รมต. เทวัญ ลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ถวายหน้ากากอนามัยและหารือมาตรการเยียวยาพระสงฆ์ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19
วันนี้ (27 มิถุนายน 2563) เวลา 09.00 น. นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายณัฏฐชัย ศรีรุ่งสุขพินิจ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายธงชัย ลืออดุลย์ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และนางทัศนีย์ ผลชานิโก รองอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ เดินทางไปยัง วัดเจย์ดีหลวงวรวิหาร และวัดพระธาตุดอยคำ ถวายหน้ากากอนามัยเจ้าอาวาส และหารือมาตรการเยียวยาพระสงฆ์ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19
จุดแรกรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีได้เข้ากราบพระอัฏฐารส เป็นพระพุทธปฏิมาประธานในพระวิหารหลวง วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร กราบรูปเหมือนพระเทพวุฒาจารย์ (ชูเกียรติ อภโย) อดีตเจ้าอาวาสวัดเจย์ดีหลวง จากนั้นเข้ากราบพระกิตติวิมล และถวายหน้ากากอนามัยแด่พระสงฆ์
จุดที่สองรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เดินทางไปยังวัดพระธาตุดอยคำ เข้ากราบสักการะหลวงพ่อทันใจ และกราบนมัสการพระครูสุนทรเจติยารักษ์ เจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยคำ และถวายหน้ากากอนามัยแก่พระสงฆ์ จากนั้นได้ร่วมสนทนาธรรม หารือมาตรการเยียวยาพระสงฆ์และการให้ความช่วยเหลือ
จากสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 รัฐบาลได้มีมาตรการให้ปิดสถานที่ต่างๆ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด ส่งผลให้พระสงฆ์ได้รับผลกระทบ ไม่มีญาติโยมเดินทางมาทำบุญ ใส่บาตร อีกทั้งทางวัดยังต้องรับภาระค่าน้ำ ค่าไฟ และดูแลผู้ยากไร้ที่มาขอความช่วยเหลือ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีจึงเสนอมาตรการเยียวยาพระสงฆ์ต่อ ครม. โดยให้พระสงฆ์รูปละ 60 บาทต่อวัน เพื่อสนับสนุนค่าอาหาร ค่าน้ำ ค่าไฟ และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ภายในวัด ขณะนี้อยู่ระหว่างการหารือว่าจะใช้งบประมาณในส่วนใด และส่งเงินให้ทางวัดเป็นผู้บริหารจัดการ ย้อนหลังตั้งแต่เดือนเมษายนจนถึงมิถุนายน เป็นระยะเวลา 3 เดือน โดยใช้เกณฑ์ตัวอย่างกรณีปี 2552 ที่รัฐบาลเยียวยาพระสงฆ์ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเยียวยาเป็นเงินรูปละ 100 บาทต่อวัน
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ภายหลังมาตรการผ่อนปรนของรัฐบาล วัดต่างๆ สามารถเปิดให้ประชาชนเข้ากราบพระได้ตามปรกติ และในช่วงเข้าพรรษาทางวัดหลายวัดได้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งต้องขอความร่วมมือประชาชนร่วมปฏิบัติตามอย่างเคร่ง เช่น สวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง และหมั่นล้างมือเป็นประจำ