“สุวัจน์-กรณ์-เทวัญ” นำทัพชาติพัฒนากล้าเปิดผู้สมัครภูเก็ต โชว์วิสัยทัศน์นำเศรษฐกิจ ท่องเที่ยวภูเก็ต กลับมายิ่งใหญ่
“สุวัจน์” นำทีมพรรคชาติพัฒนากล้า บุกภูเก็ตเปิดตัวผู้สมัคร โชว์วิสัยทัศน์นำเศรษฐกิจท่องเที่ยว เป้าหมาย 20 ล้าน ใน 7 ปี คอนเซ็ปท์ D.I.Y.ภูเก็ต ชูคนรุ่นใหม่ไฟแรงสองว่าที่ผู้สมัคร “เทมส์ ไกรทัศน์” และ “อ้อ-อรทัย เกิดทรัพย์” มุ่งพัฒนาภูเก็ต
เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2565 ณ เซ็นทรัล ภูเก็ต นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า ประธานเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. จังหวัดภูเก็ต ของพรรคฯ โดยมีนายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรค นายเทวัญ ลิปตพัลลภ เลขาธิการพรรค นายแพทย์วรรณรัตน์ ชาญนุกูล ประธานที่ปรึกษาพรรค พันเอกวินัย สมพงษ์ ที่ปรึกษาพรรค นายอรรถวิทย์ สุวรรณภักดี รองหัวหน้าพรรค และนายอรัญ พันธุมจินดา ผู้อำนวยการพรรค พร้อมทีมคณะผู้บริหารพรรคชาติพัฒนากล้า
นายสุวัจน์ กล่าวว่า ชาติพัฒนากล้า ได้มาเปิดตัวผู้สมัครอย่างเป็นทางการของจังหวัดภูเก็ต วันนี้ พรรคชาติพัฒนากล้ามากันครบทีม เราสะสมบุคลากรที่จะเข้ามาแก้ไขปัญหาประเทศทั้งบุคลากรในเชิงประสบการณ์ และบุคลากรในเชิงเศรษฐกิจ ฉะนั้น ผมมีความมั่นใจมากๆ ที่จะบอกกับพี่น้องประชาชนว่า เรามีคนที่พร้อมจะมาทํางานให้กับพี่น้องประชาชน
“ผมรับตําแหน่งประธานพรรคดูแลเรื่องนโยบายทุกด้านที่จะมาแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน และอีกคณะหนึ่งในการผลักดันการบริหารในการนํานโยบายไปทํางานให้พี่น้องประชาชนให้สําเร็จ นําโดยหัวหน้าพรรค กรณ์ จาติกวณิช อดีตรัฐมนตรีการคลัง และเทวัญ ลิปตพัลลภ อดีตรัฐมนตรีสำนักนายก ในฐานะเลขาธิการพรรค ฉะนั้น อยากให้พ่อแม่พี่น้อง สบายใจ มั่นใจกับพรรคชาติพัฒนากล้า ว่า มวยเก๋า ผู้มากประสบการณ์ อยู่ครบทีม แทบจะทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้องกับเรื่องเศรษฐกิจ”
นายสุวัจน์ กล่าวว่าปัญหาและโจทย์ของประเทศไทย วันนี้ สาหัสที่สุด หนักที่สุด สําหรับปัญหาที่เกิดขึ้นกับประเทศ โดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจ ถือว่าเป็นเรื่องที่เจ็บปวด เป็นเรื่องที่เชื่อว่าพี่น้องประชาชนต้องการที่จะเห็นการเลือกตั้งเพื่อที่จะตอบโจทย์ว่าใครจะมาแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน
สาเหตุที่สําคัญที่มีเรื่องเศรษฐกิจเกิดขึ้น ก็คงหนีไม่พ้นเรื่องโควิดเกือบ 3 ปี ทําให้ทุกอย่างหยุดชะงักหมด ทําให้เศรษฐกิจไม่ดี เราต้องกู้หนี้มาแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจภาครัฐ พี่น้องประชาชนต้องกู้หนี้มาแก้ไขปัญหาก็คือ รัฐบาลต้องกู้มาสร้างหนี้สาธารณะ GDP ก็ลดลงมาเรื่อยๆ สําคัญที่สุดคือ เรื่องหนี้สิ้นของพี่น้องประชาชน การว่างงานต่างๆ
นอกจากนี้ ยังมาเจอเรื่องสงครามระหว่างยูเครนกับรัสเซีย ก่อให้เกิดปัญหาเรื่องน้ํามันแพง ปัญหาเรื่องเงินเฟ้อ ปัญหาเรื่องแก๊ส ตัดวงจรการผลิตต่างๆ ตอนนี้โลกทั้งโลกวุ่นวายสองเรื่อง คือ เรื่องโควิดกับเรื่องสงคราม ส่งผลกระทบเรื่องธุรกิจ เรื่องนักท่องเที่ยว เรื่องเงินเฟ้อ เรื่องดอกเบี้ยสูง เรื่องหนี้สินที่เกิดขึ้น เรื่องการไม่มีงานทํา ผู้ประกอบการ SME เดือดร้อนมาก โดยเฉพาะภูเก็ต เดือดร้อนมากที่สุดคือ เรื่องนักท่องเที่ยวหายไป เพราะภูเก็ตถือว่าเป็นเมืองที่อยู่บนพื้นฐานของเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยว และไม่ใช่เฉพาะภูเก็ตเท่านั้น ประเทศไทยเศรษฐกิจหลักของประเทศนี้ GDP ปีหนึ่ง 15 ล้านล้านบาท แล้วภาคการส่งออก ส่งสินค้าไปขายสิ่งต่างๆเหล่านี้ ประมาณ 80% ของมูลค่า 15 ล้านล้าน แต่ท่องเที่ยวอย่างเดียวประมาณเกือบ 20% คือ กําลังเงินของประเทศที่เอามาใช้จ่ายได้จากเรื่องการท่องเที่ยวสําคัญ เวลาเราได้จากอุตสาหกรรม ได้จากการลงทุนต่างๆ มันกระจายน้อย แต่รายได้จากการท่องเที่ยวกระจายไปทุกตารางนิ้วทุกหมู่บ้าน ทุกตําบล กระจายไปทุกอาชีพ แล้วก็กระจายอย่างรวดเร็ว
ฉะนั้น ตอนนี้เราเริ่มเปิดประเทศ เพราะโควิดคลี่คลายปีนี้นักท่องเที่ยวอาจจะได้สัก 8 ล้าน ก็คือ 20% ปีหน้าอาจจะได้สักครึ่งหนึ่งก็คือ 20 ล้าน ปี 2567 ถ้าไม่มีอะไรพลิกล็อคโควิดไม่ระบาดอีกสงครามเบาลง เมืองไทยอาจจะมาจุดเดิมคือ นักท่องเที่ยว 40 ล้าน ก่อนเกิดโควิด ภูเก็ตมีนักท่องเที่ยว 12 ล้านคน จาก 40 ล้านคน ภูเก็ตมีสัดส่วนการตลาดของการท่องเที่ยว 30% เศรษฐกิจหลักคือ การท่องเที่ยว เมื่อได้รับผลกระทบจากการท่องเที่ยวก็ทําให้พี่น้องประชาชนทั้งเกาะภูเก็ต 4 แสนคน ตอนนี้บาดเจ็บสาหัส จากผลกระทบทางเศรษฐกิจ โรงแรม ร้านอาหาร ที่พัก โอทอป แม่บ้าน สินค้าต่างๆ เดือดร้อนกันมาก
ฉะนั้น จุดหลักในการที่จะดึงเศรษฐกิจของภูเก็ตกลับมาก็คือ จะต้องจัดการกับเรื่องท่องเที่ยว จัดการอย่างมืออาชีพ โดยเฉพาะเรื่องท่องเที่ยวไม่ต้องห่วง พรรคชาติพัฒนากล้าถนัดแล้วเคยทํามาแล้วให้กับพี่น้องประชาชน
นายสุวัจน์ กล่าวว่าอยากให้กําลังใจพี่น้องประชาชนชาวภูเก็ตว่าไม่ต้องไปกังวลกับเรื่องโควิด เราเจออะไรที่หนักๆ มาแล้ว เราผ่านเรื่องนั้นมาได้ พี่น้องประชาชนชาวภูเก็ต วันที่ 26 ธันวาคม 2547 วันนั้นเกิด สึนามิเป็นเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ เป็นเหตุการณ์ของอุทกภัย วาตภัยที่รุนแรงที่สุด ตอนนั้นเป็นเหตุการณ์ใหญ่มากของโลก ทุกเรื่องโฟกัสมาที่ภูเก็ต ว่าเกิดอะไรขึ้นกับภูเก็ต แล้วภูเก็ตจะทําอย่างไร ความเสียหายตอนนั้น ประเมินกันว่ารวมๆ 25000 ล้าน ช่วงที่ผมเป็นรองนายกรัฐมนตรีได้รับมอบหมายให้เข้ามาแก้ไขปัญหาเรื่องโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ให้กลับคืนมา
“เราทำการประชาสัมพันธ์เกาะภูเก็ตใหม่ จัดงานครบรอบ 1 ปี สึนามิ ผมเป็นประธานจัดงานที่หาดบางเนียง จังหวัดพังงา โดยเชิญญาติของผู้เสียชีวิตช่วงนั้น 5000 กว่าคน ให้มาเป็นแขกของรัฐบาลไทยกลับมาเยือนภูเก็ตอีกครั้งหนึ่งมาร่วมรําลึกหนึ่งปีสึนามิ ปรากฏว่ามีคนต่างประเทศมาร่วมงาน 1,200 คน ครอบครัวคนไทยอีก 4,000 กว่าคน รวม 5,200 กว่าคน สร้างความซาบซึ้งใจให้แขกทุกคนในน้ำใจของเรา ในที่สุดก็สามารถฟื้นฟูเกาะภูเก็ต หลังจากโครงสร้างพื้นฐานกลับมา มีการจัดอีเว้นท์ต่างๆ แล้วหลังจากนั้นเศรษฐกิจของภูเก็ต การท่องเที่ยวก็กลับมา”
นั้นคือ การใช้วิกฤตเป็นโอกาส ใช้น้ําใจเป็นโอกาสที่จะดึงนักท่องเที่ยวกลับมา ทําให้ภูเก็ตกลับมาสู่ยุคฟื้นฟูอีกครั้งหนึ่ง
ฉะนั้น ผมอยากจะเรียนพี่น้องประชาชน ไม่ต้องตกใจกับสถานการณ์ เราเคยเจอวิกฤตมาแล้ว แล้วเราก็ผ่านวิกฤตมาได้ วันนี้เราจะทํายังไงกับเรื่องเมื่อโควิดจบ จะดึงนักท่องเที่ยวภูเก็ตกลับมา
“วันนี้ เราต้องจัดการกับตัวเรา ทําทุกอย่างให้เหมือนเดิม อะไรคือตัวตนของภูเก็ต ภูเก็ตเปรียบเป็นผู้ชายสุดหล่อ เปรียบเป็นผู้หญิงสุดสวย เป็นเกาะที่ล้อมรอบด้วยพังงา ล้อมรอบด้วยกระบี่ มีอุทยานแห่งชาติล้อมรอบ อุทยานแห่งชาติสิมิลัน อุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา เกาะยาวน้อย เกาะยาวใหญ่ เกาะห้อง เกาะเจมส์บอนด์ เขาพิงกัน 2517 โรเจอร์มัว มาถ่ายหนังทั่วโลกรู้จักภูเก็ต ลงไปด้านใต้ หมู่เกาะนพรัตน์ ธารา อุทยานแห่งชาติเกาะพีพี ตัวภูเก็ตเอง อุทยานแห่งชาติสิรินาถ ช่วงสองปี โควิดระบาด ธรรมชาติได้พักวันนี้ภูเก็ตสวยกว่าเดิมมากจากการได้พักผ่อนของธรรมชาติ”
นอกจากนี้ ภูเก็ตยังมีประเพณีวัฒนธรรมมากมายที่รักษาเอาไว้ เช่น ตรุษจีน สารจีน สารไทย กินเจ เช็งเม้ง ต่างๆ อีกมาก
“เราต้องนำความทันสมัยและโครงสร้างผังเมืองก็ได้มาเสริมแต่งให้ภูเก็ตมีความพร้อมการจราจรไม่ติดขัดปลอดภัย โครงการต่างๆ ที่มีการเตรียมการไว้ ต้องช่วยกันสนับสนุนให้เกิดขึ้นในภูเก็ต เช่น ระบบขนส่งมวลชน รถไฟฟ้ารางเบาจากสนามบินเข้าเมือง ทางด่วนจากป่าตอง-กระทู้ และถนนเส้นใหม่จากสนามบินบริเวณบ้านสาคูมาเกาะแก้ว ภูเก็ตเป็นเกาะ ถนนรอบเกาะ ควรจะเป็น 4 เลน สร้างถนนใยแมงมุม ตอนนี้เริ่มมีเรือสําราญเข้ามาภูเก็ต ท่าเรือ Marina ที่จะรับพวกเรือสําราญใหญ่ๆ หรือพวกเรือยอร์ช มีความจำเป็น”
“การลงทุน ภาคเอกชน การให้เอกชนมาสร้างสวนสนุก มาสร้างสวนน้ำ Man Made Destination ยังไงภูเก็ตก็ต้องกลับมาโดยเร็ววัน”
นายสุวัจน์ กล่าวว่าภูเก็ต พังงา กระบี่ รวมสามจังหวัด ให้เป็นคลัสเตอร์ การท่องเที่ยวอันดามัน เหมือนกับฝรั่งเศสตอนใต้เขาเรียกว่า ริเวียร่า แต่อันนี้คือ ย่านอันดามัน พัฒนาระบบการเชื่อมโยงการคมนาคมทางบก ทางอากาศ ทางทะเล สิ่งที่จะได้คืออะไร นักท่องเที่ยวจะอยู่ยาวขึ้น อันนี้สําคัญ เพราะจะใช้จ่ายมากขึ้น รายได้จากนักท่องเที่ยวก็จะเพิ่ม
และหลังจากเกิดโควิดสินค้าการท่องเที่ยวทั่วโลกตอนนี้ที่เขาชอบและอยากเห็นก็คือ เรื่องสุขภาพ เรามาสร้างเมืองภูเก็ตให้เป็นเมืองสุขภาพของโลก ใครอยากมีสุขภาพดี อายุเป็นร้อย ให้มาอยู่ภูเก็ต ให้มาพักผ่อนที่ภูเก็ต มีโลจีสติก มี facilities มีสิ่งอํานวยความสะดวก ซึ่งรัฐบาลทำโครงการศูนย์นานาชาติ สุขภาพ ที่จะเกิดขึ้นเป็นเรื่องที่ดี เพราะจะมีการสร้างบุคลากรทางด้านสุขภาพ ผลิตหมอ ผลิตพยาบาล สร้างโรงพยาบาลที่ทันสมัย มีโรงพยาบาลมีโรคเฉพาะทางต่างๆ เหล่านี้ โดยจะเน้นให้ประเทศไทย ให้ภูเก็ตเป็น medical hup คือ ศูนย์กลางทางด้านการดูแลสุขภาพ ซึ่งเราต่อยอดจากการเป็นศูนย์สุขภาพ ให้เป็นการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ที่ทั่วโลกนิยม หรือ work from home นักท่องเที่ยวอีกประเภทหนึ่งที่นิยมไปตามประเทศที่มีเกาะเยอะๆ แล้วใช้คอมพิวเตอร์ ใช้อินเทอร์เน็ต ถ้าคุณมีระบบ 5G และมีอินเทอร์เน็ตดีๆ นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้มาอยู่เป็นเดือนๆ ท่องเที่ยวแบบ start up แบบคนรุ่นใหม่ เรียกว่า Normad digital คนกลุ่มนี้กําลังแสวงหาแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ นับสิบล้านคนทั่วโลก
และสิ่งสุดท้ายที่คิดว่าภูเก็ตควรจะมี ต้องสร้างภูเก็ต ให้เป็นเมืองอินเตอร์เนชั่นแนล เฟสติวัล เป็นเมืองมหกรรมใหญ่ๆ ของโลก ที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวมา ซึ่งมีโครงการหนึ่งที่
คนภูเก็ตกําลังรออยู่ว่าภูเก็ตจะได้เป็นเจ้าภาพก็คือ สเปเชียลไลฟ์ เอ็กซ์โป 2028 อีก 6 ปี คล้ายๆ งานเอ็กซ์โปโลก ถ้าภูเก็ตได้เป็นจะเป็นข่าวดี รวมทั้งอีเว้นท ด้านกีฬา ดนตรีระดับโลก
ฉะนั้น พี่น้องประชาชนชาวภูเก็ต ไม่ต้องห่วง ยังไง เราพ้นวิกฤตแน่ ถ้ามีนัดท่องเที่ยว 3 ล้านคน ปีหน้า 6 ล้านคน พอปี 2567 กลับมาเท่าเดิม 12 ล้านคน จากนั้นโตปีละ 10% ก็พอแล้ว 5 ปีเท่านั้น จาก 12 ล้านคน จะเป็น 20 ล้านคน หลังจากนี้ไป 7 -8 ปี ภูเก็ตมีนักท่องเที่ยว 20 ล้าน ประชากรในเกาะ 4 แสน เอา 4 แสนหาร 20 ล้าน เท่ากับคนภูเก็ต 1 คนดูแลนักท่องเที่ยว 50 คน เป็นความเหนื่อยเพื่อเศรษฐกิจ เป็นความเหนื่อยที่ภาคภูมิใจว่านักท่องเที่ยวมากันเยอะ แล้วถ้าวันที่มีนักท่องเที่ยว 20 ล้าน 50,000 คูณ 20 ล้าน รายได้จากการท่องเที่ยวของภูเก็ตปีละหนึ่งล้านล้านบาท หารด้วย 4 แสนคนประชากร เท่ากับ 1 คน จะได้รับค่าเฉลี่ยรายได้จากการท่องเที่ยวประมาณ 2.5 ล้านบาท ต่อคนต่อปี
“วันนี้ ผมยินดีที่ได้เอาประสบการณ์ดีๆ แล้วก็ความมุ่งมั่นที่ผมคิดสําหรับภูเก็ตมาเล่าให้กับพี่น้องประชาชนฟัง และอยากจะบอกว่าวิกฤตของประเทศครั้งนี้เราต้องฝ่าฟันไปด้วยกัน ตอนนี้เรามีทั้งวิกฤตการเมืองและวิกฤตเศรษฐกิจ ฉะนั้น เศรษฐกิจเราได้ พรรคการเมืองดีๆ ที่พี่น้องประชาชนเลือก ด้านนโยบายเศรษฐกิจดี ได้คนเก่งเก่งมาก็เรื่องหนึ่ง แต่สิ่งหนึ่งที่จะเป็นแรงส่งให้กับการแก้ไขปัญหาของบ้านเมืองสําเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดีก็คือ เราต้องร่วมกันทําการเมืองให้สร้างสรรค์ ลดความขัดแย้งทางการเมือง อย่าให้การเมืองเป็นอุปสรรค บางทีเราจะเดินไปแทนที่จะเดินเร็วๆ แล้วเดินช้าขากะเพก มีก้อนกรวดอยู่ในรองเท้าเหมือนกับการเมืองที่ขัดแย้ง การเมืองที่ไม่สะดวก เพราะการเมืองคือ การขับเคลื่อนการบริหารประเทศ”
ฉะนั้น พรรคชาติพัฒนา ทำงานการเมืองแบบเป็นมิตรกับทุกฝ่าย เราต้องการเห็นการเมืองที่มีเสถียรภาพ ไม่มีความขัดแย้ง พี่น้องประชาชน มีความสุขกับการเมือง และการเข้ามาแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ
“อยากจะเรียนพี่น้องประชาชนว่า พวกเราพร้อมที่จะมาช่วยกันคิด ช่วยกันทํา ช่วยผลักดันโครงการต่าง ๆ เพื่อให้ประเทศชาติ พ้นวิกฤติ โดยเฉพาะภูเก็ตต้องกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง” นายสุวัจน์ กล่าว
@jaophoto2022 สุวัจน์ กรณ์ ทำไมคนภูเก็ต เลือกชาติพัฒนากล้า#ชาติพัฒนากล้า#เทมส์#อ้อ อรทัย#ภูเก็ต ♬ original sound - Thaweechai Jao