คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พร้อมด้วยนายโภคิน พลกุล แกนนำพรรคเพื่อไทย นายตรีรัตน์ ศิริจันทโรภาส เลขาธิการกลุ่มเพื่อไทย นายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย นายประพนธ์ เนตรรังษี อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย ร่วมประชุมสัมมนารับฟังปัญหาจากผู้ประกอบการ smes และผู้ค้าย่านประตูน้ำ โดยกลุ่มผู้ค้าสะท้อนถึงปัญหา หลากหลายประเด็น เรื่องใหญ่คือยอดขายที่ตกลงกว่าร้อยละ 50ถึงร้อยละ70 ซึ่งเป็นผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจ ผลจากการเข้ามาของกลุ่มทุนจีน และการแข่งขันที่รุนแรง รวมถึงออนไลน์ ต่างชาติยักษ์ ใหญ่ ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลไทย โดยเฉพาะการงดเว้นภาษี ในส่วนของออฟไลน์ผู้ค้าต่างชาติซึ่งส่วนใหญ่เป็นจีนก็เข้ามามีบทบาทมากขึ้น วิธีการเข้ามาไม่ถูกต้องตามกฎหมาย แต่มีกระบวนการที่ได้รับการช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ของไทย ซึ่งอาจมีผลประโยชน์มาแลกเปลี่ยน ขณะที่ค่าเงินบาทที่แข็งขึ้น อย่างต่อเนื่องมีผลทำให้ยอดขายตกลง ส่งออกได้รับผลกระทบ ย้ายฐานการผลิต
นายโภคิน มองว่านักธุรกิจชาวจีนเข้ามามากขึ้น รวมถึงพม่า เวียดนาม ลาว มีการแข่งขันกับผู้ประกอบการไทย สถานการณ์เป็นเช่นนี้มาประมาณ 5 ปีซึ่งจุดแข็งของผู้ประกอบการที่เป็นคนจีนคือมีความขยัน เจ้าเล่ห์ไม่สนใจข้อกฎหมาย ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็รับผลประโยชน์จากพ่อค้าจีน ประกอบกับรัฐบาลของประเทศต้นทางให้การสนับสนุนเช่นเรื่องของค่าขนส่ง หรือการคืนอัตราภาษี ส่วนไทยแม้ผู้ประกอบการพยายามดำเนินการตามกฎหมายให้ถูกต้องแต่เมื่อเข้าสู่ระบบกลับถูกตรวจสอบย้อนหลัง ขณะที่ภาษีนิติบุคคลไม่ว่าจะมีกำไรมากน้อย ก็ต้องเสียเหมือนกันทั้งหมด เกิดช่องว่างระหว่างผู้ค้าตัวเล็กกับบริษัทขนาดใหญ่ จึงเห็นว่าบริษัทขนาดใหญ่ควรเสียภาษีเพิ่มขึ้น ไม่ให้ภาระตกไปอยู่กับคนตัวเล็ก
นอกจากนี้ ยังเห็นว่าการเข้ามาของผู้ค้าออนไลน์ยักษ์ใหญ่จากจีน ทำให้ผู้ประกอบการไทยได้รับผลกระทบอย่างหนัก ผู้มีอำนาจอาจดีใจเมื่อเห็นการลงทุนหลักหมื่นล้าน จากต่างชาติแต่ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับผู้ประกอบการขนาดเล็กขนาดกลางของไทยกลับเสียเป็นแสนล้าน
นอกจากนี้ผู้ประกอบการแสดงความต้องรวมตัวเพื่อให้การแก้ปัญหาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น พรรคเพื่อไทยจึงมีแนวคิดที่จะเชิญผู้ประกอบการทุกภาคส่วนมาพูดคุยเพื่อจัดทำข้อเสนออย่างเป็นรูปธรรมให้รัฐบาลโดยเสนอผ่านกลไกของสภาผู้แทนราษฎรให้ตั้งญัตติเพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาทั้งระบบ