“วิว เยาวภา” เสนอ นโยบายแก้ปัญหาเหลื่อมล้ำ ด้านเด็ก-เยาวชน ชู เด็กต้องเรียน 2 ภาษา หนุนครูเรียนรู้เทคโนโลยี สร้างอุทยานเรียนรู้และหลักสูตรออนไลน์
วันนี้ (4 มี.ค.62) เวลา 10.30น. ลานกิจกรรมชั้น LG สยามสแควร์วัน ในเวทีแสดงนโยบายด้านเด็กและเยาวชน และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ “มุมมอง New Gen พรรคการเมือง กับเรื่อง ปิดเทอมสร้างสรรค์ โดยมีกลุ่มคนรุ่นใหม่ของพรรคการเมือง 5 พรรคการเมืองมาร่วม แสดงวิสัยทัศน์ ประกอบด้วย น.ส.เยาวภา บุรพลชัย พรรคชาติพัฒนา นายพริษฐ์ วัชรสินธุ พรรคประชาธิปัตย์ ดร.ไกรเสริม โตทับเที่ยง พรรคพลังประชารัฐ นายตรีรัตน์ ศิริจันทโรภาส พรรคเพื่อไทย น.ส.กุลธิดา รุ่งเรืองเกียรติ พรรคอนาคตใหม่
โดยนางสาวเยาวภา กล่าวถึงปัญหาเด็กและเยาวชน ในปัจจุบันว่า ประเทศไทยยังประสบปัญหาเรื่องความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา และปัญหาของช่องว่างทางเวลาระหว่างครอบครัว ซึ่งทำให้เกิดปัญหาสังคม อาทิเช่น ปัญหาท้องก่อนวัยเรียน เด็กติดเกม เด็กก้าวร้าว เด็กตีกัน ปัญหายาเสพติด
“จากการที่ลงพื้นที่เขตบางแค พบปัญหาเช่นกัน พ่อแม่ต้องแข่งขันในการทำงานเลี้ยงชีพ ลูกต้องแข่งขันทางการศึกษาเพื่อสู่ความมั่นคงทางอาชีพในอนาคต แต่เด็กจำนวนมากขาดโอกาสทางการศึกษา รวมถึง คนพิการ เด็กพิเศษ ที่ยังขาดโอกาสทางการศึกษา หรือ การส่งเสริมกิจกรรมการเรียนรู้ที่ควรจะได้รับตามความสนใจ แม้กระทั่งเขตบางแค ถึงจะอยู่ในเมืองแต่โอกาสทางการศึกษาก็ต่างกัน”
น.ส.เยาวภา กล่าวอีกว่า พรรคชาติพัฒนา ขอนำเสนอนโยบายเพื่อแก้ไขปัญหาให้กับเด็กและเยาวชน ทั่วประเทศ โดยเฉพาะในพื้นที่เขตบางแค เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตเด็ก และ เยาวชน โดยแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรก นโยบายการศึกษาที่จะต้องทั่วถึงทุกพื้นที่ของประเทศไทย
1.เด็กไทยต้องได้รับการเรียน 2 ภาษา เพื่อนำภาษาต่อยอดการเรียนรู้ของเด็กและเยาวชน สู่การทำงานในอนาคตของโลกไร้พรมแดน
2.ทุนครูเทคโนโลยี การคัดเลือกและให้ทุนการศึกษาแก่ครู เพื่อไปเรียนรู้เทคโนโลยี และ กลับมาพัฒนาเด็กและเยาวชนในท้องถิ่น อำเภอละ 1 ล้านบาท
3.อุทยานการเรียนรู้ และ หลักสูตรออนไลน์เรียนได้ด้วยตนเอง ศูนย์รวบรวมความรู้แก่เด็ก เยาวชน และคนทุกวัย ซึ่งมีการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการเรียนรู้อย่างสร้างสรรค์ ครบทุกมิติ และปราศจากค่าใช้จ่าย เข้าถึงทุกกลุ่ม
4.สร้างนักคิด นักอ่าน นักปฏิบัติ พัฒนาหลักสูตรการเรียน จัดเวลาเรียนที่เหมาะสม สู่การให้เด็ก เยาวชนเป็นนักคิด นักอ่าน นักปฏิบัติ และนักสร้างสรรค์
ส่วนที่สองคือนโยบายการกีฬาที่นำมาพัฒนาเด็ก และ เยาวชน โดยการสร้าง มินิฟิตเนส และ สปอร์ต คอมเพล็ก สำหรับ การพัฒนากีฬา ในชุมชน เพื่อสร้างเด็กเยาวชน มีสุขภาพที่ดี และต่อยอดสู่การเป็นนักกีฬาในอนาคต
นางสาวเยาวภา กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับกิจกรรมปิดเทอมที่สร้างสรรค์ คือการนำเอาสิ่งที่เด็ก เยาวชน สนใจ มาสร้างสรรค์ และให้เด็กได้เรียนรู้ต่อยอดการเรียนรู้สู่การประกอบอาชีพในอนาคต อาทิ เด็กแว้นซ์ชอบการแข่งรถ เราต้องส่งเสริมการแข่งขันอย่างถูกต้อง ปลอดภัย และ การเรียนรู้เกี่ยวกับอาชีพนักแข่งรถ และ ช่างยนต์ อีกส่วนที่สำคัญ คือ การดึงครอบครัวเข้ามามีส่วนร่วมในกิจกรรมร่วมกับเด็ก และ เยาวชน เพื่อสร้างความรักความอบอุ่นของครอบครัว สู่การลดปัญหาทางสังคมของประเทศอีกด้วย
////