รอลุ้น “คนละครึ่งเฟส 4” กระทรวงการคลัง จะเลื่อนโอนเงินเข้า “แอปฯเป๋าตัง” เร็วขึ้นหรือไม่ หลังกระทรวงสาธารณสุข ยกระดับควบคุม ขึ้นระดับ 4 หลังเชื้อโอไมครอนขยายวงกว้าง
เกาะติดโครงการ “คนละครึ่งเฟส 4” หลังจากคณะรัฐมนตรี หรือ ครม. อนุมัติให้กระทรวงการคลัง ดำเนินโครงการคนละครึ่งเฟส 4 เป็นของขวัญปีใหม่ 2565 ให้กับประชาชน
โดยวัตถุประสงค์ โครงการคนละครึ่ง เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและกำลังซื้อ โดยประชาชน สามารถใช้จ่ายผ่านแอพพลิเคชั่นเป๋าตัง ซึ่งรัฐช่วยจ่าย 50% ผู้ได้รับสิทธิจ่ายเอง 50% จำกัดสิทธิไม่เกิน 150 บาทต่อวัน ใช้ได้ในวงเงินที่รัฐกำหนดตลอดระยะเวลาที่โครงการกำหนด หากใช้ไม่หมดในแต่ละวัน ระบบจะคืนสิทธิที่ไม่ได้ใช้ เข้ายอดรวมของผู้ได้รับสิทธิและจะคำนวณสิทธิใหม่ในเวลา 06.00 น.ของทุกวัน สามารถใช้สิทธิได้ตั้งแต่ช่วงเวลา 06.00-23.00 น. กับทางร้านที่ร่วมรายการเท่านั้น
โดยล่าสุด มีการตั้งคำถามว่า “คนละครึ่งเฟส 4” โครงการจะเลื่อนเร็วขึ้นมาหรือไม่ เพราะ กระทรวงสาธารณสุข ยกระดับควบคุม ขึ้นระดับ 4 หลังเชื้อโอไมครอนขยายวงกว้าง
นายพรชัย ฐิระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวว่า สศค.อยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ในการขยับระยะเวลาการดำเนินโครงการ “คนละครึ่ง” ระยะที่ 4 ให้เร็วขึ้น จากเดิมกำหนดเริ่มดำเนินโครงการในเดือน มี.ค.- เม.ย.นี้ เพื่อบรรเทาผลกระทบค่าครองชีพของประชาชน
ขณะที่ธนาคารกรุงไทยขอเวลาปรับปรุงระบบ พร้อมทั้งสะสางฐานข้อมูลวงเงินคงเหลือ และผู้อยู่ในโครงการทั้งหมด ก่อนพิจารณาปรับเงื่อนไขโครงการ ให้สอดคล้องกับข้อมูลการใช้งานจริง ทั้งการกำหนดวงเงินต่อรายและจำนวนผู้เข้าร่วมโครงการอีกครั้ง จากนั้นจึงจะเปิดระบบให้ยืนยันตัวตนบนแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” และเริ่มใช้จ่ายต่อไป
สำหรับการลงทะเบียน “คนละครึ่งเฟส 4” เบื้องต้นผู้ได้สิทธิในโครงการ
“คนละครึ่งเฟส 3” จำนวน 27.98 ล้านราย ต้องกดยืนยันตัวตนอีกครั้ง ผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” โดยไม่ต้องลงทะเบียนใหม่ ส่วนผู้ที่ไม่เคยลงทะเบียน
จะต้องสมัครผ่านทางเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com เหมือนที่ผ่านมา ซึ่ง “คนละครึ่งเฟส 4” ยังไม่ได้สรุปว่าจะให้วงเงินเท่าใด เพราะอยู่ระหว่างรองบประมาณที่จะมาใช้ในโครงการนี้ แต่ทั้งนี้คาดว่า น่าจะไม่แตกต่างกับเฟสที่ผ่านมา คือ ผู้มีสิทธิจะได้วงเงินจากโครงการ เดือนละ 1,500 บาทต่อคน
โดยโครงการ “คนละครึ่งเฟส 3” ที่สิ้นสุดไปแล้วเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2564 มีผู้ใช้สิทธิทั้งหมด 26.35 ล้านราย จากผู้ได้รับสิทธิทั้งสิ้น 27.98 ล้านราย มีผู้ใช้สิทธิครบ 4,500 บาท แล้วกว่า 10.87 ล้านราย ทำเงินสะพัดในระบบเศรษฐกิจไทยรวมกว่า 223,921.8 ล้านบาท