“สุวัจน์” ร่วมกับ”ผู้ว่าฯประจวบ”
กระตุ้น Amazing Hua-Hin Travel Fair 2021 เที่ยวต้องมีนิวนอมอล สวมหน้ากาก ล้างมือ รักษาระยะห่าง ทุกคน
เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2564 เวลา 16.00 น.ศูนย์การค้าบูลพอร์ต หัวหิน นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ร่วมกับดร.พัลลภ สิงหเสนี ผู้ว่าฯ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายกฤษณะ แก้วธำรง รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย นางวาสนา ศรีกาญจนา นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวหัวหิน-ชะอำ เปิดงาน Amazing Hua Hin Travel Fair 2021 งานสุดยอดมหกรรมการท่องเที่ยว รวมแพคเกจที่พักโรงแรม รีสอร์ท และสถานประกอบการท่องเที่ยวชื่อดังในราคาสุดพิเศษ ณ ลานอีเว้นท์พอร์ต ชั้น G และลานพอร์ตวอล์ค ชั้น B ศูนย์การค้าบูลพอร์ต หัวหิน ในงานเทศกาลสงกรานต์ ระหว่างวันที่ 8-18 เมษายน 2564
นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่าเป็นที่น่าเสียใจที่ช่วงนี้ สถานการณ์โควิดเริ่มมีทีท่าจะกลับมาใหม่ ที่ผ่านมาเราได้บทเรียนกันแล้ว แต่เราก็ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากพี่น้องประชาชน ทั่วโลกมีการยอมรับว่าประเทศไทยเอาอยู่เรื่องโควิด เรามีพลาดนิดหนึ่งก่อนปีใหม่ มีสถานการณ์เรื่องเกี่ยวข้องกับแรงงานที่มหาชัยจนมาเป็นการระบาดรอบสอง แต่เราก็ร่วมมือฝ่าฟันและผ่านรอบสองกันมาได้ก็คิดว่าจบและมีความหวังไปสู่ที่ดีขึ้น เพราะเริ่มมีการฉีดวัคซีนก็หวังว่าสงกรานต์ปีนี้ เราจะมีความสุขจริงๆ กันสักที รัฐบาลมีความตั้งใจให้พี่น้องประชาชนมีความสุขเต็มที่ หยุดยาวทุกคนมีการวางแผน มีการจองที่พัก แต่แล้ว 2-3 วันนี้ เป็นเรื่องที่น่าเสียใจ ที่เริ่มมีการแพร่ระบาดจากปัญหาเรื่องผับต่างๆ ซึ่งทำให้เกิดความวิตกกังวลกับพี่น้องประชาชน เหมือนมาแย่งความสุขจากพี่น้องประชาชน ความร่วมมือต่างๆ ที่เราทำกันมาก็ทำได้ดีแล้ว แต่ถ้าเราทำให้เต็ม 100 เปอร์เซ็นต์ เพราะเรื่องโควิด ถ้าเราพลาดเพียงจุดๆ เดียวก็เป็นประเด็นขึ้นมา พลาดแค่ครึ่งเปอร์เซ็นต์ก็ไม่ได้
“ผมคิดว่าเราต้องมีกำลังใจที่จะฝ่าฟันกันไป ตอนนี้แต่ละจังหวัดต้องนำบทเรียนการระบาดรอบ 2 บทเรียนการระบาดรอบนี้ หรือจะเรียกว่าการระบาดรอบ 3 ว่าเราผิดพลาดกันได้อย่างไร ว่าเป็นประเด็นไหน เป็นประเด็นการละหลวม หรือเป็นเพราะมาตรการ หรือการบังคับใช้ หรือความร่วมมืออะไรต่างๆ
“ผมคิดว่าเราต้องฝ่าฟันกันไปให้ได้
โควิดยิ่งยาวเท่าไร ยิ่งจัดการยาก และปัญหาเรื่องเศรษฐกิจก็จะยากตามไปอีก ฉะนั้น เราต้องจบโควิดให้เร็ว เพื่อจะจบโควิด และเพื่อจะจบเศรษฐกิจ เราต้องมีความมุ่งมั่นและจริงจัง เราต้องรักษาวินัย และมาตรการต่างๆที่ราชการได้ออกมาใช้บังคับต้องเข้มงวดกวดขันกันจริงๆ ไม่ใช่จะมองแค่ว่าการ์ดตก แต่ภาคการควบคุมดูแล ต้องการ์ดไม่ตกด้วย โดยพื้นฐานทุกคนให้ความร่วมมือ แต่บางทีอาจจะเป็นการผิดพลาด หรืออุบัติเหตุก็ได้ การแพร่กระจายโรคมันเร็ว เช่น ในผับ พลาดจุดเดียว 10-20 คน สืบสวนโรค มีต่อไปอีกเยอะ
จากนี้ไปการร่วมมือและมาตรการที่จะออกมาใหม่ จะมีผลต่อการปฏิบัติ และความร่วมมือจากภาคเอกชนต่างๆ แต่ในภาคประชาชนทั่วไปมีความพร้อมอยู่แล้ว เราเริ่มกันใหม่ เราจับมือกันฝ่าฟันวิกฤตนี้ไปกันให้ได้ ” นายสุวัจน์ กล่าวและย้ำว่า
“ผมคิดว่าถ้าได้มีการประชาสัมพันธ์ มีศูนย์รวมในเรื่องของมาตรการต่างๆ ของแต่ละจังหวัดที่จะนำมาใช้ในช่วงสงกรานต์ที่มีความชัดเจน ก็จะทำให้พี่น้องประชาชนมั่นใจ ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับผู้ประกอบการต่างๆ ก็จะเบาบางลง” นายสุวัจน์ กล่าว
สำหรับมาตรการต่างๆ เมื่อเราได้สร้างความชัดเจนแล้ว ทุกฝ่ายได้ร่วมมือและควบคุมบังคับใช้มาตรการต่างๆ ผมคิดว่าสถานการณ์ต่างๆ คงกระเตืองขึ้น เมื่อเราฉีดวัคซีนมากขึ้น เศรษฐกิจก็จะดีขึ้น และเริ่มคลี่คลาย
“ผมอยากให้พี่น้องประชาชนทุกท่านมีกำลังใจ ผมเชื่อว่า ตราบใดที่คนไทยรักกัน เป็นกำลังใจกัน ให้ความร่วมมือ ไม่ทอดทิ้งกัน เราฝ่าฟันโควิดได้แน่ สิ่งหนึ่งที่แน่นอนที่สุด เราต้องเพิ่งตนเอง ในสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิดสิ่งที่ดีที่สุดก็คือ การใส่หน้ากาก การล้างมือ การรักษาระยะห่าง การที่รู้ว่าที่ไหนควรไป ที่ไหนไม่ควรไป อันนี้ ผมคิดว่า “ตนแลเป็นที่พึ่งแห่งตน” วัคซีนยังไม่มา ก็ไม่เป็นไร ที่ไหนแออัด ที่มีความเสี่ยงเราก็อยู่ห่างๆ ถ้าเราปฏิบัติตัวได้อย่างนี้ได้ มันก็เหมือนกับคู่ขนานกันไปได้ ภารกิจต่างๆที่เราใช้ชีวิตประจำวันอาจจะไม่เต็ม100 อาจจะได้ 80 เปอร์เซ็นต์ แต่เราก็ได้ทั้งสองอย่าง สุขภาพปลอดภัย ธุรกิจเรื่องเศรษฐกิจไม่เต็ม 100 เราก็ได้สัก 80 เปอร์เซ็นต์ สิ่งหนึ่งที่ดีที่สุดสำหรับพี่น้องประชาชนคือ การดูแลตนเอง ใส่หน้ากาก ล้างมือ รักษาระยะห่าง พยายามอยู่สถานที่ที่ปลอดภัย แล้วเราก็จะมีความสุขกัน” นายสุวัจน์ กล่าวทิ้งท้าย