แผนธุรกิจใหม่! การยาสูบแห่งประเทศไทย เล็งขาย “กัญชา” แทนบุหรี่

การยาสูบแห่งประเทศไทย เล็งขายกัญชาแทนบุหรี่ หลังปรับภาษีเพิ่ม

23 ก.พ.2562 นางสาวดาวน้อย สุทธินิภาพันธ์ ผู้ว่าการการยาสูบแห่งประเทศไทย (ยสท.) เปิดเผยถึงแผนดำเนินธุรกิจหลังการปรับขึ้นภาษีสรรพสามิตบุหรี่ 40%ว่า ยสท.ได้ทำ 2 ด้านคู่ขนานกัน คือการเสนอข้อมูลให้รัฐบาลพิจารณาขยายเวลาบังคับใช้การเก็บภาษีสรรพสามิตบุหรี่ ในอัตรา 40% ซึ่งจะเริ่มในวันที่ 1 ต.ค.62 นี้ออกไป เพราะถ้าไม่มีการขยายเวลา ก็จะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมยาสูบลดลงเป็นอย่างมาก เนื่องจากทำให้บุหรี่ของ ยสท. แพงขึ้น เป็นไม่ต่ำกว่า 93 บาทต่อซอง หรือเพิ่มขึ้นอีก 33 บาทต่อซอง เนื่องจากเนื้อภาษีเพิ่มขึ้นเป็น 78 บาทต่อซอง และแม้ราคาจะแพงขึ้น ผู้บริโภคก็ไม่เลิกสูบ แต่จะไปสูบบุหรี่เถื่อนและยาเส้นมากขึ้น

“ถ้ารัฐไม่เลื่อนใช้ภาษี คาดว่า สัดส่วนในตลาดทั้งบุหรี่ไทยและนำเข้า กว่า 3.2 หมื่นล้านมวนต่อปี ก็จะลดลงเหลือ 1.9 หมื่นล้านมวน ขณะที่ของ ยสท. จากกำลังการผลิต 1.9 หมื่นล้านมวนก็จะเหลือแค่ 8,500 พันล้านมวนต่อปี ซึ่ง ยสท.จะต้องปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ นอกจากขายบุหรี่ เราก็ต้องทำธุรกิจอื่น ซึ่งมีการเตรียมตัวไว้บ้างแล้ว”

นางสาวดาวน้อย กล่าวว่า ภายใต้กฎหมายใหม่ ที่เปลี่ยนจากโรงงานยาสูบ เป็น นิติบุคคล ภายใต้ชื่อ ยสท. ทำให้ ยสท.สามารถทำธุรกิจอื่นได้เพิ่มขึ้น โดยมั่นใจว่าแม้จะได้รับผลกระทบจากภาษี 40% ยาสูบก็จะกลับมาทำกำไรได้ภายใน 3 ปี ที่ 2-3 พันล้านบาท โดยเบื้องต้นจะดำเนินการใน 5 แนวทาง คือ

1.เป็นหน่วยงานสนับสนุนการปลูกกัญชา-กัญชง เพื่อใช้ในอุตสาหกรรมการแพทย์และเวชภัณฑ์ ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ โดยจะดูแลตั้งแต่เกษตรกรผู้ปลูก กระบวนการผลิต ซัพพลายเออร์ และนำร่องใช้กัญชากับ โรงพยาบาลของ ยสท. ซึ่งอยู่ในกระบวนการยื่นขออนุญาตจากกระทรวงสาธารณสุข

2.ดำเนินการขายยาเส้นและใบยา ซึ่งขณะนี้ ยสท.มีสต็อกที่รับซื้อจากเกษตรกร เพียงพอใช้ได้ถึงปี 2566 โดยทยอยขายลดสต็อกได้ไปแล้วกว่า 6 เดือน ซึ่งต้องค่อยๆทยอยดำเนินการ เพราะส่วนใหญ่เป็นใบยาที่รับซื้อมาในต้นทุนแพง เฉลี่ยบวกเพิ่ม 24 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งตามกฎหมายไม่สามารถขายต่ำกว่าต้นทุนได้ หากจะขายต่ำกว่าต้นทุนต้องเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบ

3.นำบุหรี่ไปขายในต่างประเทศเพิ่มขึ้น ซึ่งขณะนี้ ยสท.ปรับโครงสร้างใหม่ มีฝ่ายขายและฝ่ายการตลาด เน้นทำงานเชิงรุกเพิ่มขึ้นอีก 3-4 กอง ในการส่งออกบุหรี่ที่มีอยู่เดิม รวมทั้งคิดผลิตภัณฑ์ใหม่ไปขายในต่างประเทศ

4.วางแผนการขายยาเส้น

5.ร่วมลงทุนกับบริษัทต่างประเทศ ในกระบวนการผลิตยาสูบ ซึ่งขณะนี้ อยู่ระหว่างเจรจากับบริษทเอกชนในเวียดนามที่จะให้ ยสท.เข้าไปร่วมผลิตบุหรี่ เพื่อจำหน่าย