“โฆษกรัฐบาล” ปัด ถังแตก หลังจ่าย “เบี้ยผู้สูงอายุ-ผู้พิการ” ล่าช้า แจง จำนวนผู้ได้สิทธิ์เพิ่ม จากข้อมูลเดิม ก.พ.62 ชี้ ปัญหาอยู่ที่ระบบ วิธีชำระเงิน เชื่อหลังปี 63 จะไม่ช้าอีก
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงถึงประเด็นปัญหาการจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ และเบี้ยคนพิการ ประจำเดือน ก.ย. 2563 ล่าช้า ว่ายอมรับว่าการตั้งงบประมาณปี 2563 เป็นข้อมูลจำนวนของผู้สูงอายุ และคนพิการ เป็นข้อมูลของเดือนก.พ.ปี 2562 ตัวเลขการชำระเงินและจำนวนคนที่ได้รับเบี้ยไม่ตรงกับความเป็นจริง โดยเบี้ยของคนพิการ เมื่อก.พ.62 มีจำนวน 1.8 ล้านคน ขณะที่ตัวเลขใหม่ในเดือนก.ย.ปี 63 ที่ต้องชำระเพิ่มขึ้นมา 2.6 แสนคน
นายอนุชา กล่าวว่า ส่วนจำนวนผู้สูงอายุในเดือนก.พ. 62 มีจำนวน 8.7 ล้านคน ขณะที่เดือนก.ย.63 มีจำนวนผู้สูงอายุเพิ่มขึ้น 1.8 แสนคน สะท้อนให้เห็นว่า ตัวเลขจำนวนผู้ได้สิทธิเพิ่มขึ้นส่วนที่เกิดความล่าช้านั้น นอกจากจำนวนคนที่เพิ่มขึ้นแล้ว ยังไม่ได้ใช้ระบบอีเพย์เมนต์ แต่พบว่าปีนี้ได้เริ่มใช้ระบบอีเพย์เมนต์จะทำให้ประชาชนรับเงินเข้าบัญชีจากกรมบัญชีกลางได้ทันทีประมาณร้อยละ 80 ส่วนอีกร้อยละ 20 จะให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรับผิดชอบ โดยใช้เงินสดหรือมารับด้วยตัวเอง
นายอนุชา กล่าวว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ได้เกิดขึ้นเพราะไม่มีงบประมาณแต่เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับการเปลี่ยนระบบและวิธีการชำระเงิน รวมทั้งจำนวนผู้ได้รับสิทธิ์เพิ่มขึ้น และเชื่อว่าหลังจากปี 63 ที่เปลี่ยนระบบแล้วเมื่อผู้ลงทะเบียนได้รับสิทธิแล้วก็จะได้รับเงินทันทีในเดือนถัดไป และจะไม่เกิดความล่าช้าอีก
นายอนุชา กล่าวอีกว่า ส่วนการที่ต้องใช้งบประมาณปี63ไปพลางก่อนนั้น เนื่องจากพ.ร.บ.งบประมาณปี 64 ประกาศใช้ไม่ทันเดือนต.ค.นี้ และล่าช้าไม่น่าจะเกิน 1 สัปดาห์ เนื่องจากขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของสภาในวาระที่ 2 – 3 ในสัปดาห์นี้ ซึ่งจะมีการชี้แจงรายละเอียดหลังการประชุมครม. ในวันพรุ่งนี้อีกครั้ง เพราะทางสำนักงบประมาณจะนำเรื่องดังกล่าวเข้าที่ประชุมครม.ให้มีมติรับทราบ ที่จะต้องมีการใช้งบประมาณปี 63 ไปพลางก่อน