ในวันแรกของการสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีอย่างเป็นทางการ โจ ไบเดน ลงนามในคำสั่ง 17 คำสั่ง ซึ่ง 9 คำสั่งในนั้นยกเลิกนโยบายเดิมของทรัมป์

หลังจากที่ โจ ไบเดน ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนที่ 46 อย่างเป็นทางการเมื่อวานนี้ (20 ม.ค.) ในพิธีสาบานตน ไบเดนเริ่มการทำงานวันแรกของเขาด้วยการลงนามในคำสั่ง 17 คำสั่ง ซึ่งมีถึง 9 คำสั่งที่ยกเลิกนโยบายเดิมของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

การลงนามคำสั่งของไบเดนในวันแรกของการเข้ารับตำแหน่งถือว่ามากกว่าประธานาธิบดีคนอื่น ๆ ในอดีต

“ไม่มีเวลาที่เหมาะจะเริ่มต้นเท่าวันนี้อีกแล้ว … ผมจะเริ่มต้นด้วยการรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับคนอเมริกัน” ไบเดนบอกกับผู้สื่อข่าวขณะลงนามในคำสั่ง

คำสั่งทั้ง 17 ข้อของไบเดนแบ่งออกได้เป็น 8 หมวด คือ โควิด-19 เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม ความเสมอภาค สำมะโนประชากร ผู้อพยพ จริยธรรม และระเบียบการทำงาน

โควิด-19

สำหรับหัวข้อที่เกี่ยวกับการรับมือโควิด-19 ไบเดนได้ออกนโยบาย “100 Days Masking Challenge” โดยขอความร่วมมือให้ชาวอเมริกันสวมหน้ากากออกจากบ้านต่อเนื่องเป็นเวลา 100 วัน และเว้นระยะห่างระหว่างกันในพื้นที่สาธารณะ ทั้งนี้เบื้องต้นเฉพาะพื้นที่ที่อยู่ภายใต้ขอบเขตอำนาจของรัฐบาลกลาง ส่วนรัฐต่าง ๆ ให้เป็นนโยบายของแต่ละรัฐ

นอกจากนี้ยังยกเลิกการถอนตัวออกจากองค์การอนามัยโลก (WHO) โดยแต่งตั้ง ดร.แอนโทนี เฟาซี เป็นหัวหน้าคณะผู้แทน และตั้งเจ้าหน้าที่ประสานงานการรับมือโควิด-19 ขึ้นใหม่ มีหน้าที่รายงานสถานการณ์โดยตรงต่อไบเดน และกำกับดูแลการผลิตและจัดจำหน่ายวัคซีนและอุปกรณ์ทางการแพทย์

เศรษฐกิจ

ด้านเศรษฐกิจ ไบเดนสั่งขยายเลื่อนเวลาการชำระหนี้ทั่วประเทศ ชะลอการขับไล่และยึดทรัพย์ไปจนถึงวันที่ 31 มีนาคมเป็นอย่างน้อย และขยายเวลาชำระเงินกู้และดอกเบี้ยสำหรับชาวอเมริกันกู้เงินเพื่อการศึกษาของรัฐบาลกลางไปจนถึงวันที่ 30 กันยายนเป็นอย่างน้อย

สิ่งแวดล้อม

ไบเดนนำสหรัฐฯ กลับเข้าร่วมข้อตกลงสภาพภูมิอากาศปารีส (Paris Agreement) อีกครั้ง ซึ่งจะใช้เวลา 30 วัน และยังสั่งยกเลิกโครงการ Keystone XL Pipeline ซึ่งเคยมีการประท้วงว่ามีน้ำมันรั่วไหลออกมาเป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อม

ความเสมอภาค

ยกเลิกหลักสูตร “1776 Commission” ของรัฐบาลทรัมป์ ซึ่งเนื้อหาจะเน้นการส่งเสริมความรักชาติ และแนวคิด America First ซึ่งในทางหนึ่งอาจส่งเสริมให้เกิดการแบ่งแยกทางเชื้อชาติ และไบเดนยังออกคำสั่งป้องกันการเลือกปฏิบัติในสถานที่ทำงานเนื่องจากรสนิยมทางเพศหรืออัตลักษณ์ทางเพศด้วย

สำมะโนประชากร

กำหนดให้บุคคลที่ไม่ใช่พลเมืองรวมอยู่ในการสำรวจสำมะโนประชากรด้วย เนื่องจากก่อนหน้านี้มีคนบางกลุ่มตกหล่นไปจากการสำรวจ และทำให้ไม่ได้รับสิทธิ์เบื้องต้นที่พึงมี

ผู้อพยพ

ยกเลิกความพยายามของทรัมป์ในการละเว้นการคุ้มครองเด็กที่ไม่มีเอกสารเข้าประเทศ และยกเลิกข้อจำกัดของรัฐบาลทรัมป์ที่ไม่อนุญาตให้ผู้ถือหนังสือเดินทางจาก 7 ประเทศมุสลิมเข้าประเทศ

ยกเลิกมาตรการคุมเข้มคนเข้าเมืองของทรัมป์ ยุติการก่อสร้างกำแพงคั่นชายแดนสหรัฐฯ-เม็กซิโก เลื่อนการเนรเทศและอนุญาตให้ทำงานได้สำหรับชาวไลบีเรียซึ่งมีที่หลบภัยในสหรัฐอเมริกาจนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2022

จริยธรรม

กำหนดให้ผู้ได้รับการแต่งตั้งให้บริหารในส่วนย่อย ต้องลงนามในคำมั่นด้านจริยธรรม ซึ่งห้ามไม่ให้พวกเขากระทำการใด ๆ เพื่อประโยชน์ส่วนตัว และกำหนดให้พวกเขาคงไว้ซึ่งความเป็นอิสระของกระทรวงยุติธรรม

ระเบียบการทำงาน

ให้สำนักบริหารและงบประมาณปรับปรุงกระบวนการดำเนินงานให้ทันสมัย และยกเลิกกระบวนการทำงานเดิมของรัฐบาลทรัมป์

***

ด้าน เจน ซากี เลขาธิการด้านสื่อมวลชนและเจ้าหน้าที่ระดับสูงกล่าวว่า การลงนามตำสั่งในวันแรกของการทำงานเป็นเพียงส่วนหนึ่งของการเคลื่อนไหวเพื่อยกเลิกนโยบายของทรัมป์และดำเนินการตามนโยบายหาเสียงของไบเดน

สำหรับวันนี้ (21 ม.ค.) ซึ่งเป็นวันทำงานเต็มตัววันแรกของไบเดน เขาจะมุ่งเน้นไปที่การรับมือการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่วนวันศุกร์ (22 ม.คง) จะเป็นประเด็นการบรรเทาปัญหาทางเศรษฐกิจ

และหลังจากนี้ต่อ ๆ ไป ไบเดนจะเน้นการบริหารประเทศตามนโยบายที่ได้เคยหาเสียงและให้คำมั่นไว้กับประชาชน

**

เรียบเรียงจาก CNN

ภาพจาก Getty Image