“สุวัจน์”เปิดการแข่งขันเจ็ตสกีโปรทัวร์ 2020 ชี้ ต้องนำกีฬาระดับโลกมาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวหลังโควิด
เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2563 เวลา 14.50 น.ณ อ่าวประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดการแข่งขันเจ็ตสกีโปรทัวร์ 2020 ชิงแชมป์ประเทศไทย สนามที่ 3 ประจำปี 2563 ร่วมกับนายภิรมย์ นิลทยา รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นาวาอากาศเอกชยศว์ สวรรค์สรรค์ บังคับการกองบิน 5 นายชวลิต ขาวปลอด หัวหน้าสำนักงาน อ.ส.ค.ภาคใต้ ร่วมกับภาครัฐและเอกชนจำนวนมาก
นายสุวัจน์ กล่าวเปิดงาน ว่าเรื่องของมาตรการที่ทางราชการได้กำหนด ในการที่มีการเปิดการแข่งขันกีฬา ในเรื่องของที่นั่งและระยะห่าง หรือการตรวจสุขภาพก่อน 14 วัน ทุกอย่างผมๆ ก็คิดว่าเป็นเรื่องที่ดีที่มีความชัดเจน เพื่อให้สมาคมกีฬาต่างๆ ได้ให้การร่วมมือกับราชการ และทำให้เราสามารถจัดการแข่งขันกีฬาได้ เพราะช่วงนี้พี่น้องประชาชนก็คงจะเครียดกันในเรื่องของเศรษฐกิจด้วย และก็ต้องระมัดระวังตัวเรื่องโควิด ถ้าเราสามารถที่จะมีกิจกรรม ที่ทำให้เกิดความสุข แต่ไม่กระทบเรื่องสุขภาพอนามัย ก็จะทำให้ประชาชนได้คลายเครียด จากเรื่องปัญหาเรื่องเศรษฐกิจได้
โดยเฉพาะกีฬานี้สำคัญมาก เคยชมกีฬากันช่วงหลังๆ โอกาสที่จะชมน้อย ฉะนั้นรัฐบาลได้ผ่อนปรนและสมาคมกีฬาได้ให้ความร่วมมือ ผมว่าก็จะเป็นบรรทัดฐาน ทำให้เราสามารถที่จะขยายผลของการจัดสรรของการจัดการแข่งขันกีฬาประเภทอื่นๆได้ เพิ่มอีกมากขึ้น
อย่างเช่น ที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นี้ สมาคมเจ็ตสกี ทางจังหวัด ทางกองบิน ก็ได้ร่วมกันจัดขึ้น เป็นสนามที่ 3 ที่ได้จัดชิงแชมป์ประเทศไทย ข้างหลัง พี่น้องก็คงได้เห็นความงดงามของบ้านเมืองเรา เห็นแล้วเราจะภูมิใจ รักชาติ รักบ้านเมือง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ถือว่าเป็นจังหวัดท่องเที่ยวที่สำคัญ
นายสุวัจน์ บอกว่าจริงๆ พูดถึงประจวบฯ ทุกคนก็จะนึกถึง “หัวหิน” ซึ่งเมืองประจวบนี้ ก็สวยอีกแบบเป็นเมืองสามอ่าว อ่าวน้อย อ่าวมะนาว อ่าวประจวบ มีความงดงาม พอมองออกไปมีเกาะแก่ง ตอนนี้นักท่องเที่ยวมาเยอะ และเจ็ตสกีมาแข่ง สถานที่นี้ ได้ถ่ายทอดสดให้พี่น้องประชาชนชาวไทย ชมก็จะดึงดูดให้คนอยากจะมาเที่ยว ยิ่งตอนนี้รัฐบาลได้พยายามที่จะโปรโมท เรื่องการท่องเที่ยว ชวนคนไทยออกมาเที่ยวด้วยกัน แฟนๆนักท่องเที่ยวต่างประเทศ พอเห็นความสวยงามอย่างนี้ก็อยากจะมาเที่ยว
“ผมยังคิดว่าต่อไปถ้าหลังสถานการณ์โควิดคลี่คลาย ถ้าเกิดเราสามารถที่จะจัดกีฬาระดับโลก ไม่ว่าเป็นเทนนิส ชกมวย เจ็ตสกี หรือเป็นอะไรที่เรามีนักกีฬาดังๆ และสมาคมมีความสามารถที่จะจัดก็ไปเลือกสถานที่ๆ สวยๆ ที่เกิดผลกระทบจากการท่องเที่ยว เช่น ไปสมุยๆ ตอนนี้ก็แย่เลยผู้ประกอบการ ภูเก็ต ไปตามเมืองท่องเที่ยว ในอดีตก่อนโควิด ที่รุ่งเรือง และได้รับผลกระทบ แล้วพอโควิดจบ เราฟื้นฟูการท่องเที่ยวด้วยการประชาสัมพันธ์ จัดกิจกรรมกีฬาระดับโลก และก็เลือกเมืองที่สำคัญ มันจะเป็นการเรียกความเชื่อมั่น และก็ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั่วโลก ให้กลับมาประเทศไทยอีก อย่างเช่น เจ็ตสกี ก็สามารถไปเลือกทะเลสวยๆ แถว สมุย ภูเก็ต แล้วก็จัดเจ็ตสกี เวิลด์คัฟ ซึ่งประเทศไทย มีขีดความสามารถ เพราะว่ามีการแข่งขันชิงแชมป์โลก หลายประเทศ แต่แชมป์โลกของแชมป์โลก ต้องมาชิงแชมป์โลกที่ประเทศไทย ที่รายการเจ็ตสกี เวิลด์ทัวร์ ที่ประเทศไทยเป็นผู้จัด ก็น่าจะถือโอกาสที่จะจัดเจ็ตสกีเวิลด์ทัวร์นี้ เลือกทำเล โลเคชั่น ที่มีภาพลักษณ์ว่ามาที่นี้คือประเทศไทย” นายสุวัจน์ กล่าวและย้ำว่า
“วันนี้ ถือเป็นตัวอย่างหนึ่งที่กีฬากลับมาแล้ว แต่กลับมาแบบนี้ Social Distancing หน่อย กลับมาสร้างความสุขอีกครั้งหนึ่ง และกีฬาก็เป็นอะไร ที่ทำให้เห็นว่า ช่วยเรื่องเศรษฐกิจได้”