“สุวัจน์” ลงพื้นที่ จ.ราชบุรี ช่วย ผู้สมัครหาเสียงไหว้ศาลหลักเมืองเอาฤกษ์เอาชัย เดินตลาดสด จ๊ะเอ๋! “มานิต” พปชร. โผเข้าสวมกอด ปชช.ชื่นชมสปิริตการเมือง ลั่น สร้างราชบุรี เป็นประตู่สู่ภาคใต้ ยกศักยภาพ เสริมสร้างเศรษฐกิจท่องเที่ยว กีฬา ไม่หวั่น เป็นมวยรอง ไม่กังวล ประยุทธ์ ลงโคราช มั่นใจรักษาฐานเสียงได้ เผย โค้งสุดท้ายสนามเลือกตั้ง มีทีเด็ดเซอร์ไพรส์ ประชาชนแน่

วันที่ 6 มี.ค. เวลา 10.30 น.นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา พร้อมด้วยนายเทวัญ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรคชาติพัฒนา ลงพื้นที่จ.ราชบุรีเพื่อช่วย ผู้สมัครหาเสียง โดยมีนายพนมกร กิจโพธิญาณ ผู้สมัคร เขต 1 เบอร์ 7 นายนิธิภัทร์ ชิณโชติวรสิทธิ์ ผู้สมัครเขต 2 เบอร์10 นายตระกูล โพธิ์เรือง ผู้สมัคร เขต 3 เบอร์ 7 นายพรรษวุฒิ ธาดาวิโรจน์ ผู้สมัครเขต 4 เบอร์ 10 และนายโชคชัย เอี่ยมภูมิ ผู้สมัครเขต 5 เบอร์ 5

สำหรับบรยากาศการลงพื้นที่จุดแรก นายสุวัจน์และคณะ ได้เดินทางไปยังบริเวณจุดติดป้ายริมถนนเพชรเกษม ไฮไลท์การติดป้ายหาเสียงที่กำลังเป็นกระแสในโลกโซเซียลอยู่ในขณะนี้ ซึ่งได้ถ่ายรูปเซลฟี่และได้รับความสนใจจากประชาชนบริเวณดังกล่าว จากนั้นเดินทางไปยังศาลเจ้าพ่อหลักเมืองราชบุรี เพื่อสักการะขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคล และขอให้ชนะการหาเสียงเลือกตั้งในครั้งนี้ และได้พบปะพี่น้องประชาชนที่มาให้การต้อนรับ โดยนั่งรถสามล้อ ข้ามสะพานดำ ณ ตลาดสดเทศบาล นำผู้สมัครพบปะพ่อค้าแม่ค้าในตลาดสดราชบุรี และยังได้ร่วมปั่นจักรยานสีส้ม พร้อมผู้สมัคร สส.ทั้ง 5 เขต กับขบวนนักปั่น ชาวราชบุรี วนรอบ อำเภอ ระยะทาง 3.5 ก.ม. เพื่อทักทายพี่น้องประชาชนริมทาง และได้สักการะพระคู่บ้านคู่เมือง หลวงพ่อแก่นจันทร์ ณ วัดช่องลม พระอารามหลวง อำเภอ จังหวัดราชบุรี และแวะร้านอาตี๋ โกปี๊ กาแฟโบราณ เค้กโอ่งด้วย

อย่างไรก็ตามระหว่างเดินหาเสียงแจกใบปลิวแนะนำตัวผู้สมัครได้พบกับขบวนหาเสียงของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)นำโดย นายมานิต นพอมรบดี อดีต รมช.สาธารณสุข และอดีต ส.ส.ราชบุรี โดยบังเอิญกลางตลาดสด โดยนายสุวัจน์ รีบเดินไปทักทายทันที พร้อมกับกล่าวแซวว่า “เนี่ยไง การเมืองถึงอย่างไรก็เป็นเพื่อนกันแม้จะอยู่คนละพรรค” จากนั้นได้สวมกอดและจับมือพร้อมมอบดอกไม้ซึ่งกันและกัน โดยประชาชนแม่ค้าพ่อค้าในตลาดต่างปรบมือให้กำลังใจชื่นชมและเดินเข้ามามอบดอกไม้แก่นายสุวัจน์ สร้างความฮือฮา

นายสุวัจน์ กล่าวภายหลังเดินสายหาเสียงว่า นโยบายของพรรคในการพัฒนาจังหวัดราชบุรี คือ การเพิ่มศักยภาพด้านการท่องเที่ยว การเกษตรและกีฬา โดยเฉพาะสวนผึ้งถือว่าเป็นเมืองแห่งกีฬาแห่งใหม่ของประเทศ เพราะประชาชนนิยมมาท่องเที่ยวและปั่นจักรยานออกกำลังกาย จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่ได้จัดกรรมของพรรคนำสมาชิกพรรคมาร่วมปั่นจักรยานกลางใจเมืองในวันนี้ และสวนผึ้งยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติอันสำคัญ ถือเป็นแก่นสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในการสร้างรายได้เข้าประเทศ และส่งผลโดยตรงต่อการกระจายรายได้ และทางพรรคยังมีนโยบายในการดึงดูดนักลงทุน คือ โครงการสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐาน อาทิ ถนน รถไฟความเร็วสูง หรือ โครงการมอเตอร์เวย์ ที่จะเชื่อมจังหวัดราชบุรีไปภาคใต้ รวมถึงแนวทางการยกระดับสินค้าเกษตรด้วยการใช้แนวคิดเมื่อครั้ง พล.อ.ชาติชาย ชุณหวัณ อดีตนายกรัฐมนตรี คือ นโยบายแปรสนามรบเป็นสนามการค้า เปิดประตูโคราชเป็นประตูสู่อีสาน อีสานเป็นประตูสู่อินโดจีน เช่นเดียวกัน ดังนั้นการแปรราชบุรีไปสู่ภาคใต้จะมีแนวทางคือ ต้องมีการแปรสินค้าเกษตรให้เป็นสินค้าอุตสาหกรรมผลของแปรรูป ย่อมเพิ่มมูลค่าทำให้ราคาสินค้าเกษตรสูงขึ้น ถือเป็นการแก้ปัญหาราคาสินค้าเกษตรอย่างถาวร โดยยึดนโยบายก้าวหน้าก้าวไกลไทยไร้ปัญหา ซึ่งมีนโยบาย 9 ด้าน เพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจรากหญ้า เพราะจังหวัดราชบุรีมีศักยภาพด้านสินค้าโอทอป และ สินค้าเกษตร

สำหรับการเมืองในพื้นที่ราชบุรีนั้น นายสุวัจน์ กล่าวว่า การเมืองในจังหวัดราชบุรี ไม่หนักใจ เพราะไม่ได้มาเพื่อป้องกันแชมป์ ยิ่งเราเป็นมวยรองต่อยสบาย เดินสายหาเสียงแบบสบายใจ เพราะผู้ลงสมัครพรรคคู่แข่งก็เป็นญาติกันหมด ซึ่งจริงๆแล้วตนเองเป็นคนจังหวัดราชบุรี แต่ไปเติบโตที่กทม.ก่อนมาเป็นลูกเขยที่โคราช

ส่วนประเด็นที่พล.อ.ประยุทธ์ จันโอชา นายกรัฐมนตรี จะลงพื้นที่ จ.นครราชสีมานั้น พล.นายสุวัจน์ กล่าวว่า ตนไม่กังวล No Problem แม้ จะมาปราศัยหรือไม่ปราศรัยที่จังหวัดนครราชสีมา เพราะมั่นใจว่าจะรักษาฐานเสียงเดิมไว้ได้ และยิ่งการปราศรัยได้รับการตอบรับที่ดีจากประชาชน อย่างเช่น เมื่อวาน( 5 มีนาคม) ที่ด่านขุนทด พื้นที่ของ ดร.สำเร็จ วงษ์ศักดา ประชาชนมาฟังปราศรัยนับหมื่นคน ซึ่งโค้งสุดท้ายทางพรรคจะมีทีเด็ดออกมาเซอร์ไพร์อย่างแน่นอน

“เหตุผลที่ประชาชนชื่นชอบพรรค เพราะนโยบายเศรษกิจ และพรรคชาติพัฒนาเป็นพรรคที่ไม่ขัดแย้งหรือทะเลาะกับฝ่ายใด ยิ่งเดินสายหาเสียงก็ยิ่งได้กระแสตอบรับดีประชาชนมาทักทาย สอบถามตลอด เช่น เรื่องของการเลือกตั้งเศรษฐกิจจะดีขึ้นไหม แบบนี้ต้องถือว่ามีความตื่นตัวทางการเมืองสูงมาก ดังนั้นเชื่อว่าในวันที่ 24 มี.ค.นี้ ประชาชนจะมาออกเสียงมากที่สุด” ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา กล่าว
//////////////////////////