“สุวัจน์” ประกาศ !!!
โคราช คือ เรือนตายพรรคชาติพัฒนา
“สุวัจน์”ลุยโคราช โค้งสุดท้าย ขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่ ที่สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ในรอบ 10 ปี ประกาศ โคราชคือเรือนตายพรรคชาติพัฒนา ชวนคนไทยออกมาใช้สิทธิ์ ให้ประเทศเกิดความชอบธรรม มีเสถียรภาพ ชู โมเดล น้าชาติ เล่นการเมือมีสปิริต หลังเลือกตั้งทำเพื่อบ้านเมือง
วันที่ 18 มีนาคม 2562 เวลา 18.00 น.นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา นายเทวัญ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรคชาติพัฒนา, นายแพทย์วรรณรัตน์ ชาญนุกูล ที่ปรึกษาพรรคฯ ผู้อำนวยการพรรคฯ รวมทั้งผู้สมัครระบบปาภร์ตีลิสต์ และผู้สมัคร ส.ส.นครราชสีมาทั้ง 14 เขต ขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่ ที่สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา มีพี่น้องประชาชนมาฟังปราศรัยกว่า 4 หมื่นคน
นายสุวัจน์ กล่าวว่า วันนี้ถือเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 10 ปี ที่ได้ขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่ ที่สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา นครราชสีมาเพื่อชี้แจงนโยบายและเรื่องสำคัญที่เกี่ยวข้องกับพรรคชาติพัฒนา ซึ่ง ครั้งสุดท้ายที่ได้ขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่ช่วงปี 2548 ที่ผ่านมา
ในวันที่ 24 มีนาคม นี้ ถือเป็นวันที่ดีของประเทศไทย เราจะได้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ต่างชาติจะรู้สึกมั่นใจมีความเป็นสากล ส่งผลสะท้อนให้เกิดความเชื่อมั่นทั้งด้านการค้า การลงทุน ตลาดหุ้นและการส่งออก และจากการดูการเลือกตั้งล่วงหน้าเป็นปรากฏการณ์ที่ประชาชาออกมาใช้สิทธิ์กว่า 2 ล้านคน ใช้สิทธิ์ล่วงหน้ากว่า 80% จากที่ลงทะเบียนถือเป็นสัดส่วนที่น่าพอใจมาก
“ผมอยากให้พี่น้องประชาชนออกมาใช้สิทธิ์เยอะๆ ประเทศไทยจะเกิดความชอบธรรมมีเสถียรภาพมากขึ้น เลือกตั้งครั้งนี้ประเทศไทยได้กำไร”
นายสุวัจน์ ย้ำว่า ตนการอยากเห็นการเมืองไทย มีสปีริตเหมือนยุคน้าชาติ ท่านสอนเสมอว่า ก่อนเลือกตั้ง ทำการเมืองแต่หลังเลือกตั้งต้องมาช่วยทำบ้านเมือง ส่วนเรื่องการวางตัวของพรรคชาติพัฒนา จะไม่เป็นตัวปัญหาสร้างเงื่อนไข ซ้ำเติมการเมือง เพราะพบชาวบ้านได้รับฟังปัญหา 2 เรื่องคือ เศรษฐกิจ และ การเมืองที่ต้องนิ่ง มีทางออกให้ประเทศไทยเดินหน้าต่อไป
ดังนั้น เราจะนำนโยบายพรรคของพล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ มีต่อยอด
คือ แปรสนามรบเป็นสนามการค้า ภาค 2 เปิดประตูอีสานสู่อินโดจีน ยุคทองเศรษฐกิจ ภาค 2
วันนี้ พรรคชาติพัฒนาขอรับใช้พี่น้องประชาชนอีกครั้งหนึ่ง โดยเฉพาะนโยบายที่จะมาบอกกับประชาชนว่าเป็นนโยบายที่มีพื้นฐานมาจาก พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ และ พล.อ.ชาติชายฯ เป็นนายกฯ ที่มาจากการเลือกตั้งคนแรกของภาคอีสาน และได้สร้างความเจริญให้กับจ.นครราชสีมาอย่างมาก จ.นครราชสีมา ไม่เคยเจริญเท่ากับในยุคที่ พล.อ.ชาติชายฯ เป็นนายกรัฐมนตรี เอาถนนมิตรภาพ 4 เลนมาโคราชและไปเหนือ ใต้ ตะวันออก ตะวันตก ไปทั้งประเทศ เพราะถนนคือทูตแห่งความเจริญ และด้านการศึกษาเอามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารีมา เดี๋ยวถนนมา ไฟมา น้ำมา หมู่บ้านมา อุตสาหกรรมมานี่คือความเจริญ
นอกจากนี้คนโคราชทำไมต้องไปหางานที่อื่น ฉะนั้นเอางานมาหาคนโคราช พล.อ.ชาติชายฯ ได้ประกาศนโยบายแปรสนามรบเป็นสนามการค้า เปิดประตูโคราชเป็นประตูสู่อีสาน อีสานเป็นประตูสู่อินโดจีน เมื่อ 20 ปีที่แล้วไปไหนที่ดินมีราคา ทุกคนมีงานทำ สินค้าเกษตรไม่มีราคาตก ไม่เคยมีม็อบเกษตรกรในสมัยยุค พล.อ.ชาติชายฯ และเอาโรงงานมาตั้งมากมาย ซื้อสินค้าเข้าโรงงานมากๆ เอาอุตสาหกรรมมาซื้อสินค้าเข้าโรงงาน เพื่อดูดซับไม่ให้สินค้าเหลือ เศรษฐกิจง่ายๆ เวลาสินค้าเหลือก็ไม่มีราคา เวลาสินค้าขาดก็มีราคา เอาข้าว อ้อย ยางพารา มันสำปะหลังเข้าโรงงงานมากๆ ฉะนั้นในช่วงรัฐบาล พล.อ.ชาติชายฯ บอกว่า เศรษฐกิจยุคทอง เศรษฐกิจยุคน้าชาติ เศรษฐกิจกระจายพี่น้องประชาชนมีความสุข
ฉะนั้น พรรคฯ ก็คิดถึงในยุค พล.อ.ชาติชายฯ พี่น้องทั่วประเทศขอฝากพรรคฯว่า ช่วยเอาเศรษฐกิจยุคน้าชาติกลับมาหน่อย
“วันนี้บ้านเมืองมีปัญหามีความขัดแย้งขอให้เราช่วยเป็นพรรคการเมืองที่มีกติกาอย่าสร้างปัญหา ฉะนั้นพี่น้องประชาชนได้ฝากมา 2 เรื่อง 1.เรื่องเศรษฐกิจ 2.เรื่องความขัดแย้ง พรรคฯ ได้เอาปัญหาของประชาชนมาทำเป็นนโยบายให้คนทั้งประเทศ 3 นโยบายคือ นโยบายทั้งประเทศ ก้าวหน้า ก้าวไกล ไทยไร้ปัญหา นโยบายที่กรุงเทพฯเมืองหลวงคือ นโยบายสมารทซิตี้ เมืองทันสมัย นโยบายที่โคราชบอกว่า โคราช No Problem ไม่มีปัญหา ทั้ง 3 นโยบายจัดทำขึ้นโดยเอา พล.อ.ชาติชายฯ เป็นหลัก เรื่องการคมนาคม ถนน 4 เลน 8 เลน ถนนมอเตอร์เวย์มาโคราชต้นปี 2563 ได้ใช้และจะไม่เห็นจราจรติดขัดและจะต้องให้พี่น้องประชาชนทั้งอีสานได้ใช้กันให้ทั่วจึงมีนโยบายจะต่อถนนมอเตอร์เวย์ไปทุกๆ จังหวัดในภาคอีสาน รถไฟทางคู่ รถไฟความเร็วสูง 250 กม./ชั่วโมง ที่จะดึงนักลงทุน นักท่องเที่ยวมาสู่ จ.นครราชสีมา รวมทั้งช่วยจัดตั้งกองทุน SME เพื่อพัฒนาผู้ประกอบการ และการเน้นเอาการท่องเที่ยวมาเป็นเศรษฐกิจหลักของประเทศ นี่เป็นนโยบายพรรคชาติพัฒนาที่จะขับเคลื่อนการท่องเที่ยวเราจะเอาเศรษฐกิจยุคทองของน้าชาติกลับมา”
สุวัจน์ กล่าวต่อว่า มีคนบอกว่าที่โคราชเป็นสมรภูมิทางการเมืองที่ดุเดือดที่สุด ทุกพรรคต่างมาแย่งตำแหน่งที่โคราช มี 2-3 พรรคต้องการ 14 ที่นั่ง และทุกคนอยากที่จะได้หมด ผมขอฝากพี่น้องประชาชนว่า เที่ยวนี้พรรคฯส่งครบทั้ง 14 เขต นโยบายของคนโคราช นโยบายของ พล.อ.ชาติชายฯ นโยบายของเศรษฐกิจยุคทอง นโยบายที่ทำให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อยตั้งแต่สมัย พล.อ.ชาติชายฯ เป็นนายกรัฐมนตรีมาให้พี่น้องประชาชน และไม่ว่าพรรคชาติพัฒนาจะได้ ส.ส.กี่ที่นั่ง แต่ผมอยากบอกพี่น้องชาวโคราชว่า พล.อ.ชาติชายฯ สั่งกับผมไว้ก่อนเสียชีวิตไว้ประโยคสุดท้ายว่า พรรคฯ เป็นพรรคของคนโคราช ผมคนเดียวจะรักษาพรรคฯ ไว้ไม่ได้เด็ดขาด แต่ถ้าคนโคราชช่วยผมรักษาพรรคฯเอาไว้ พรรคฯจะอยู่กับคนโคราชตลอดไป
ฉะนั้น การต่อสู้ครั้งนี้จะได้กี่เสียงผมไม่ทราบก็แล้วแต่ประชาชนชาวโคราช แต่ผมยินดีต้อนรับอยากให้ทุกคนมาแข่งกัน เสนอนโยบายดีๆ ให้กับประชาชนชาวโคราช เพื่อให้คนโคราชได้สิ่งที่ดีที่สุด ผมจะแพ้จะชนะก็ไม่เป็นไร แต่ผมอยากให้คนโคราชได้สิ่งที่ดีที่สุด แต่สำคัญที่สุดผมอยากให้คนโคราชนึกถึง พล.อ.ชาติชายฯ และช่วยกันรักษาพรรคชาติพัฒนาเอาไว้ได้นะครับ พรรคชาติพัฒนามีที่มั่นฐานสุดท้ายอยู่ที่โคราช เกิดที่โคราช ได้ ส.ส.มากที่สุดก็ที่โคราช
“ผมต้องบอกว่าฐานที่มั่นสุดท้ายก็คือโคราช โคราชคือเรือนตายพรรคชาติพัฒนา ฉะนั้น ที่เมืองหลวงต้องสู้เต็มที่ และต้องชนะ ขอให้ช่วยกันรักษาพรรคฯ เอาไว้ เพื่อให้มาพัฒนา เราจะต้องสานต่อเจตนารมณ์ในการสร้างความเจริญให้เกิดขึ้นกับ จ.นครราชสีมา วันที่ 24 มีนาคมนี้ช่วยกันไปใช้สิทธิ์กันมากๆ เลือกสิ่งที่ดีที่สุด เลือกพรรคการเมืองที่ดีที่สุด เลือกนโยบายที่ดีที่สุด และในจำนวนนั้นขอให้ช่วยกันพิจารณาผู้สมัครพรรคชาติพัฒนาทุกเขต และอยากให้ได้ช่วยกันรักษาพรรคชาติพัฒนาเพื่อให้อยู่กับคนโคราชตลอดไป “ นายสุวัจน์ฯกล่าว.