อัปเดต โครงการเราเที่ยวด้วยกัน “เราเที่ยวด้วยกันเฟส 5” ลุ้นกันต่อ ครม.เคาะ เป็น “ของขวัญปีใหม่ 2566” กระตุ้นท่องเที่ยวไทย วันนี้
รอลุ้นกันอีกครั้ง สำหรับโครงการเราเที่ยวด้วยกัน หลังดำเนินโครงการมาแล้ว 4 เฟส และมีลุ้นที่จะไปต่อ เมื่อการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท. เตรียมยื่นเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 6 ธันวาคม 2565 เพื่ออนุมัติโครงการ “เราเที่ยวด้วยกันเฟส 5” จำนวน 2 ล้านสิทธิ สำหรับเดือนมกราคม 2566 เป็น “ของขวัญปีใหม่ 2566”
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท. เสนอนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ของบประมาณ 7,200 ล้านบาท ใช้ดำเนินโครงการ “เราเที่ยวด้วยกันเฟส 5” เป็นส่วนลดค่าเข้าพักในโรงแรม 40% อีก 60% ประชาชนจ่ายเอง รวมถึงคูปองส่วนลดอิเล็กทรอนิกส์ จำนวน 600 บาทต่อห้องต่อคืน
ทั้งนี้ หากโครงการเราเที่ยวด้วยกันเฟส 5 ผ่านการอนุมัติ หลังจากที่เสนอต่อที่ประชุม ครม. คาดว่า กำหนดการลงทะเบียนใช้สิทธิ เราเที่ยวด้วยกันเฟส 5 จะเริ่มในช่วงเดือนมกราคม-มิถุนายน 2566 ส่วนวันเวลาอย่างเป็นทางการ จะต้องรอประกาศความคืบหน้าจาก ททท. อีกครั้ง รวมระยะเวลาใช้สิทธิโดยประมาณ 6 เดือน
เงื่อนไขรับสิทธิ “เราเที่ยวด้วยกันเฟส 5”หากอนุมัติ
รัฐบาลจะมอบค่าที่พัก และคูปองใช้จ่ายเป็นค่าเข้าพักในโรงแรม 40% อีก 60% สูงสุดไม่เกิน 3,000 บาทต่อห้องต่อคืน
- สามารถใช้สิทธิได้ไม่เกิน 10 ห้อง หรือ 10 คืนต่อคน และคูปองอิเล็กทรอนิกส์สำหรับจ่ายค่าอาหารและท่องเที่ยว มอบส่วนลด 40% สูงสุดไม่เกิน 600 บาทต่อห้องต่อวัน
- ไม่มีสิทธิขอคืนเงินค่าตั๋วเครื่องบิน เช่นเดียวกับโครงการเราเที่ยวด้วยกันเฟส 1 – 4 ที่ผ่านมา
นายยุทธศักดิ์ กล่าวว่า หาก ครม.เห็นชอบ ก็จะสามารถดำเนินตามขั้นตอนต่าง ๆ ได้ทันที เพราะเคยทำโครงการเราเที่ยวด้วยกันมาแล้ว 4 เฟส และส่วนต่อขยายด้วย โดยอยากให้ทันใช้เดือนมกราคม 2566 เพื่อให้ครอบคลุมช่วงหยุดยาววันสงกรานต์ เป็นการชะลอการออกเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศของคนไทยด้วย
อย่างไรก็ตาม โครงการเราเที่ยวด้วยกันเฟส 4 มีการเพิ่มสิทธิจำนวนห้องพัก 2 ล้านสิทธิ หรือห้อง ภายใต้กรอบวงเงิน 13,200 ล้านบาท โดยรัฐบาลสนับสนุนค่าโรงแรม 40% ของราคาที่พักต่อห้องต่อคืน สูงสุดไม่เกิน 3,000 บาท ต่อห้องต่อคืน จำกัดสิทธิไม่เกิน 10 ห้องหรือคืน ต่อผู้ได้รับสิทธิ 1 คน
ส่วนโครงการเราเที่ยวด้วยกันเฟส 3 มียอดรวมของประชาชนที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการทั้งสิ้น 1,081,952 คน ส่วนผู้ประกอบการที่ร่วมโครงการ รวมทั้งสิ้น 8,921 คน รวมมูลค่าการใช้จ่ายตลอดทั้งโครงการ อยู่ที่ประมาณ 9,025 ล้านบาท มีประชาชนที่เข้าร่วมโครงการ ใช้สิทธิในการจองห้องพัก จำนวน 634,999 คน ทำการจองโรงแรมทั้งหมด 4,323 แห่งทั่วไทย และคิดเป็นจำนวนห้องทั้งหมด 1,992,127 ห้อง