“สุวัจน์”​ ห่วงเสถียรภาพรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ บอบบาง-กระทบงานในสภา-การลงทุน เรียกร้อง ฝ่ายจับขั้วตั้งรัฐบาลคุยกันให้มาก

 

“สุวัจน์”​ ห่วงเสถียรภาพรบ.เสียงปริ่มน้ำ บอบบาง-กระทบงานในสภา-การลงทุน เรียกร้อง ฝ่ายจับขั้วตั้งรบ. คุยกันให้มาก ประเมิน รบ.เข้มแข็ง ต้องได้ 300 เสียง ปัดคุย “สุเทพ” จับมือร่วมงานการเมือง กั๊กยังไม่เลือกฝั่งไหน เชื่อ “กกต.” แจกใบแดง-เลือกตั้งใหม่เพียบ ฝาก “อดีตผู้สมัครส.ส.” อย่าทิ้งพื้นที่

 

เมื่อเวลา 09.00 น. แกนนำพรรคชาติพัฒนา นำโดย นายเทวัญ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรค, นายดล เหตระกูล เลขาธิการพรรค, นายเทวัญ ลิปตพัลล ประธานที่ปรึกษาพรรค, นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล ที่ปรึกษาพรรคและผู้อำนวยการเลือกตั้งพรรค นัดหารือแกนนำเพื่อพูดคุยพร้อมประเมินผลการเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 24 มีนาคม

จากนั้นเวลา 11.11 น. นายสุวัจน์ ให้สัมภาษณ์ถึงการหารือว่าแกนนำพรรคนัดหารือเพื่อประเมินรวมถึงวิเคราะห์ถึงคะแนนเสียงที่พรรคชาติพัฒนา ได้ที่นั่งส.ส.อย่างไม่เป็นทางการ จำนวน 3 ที่นั่ง โดยมาจาก ส.ส.เขต 1 ที่นั่ง และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 2 ที่นั่ง ว่า ผลการเลือกตั้งที่เกิดขึ้นยอมรับว่าไม่เป็นไปตามเป้าหมายและการคาดการณ์ของแกนนำพรรค แต่ถือว่าเป็นที่น่าพอใจและยอมรับในผลการเลือกตั้ง รวมถึงกระบวนการจัดการเลือกตั้ง ของ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แม้จะเป็นผู้จัดการเลือกตั้งที่เข้ามาใหม่ ดังนั้นพรรคจะไม่มีข้อโต้แย้งหรือให้ความเห็นใดๆ ต่อการทำหน้าที่ของกกต. แม้ว่าสังคมจะวิจารณ์การทำงาน รวมไปถึงการล่ารายชื่อประชาชนเพื่อถอดถอน กกต. ออกจากตำแหน่ง ส่วนที่หลายฝ่ายไม่ให้ความเชื่อถือต่อ กกต.​ในกระบวนการจัดการเลือกตั้งที่ผ่านมา กกต.ฐานะเป็นกรรมการในการเลือกตั้งต้องชี้แจงต่อสาธารณะให้ชัดเจน

นายสุวัจน์​ ยังปฏิเสธถึงข่าวที่ระบุว่าได้หารือร่วมกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำผู้ก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย ส่วนภาพที่ปรากฎตามสื่อมวลชนนั้นเป็นเพียงการพบปะเหมือนกับนักการเมืองที่เจอกันและทักทายตามงานเลี้ยงหรืองานแต่งงานเท่านั้น อย่างไรก็ตามพรรคชาติพัฒนายังไม่ได้คุยว่าจะจับมือร่วมงานกับพรรคการเมืองใด แม้ว่าที่ผ่านมาจะมีการพูดคุยกับนักการเมืองต่างพรรค อย่างไม่เป็นทางการ แต่ไม่ใช่การตกลงร่วมงานทางการเมืองหลังการเลือกตั้ง

นายสุวัจน์ ยังแสดงความเห็นห่วงต่อกรณีที่มีพรรคการเมืองใหญ่ 2 พรรค คือ พรรคเพื่อไทยและพรรคพลังประชารัฐ ชิงจำนวนเสียงว่าที่ ส.ส.เพื่อจัดตั้งรัฐบาลร่วมกัน ที่พบว่าการรวมตัวเลขยังมีความใกล้เคียงกัน ระหว่าง 240 ที่นั่ง กับ 250 ที่นั่ง เนื่องจากการจัดตั้งรัฐบาลที่เสียงไม่ชนะเด็ดขาด อาจจะกระทบต่อเสถียรภาพการทำงานของรัฐบาล โดยเฉพาะการทำงานในสภาผู้แทนราษฎรได้ รวมถึงกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่เป็นปัจจัยสำคัญด้านเศรษฐกิจของประเทศ

 

“ภายหลังเลือกตั้งหลายฝ่ายคาดหวังว่าจะได้รัฐบาลที่มีเสถียรภาพ แก้ปัญหาเศรษฐกิจและทำให้บ้านเมืองมีความเรียบร้อย แต่ตัวเลขที่ออกมาถึงการร่วมตั้งรัฐบาล ที่ 2 ฝ่ายมีคะแนนห่างกันเพียง 10 คะแนนนั้น ผมห่วงว่ารัฐบาลใหม่จะมีเสถียรภาพที่บอบบาง เพราะเสียงข้างมากจริงๆ ต้องได้ ประมาณ 300 เสียง ดังนั้นจึงขอเรียกร้องทุกฝ่ายให้เห็นแก่บ้านเมือง มาร่วมพูดคุยกันให้มากขึ้น ในช่วงเวลา 1 เดือนที่เหลือก่อนที่ กกต.​จะประกาศรับรองผลส.ส.​วันที่ 9 พฤษภาคมนี้ ส่วน 3 เสียงของพรรคชาติพัฒนาที่ได้นั้นยังไม่ชัดเจนว่าจะเติมให้ข้างรัฐบาลเพื่อให้เป็นฝ่ายบริหารที่มีเสถียรภาพหรือไม่ เพราะพรรคชาติพัฒนามีจุดยืนไม่แบ่งฝ่าย และคำนึงต่อการยอมรับของประชาชนเป็นหลัก” นายสุวัจน์ กล่าว

 

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่พบการแย่งชิงจัดตั้งรัฐบาล ผ่านการต่อรองแลกผลประโยชน์ หรือปรากฎการณ์งูเห่าจะกระทบการเมืองหรือไม่ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา กล่าวว่า เรื่องผลประโยชน์นั้นตนไม่ทราบ และที่ผ่านมาชาติพัฒนาไม่เคยมีกรณีดังกล่าว อย่างไรก็ตามปรากฎการณ์งูเห่านั้น ตนมองว่าเป็นเพียงการคาดการณ์ ที่เกิดจากการต้องให้ได้มาซึ่งรัฐบาลเสียงข้างมาก และมีเสถียรภาพ

 

“ปรากฎการณ์งูเห่า หากไม่มี จะถือเป็นเรื่องดี เพราะการเมืองต้องเล่นตามกติกา ซึ่งพรรคชาติพัฒนาขอเล่นในกติกา ส่วนอนาคตจะเกิดรัฐบาลแห่งชาติ หรือรัฐบาลสมานฉันท์ได้หรือไม่นั้น ผมไม่ทราบ เพราะเป็นเรื่องวิเคราะห์ยาก โดยปัจจัยสำคัญที่สุด คือ คะแนนเสียง ส.ส.ที่แต่ละพรรคได้รับ โดยต้องรอให้ กกต. ประกาศผลอย่างเป็นทางการ” ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา กล่าว

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในช่วงท้ายของการแถลงข่าว นายสุวัจน์ สอบถามกับน.ส.เยาวภา บุรพลชัย โฆษกพรรค ฐานะผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขตบางแค ถึงเรื่องคะแนนเสียง พร้อมกำชับว่าอย่าทิ้งพื้นที่ เพราะจากนี้เชื่อว่า กกต.​จะสั่งให้เลือกตั้งใหม่ในหลายพื้นที่ ดังนั้นพรรคต้องรวมทุกสรรพกำลังเพื่อรักษาฐานเสียงที่มีให้ได้ เนื่องจากตนเชื่อว่าหากมีการเลือกตั้งใหม่ ประมาณ 20 เขต จะมีผลที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเรื่องคะแนนนิยม ที่ต้องนำไปคำนวณเพื่อหาจำนวน ส.ส.บัญชีรายชื่อที่แต่ละพรรคพึงมี.

ขอบคุณข้อมูล http://www.komchadluek.net/news/politic/367608