อดีต “พระกาโตะ” รับผิดจริงขอโทษสังคม แจงสัมพันธ์สีกาตอง ถูกจากฝ่ายหญิงหลอกข่มขู่เอาเงิน สึกมาเหลือเงินติดตัว 4 พัน รับพลาดเพราะอายุน้อย ขอโทษทุกฝ่าย
จากกรณีที่รายการโหนกระแส ได้เชิญน.ส.ตอง สาวในคลิปอดีต “พระกาโตะ” หมอปลา และ พระย้อย ออกรายการโหนกระแส ในช่วงเที่ยง ของวันที่ 2 พ.ค. ที่ผ่านมา ในขณะที่กำลังดำเนินรายการ นายพงศกร จันทร์แก้ว หรือ อดีต “พระกาโตะ” ได้ติดต่อเข้ามาในรายการซึ่งเป็นรายการสด เพื่อขอชี้แจงเรื่องราวจากฝั่งตนเอง โดยยืนยันว่า เรื่องราวที่เป็นกระแสข่าวนั้นเป็นเรื่องจริง ยอมรับผิดเหตุเกิดเพราะตนเองอายุยังน้อย อดีต “พระกาโตะ” กล่าวในรายการโหนกระแสว่า มีความจริงที่อยากจะพด ตนเองถูกหลอกมาตั้งแต่ต้น ยอมรับพลาด เพราะอายุน้อย และถูกผู้หญิงยั่ว ตั้งแต่รอบแรกโดนบังคับขู่เอาเงินมาตลอด ต้องรับผิดชอบ มั่นใจถูกแบล็คเมล์ และตั้งใจสึกปลายปีนี้อยู่แล้ว แต่อยากให้วัดเสร็จก่อน
อดีต “พระกาโตะ” กล่าวอีกว่า ยอมรับว่าพลาดแต่แฟนคลับเข้าใจ ผญ.คนนี้เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย ที่ผ่านมาโอนเงินให้ตลอด สึกออกมามีเงินติดตัว 4พัน ที่ออกมาพูดวันนี้ยอมรับว่าแค้น และสงสารวงการสงฆ์ ยืนยัรว่าไม่ได้โกรธ แต่ต้อง ปกป้องตัวเอง เพราะตอนเป็นพระพูดอะไรมากไม่ได้ไม่เหมาะสม และตนเองยังเด็กมีสิ่งยั่วยุ
สำหรับความสัมพันธ์ครั้งที่ 2 ตนเองเริ่มรู้ว่าโดนแบล็คเมลล์แล้ว ที่ผ่านมาให้เงินไปหมดแล้ว แต่ก็ไม่จบ ฝ่ายหญิงยังขอเงินเรื่อยๆ แต่ที่ต้องให้เพราะพลาดไปแล้ว และฝ่ายหญิงมีทีท่าเริ่มพยายามมาหาตลอด ส่วนเรื่องความรู้สึกยืนยันว่าไม่ได้แอบหลงรักหญิงคนดังกล่าว แต่โดนยั่วยุ และที่ออกมาพูดในวันนี้ไม่กลัวสังคมด่า เพราะยอมรับในสิ่งที่กระทำ
อดีต “พระกาโตะ” ยังเปิดเผยอีกด้วยว่า ที่ผ่านมาอยากให้เรื่องจบ อยากให้ไม่พัวพัน ฝ่ายหญิงเคยขอเงิน 1แสนบาท ก็ให้เพราะอยากเรื่องจบ และคิดว่าจะจบแล้ว และตั้งใจจะสึกปลายปีนี้ เพราะตั้งใจสร้างวัดให้เสร็จก่อน แต่ฝ่ายหญิงไม่จบ ยังมาขอเงินไปทำงานที่กทม.ขอเงินซื้อโน๊ตบุค อ้างว่ามีโรคประจำตัวกำลังรักษาตัว และยังขอทอง ขอแหวน เลยเริ่มมีความขัดแย้งขึ้น และคิดว่าโดนหลอกเงินแล้ว และเชื่อว่าถ้าปัดความรับผิดชอบ ต้องโดนเล่นงานแน่ นอกจากนี้ยังมีการทำสัญญาให้ช่วยจ่ายค่าบ้าน ถ้าไม่ให้อ้างหมอปลาทันที
ส่วนกรณีเงินที่ให้หญิงสาวนั้น ยืนยันไม่ได้เอาเงินวัดมาใช้ เอาเงินจากที่ไปเทศน์ เป็นเงินส่วนตัวมาให้ ส่วนเงินงวด 3แสนที่ให้ไปนั้น ฝ่ายหญิงอ้างต้องรักษาโรคไบโพลาร์ และได้เสนอขอเงิน 3-5 แสน ฝ่ายพระกาโตะต้องให้ ไป3แสน แต่ไม่จบ จึงขอคำปรึกษาพระผู้ใหญ่
อดีต “พระกาโตะ” กล่าวขอโทษยอมรับว่าขาดสติ ส่วนกรณีพระย้อย ที่อยู่ในรายการดังกล่าว ไม่มีอะไรจะคุยด้วย เพราะไม่รู้จักพระย้อยอยู่ๆก็มีเรื่อง แต่เคยมีคนเตือนให้ระวัง ส่วนตัวไม่รู้จักกัน และอยากขอให้สังคมยุติเรื่องนี้ วันนี้ออกมาพูดความจริงแล้ว
ส่วนกรณีความสัมพันธ์กับ น.ส.ตอง ยืนยันไม่กลับมาคบกันแน่นอน เพราะเชื่อว่าผู้หญิงตั้งใจกลั่นแกล้ง ที่ผ่านมาไม่เคยทำแบบนี้ นี่เป็นครั้งแรกเลย และได้ตัดสินใจสึกเอง ไม่ได้โดนจับสึก ยืนยันไม่กลับไปบวชอีก ตั้งใจไว้แล้ว เอาความสามารถไปใช้ให้เป็นประโยชน์ ไปทำคลิปสนุกสนาน ไปขายของออนไลน์ ส่วนเงิน 3แสนที่ให้น.ส.ตองไปเพื่อให้จบเรื่อง แต่ทางน.ส.ตองไม่ยอมจบ ตนเองไม่เอาคืน ถ้าฝ่ายหญิงอยากคืนไปทำบุญที่วัดดีกว่า
เมื่อถูกถามว่า ทำไมปฏิเสธในตอนแรก อดีต“พระกาโตะ” กล่าวว่า อยากพูดตอนสึกออกมาก่อน พูดตอนใส่ผ้าเหลืองมันไม่งาม อยากออกมาพูดในฐานะฆราวาส พร้อมทั้งขอโทษสังคม ขอโทษศาสนา ขอโทษพระผู้ใหญ่น้อมรับผิดแต่เพียงผู้เดียว ตนเองยังเด็กยังอ่อนพระธรรมวินัย วันนี้ที่ออกมาเพราะอยากปกป้องพระศาสนาด้วย ขอโทษคู่กรณี ขอโทษทุกสิ่งที่ได้ทำผิดไป