราชทัณฑ์” ที่นำมาอบรมให้ความรู้แก่ผู้ต้องขังก่อนที่จะปล่อยตัวพันโทษ อันจะเป็นการต่อยอดองค์ความรู้และแนวคิดในการปฏิบัติตัวภายหลังพ้นโทษได้ต่อไป ซึ่งกลุ่มเป้าหมายที่จะอบรมความรู้ คือ กลุ่มผู้ต้องขังกรมราชทัณฑ์ กลุ่มผู้ถูกคุมประพฤติ กรมคุมประพฤติและกลุ่มเด็กและเยาวชน กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน
นอกจากนี้ในวันเดียวกัน ยังได้จัดกิจกรรม Kick Of ปล่อยคาราวานแถวผู้ร่วมกิจกรรมพร้อมกัน 77 จังหวัด ณ เรือนจำและทัณฑสถานทั่วประเทศ และได้มีการถ่ายทอดสดใน 5 พื้นที่ภูมิภาคอีกด้วย ได้แก่
1.ภาคเหนือ จังหวัดน่านจัดกิจกรรมปลูกต้นไม้ในเขตอุทยานแห่งชาติศรีน่าน 2 ภาคกลาง กรุงเทพมหานคร จัดกิจกรรมขุดลอกท่อระบายน้ำ ณ เรือนจำกลางคลองเปรม 3.ภาคใต้ จังหวัดสงขลา จัดกิจกรรมพัฒนา แหล่งน้ำพื้นที่คลองระบายน้ำรัชกาลที่ห้า 4.ภาคตะวันออก จังหวัดระยอง จัดกิจกรรมอบรมความรู้ด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในพื้นที่เรือนจำชั่วคราวเขาไม้แก้ว สังกัดเรือนจำกลางระยอง 4 พื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ จังหวัดปัตตานี จัดกิจกรรมปลูกป่า เก็บขยะชายฝั่ง ณ หาดตะโละกาโปร์ อำเภอยะหริ่ง และ 5.ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ณ ทัณฑสถานเกษตรอุตสาหกรรมเขาพริก จังหวัดนครราชสีมา
ด้านพันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวเพิ่มว่า การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ มุ่งหวังให้ผู้ก้าวพลาดที่กระทรวงยุติธรรมดูแลได้มีโอกาสทำงานสาธารณประโยชน์และบริการสังคมอันจะเป็นการชดเชยความผิดที่ได้กระทำให้กับสังคม ซึ่งเป็นการ นำพลังขอผู้ก้าวพลาดมีส่วนร่วมในการพัฒนาให้พื้นที่ต่างๆ ของประเทศมีสภาพแวดล้อมที่ดีขึ้น ทั้งในเรื่องของการบริหารจัดการพื้นที่สีเขียว การจัดการขยะ และการจัดการน้ำ โดยกิจกรรมต่างๆเหล่านี้เป็นกิจกรรมที่เกี่ยวกับการอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งเมื่อได้พัฒนาพื้นที่ต่าง ๆ แล้วย่อมส่งผลที่ดีต่อสภาพแวดล้อม ชุมชนและสั่งคม รวมถึงเป็นการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในปีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 อีกด้วย.
///ประสิทธิ์ ตั้งประเสริฐ // นครราชสีมา