สุวัจน์ จัดประชุมใหญ่เลือก กก.บริหารพรรค-เปลี่ยนชื่อพรรคกลับมาใช้ชื่อเดิม ชาติพัฒนา
วันที่ 25 เมษายน 2567 โรงแรมแคนทารี จ.นครราชสีมา พรรคชาติพัฒนากล้า จัดประชุมใหญ่สามัญสมาชิกพรรค ประจำปี 2567 โดยในที่ประชุมมี นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า เป็นประธานประชุม พร้อมแกนนำพรรคและกรรมการบริหารพรรค อาทิ
นายเทวัญ ลิปตพัลลภ
หัวหน้าพรรค นายวัชรพล โตมรศักดิ์ รองหัวหน้าพรรค
นายแพทย์วรรณรัตน์ ชาญนุกูล
ที่ปรึกษาพรรค และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรระบบรายบัญชี
นายประสาท ตันประเสริฐ เลขาธิการพรรค สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.)และ สมาชิกของพรรคเข้าร่วม
นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ให้สัมภาษณ์หลังการประชุม ว่า
เป็นการประชุมใหญ่ สามัญของพรรคชาติพัฒนากล้า มีเรื่องที่สําคัญๆ อยู่สองสามข้อ เรื่องแรกคือ พรรคได้แจ้งให้สมาชิกพรรคได้ทราบถึงการดำเนินการของพรรคชาติพัฒนากล้าที่ผ่านมาตั้งแต่เราได้เข้าร่วมรัฐบาล สนับสนุนให้บริการจัดตั้งรัฐบาล แล้วหัวหน้าพรรคได้ไปช่วยงานท่านนายกฯในตําแหน่งที่ปรึกษา คุณวัชรพล โตมรศักดิ์ รองหัวหน้าพรรค ไปช่วยงานรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข ในตำแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรี นอกจากนั้นก็ได้รายงานให้ที่ประชุมได้ทราบถึงความคืบหน้าของโครงการดิจิทัล วอลเล็ต และความคืบหน้าของการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะว่าเป็นนโยบายของรัฐบาลที่พรรคชาติพัฒนากล้า ได้เข้าไปมีส่วนร่วม
นอกจากนั้น ได้รายงานให้สมาชิกพรรคได้ทราบเกี่ยวกับสิ่งต่างๆ ที่ได้เกิดขึ้น ที่ได้ช่วยกันสนับสนุนผลักดัน เช่น โครงการแก้ไขน้ำประปาขาดแคลน ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลมา 1,900 ล้านบาท ในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา ของจังหวัดนครราชสีมา และรายงานให้ทราบถึงการเปิดมอเตอร์เวย์ ซึ่งเป็นผลประโยชน์โดยตรงกับพี่น้องประชาชนภาคอีสาน อย่างสงกรานต์ปีนี้ในถนนมิตรภาพ สถิติอุบัติเหตุต่างๆ ก็ลดลง และพี่น้องประชาชนเดินทางได้รวดเร็ว ที่เปิดเพียงครึ่งหนึ่ง รวมทั้งได้รายงานให้ทราบถึงการดําเนินการในส่วนของการสนับสนุนเรื่อง ชอฟต์พาวเวอร์ เรื่องการจัดกิจกรรมต่างๆ ที่ได้ร่วมกันดําเนินการอันนี้เป็นเรื่องภาพรวม
เรื่องที่สอง คือ เรื่องของการแต่งตั้งกรรมการบริหารพรรคที่ว่างลง เนื่องจากมีรองหัวหน้าพรรค ได้ลาออกไป วันนี้ได้มีการแต่งตั้งสองตำแหน่ง คือ ส.ส.วุฒิพงศ์ทองหลา สส.จังหวัดปราจีนบุรี ที่ประชุมเห็นชอบมีมติให้ดํารงตําแหน่งรองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนา และ ดร.อรัญ พันธุมจินดา เดิมเป็นรองเลขาธิการพรรค ได้เลื่อนขึ้นมาเป็นรองหัวหน้าพรรค
ส่วนเรื่องที่ 3 เป็นเรื่องที่มีความสําคัญมากๆ เนื่องจากวันนี้ได้มีการหารือกันในเรื่องความเหมาะสมของชื่อพรรค คือ ก่อนการเลือกตั้งได้มีการเปลี่ยนจากชาติพัฒนา เป็นชาติพัฒนากล้า ตอนนี้เลือกตั้งแล้วเสร็จ วันนี้เป็นการประชุมใหญ่สามัญ
ก็ได้มีเสียงสะท้อนจากสมาชิกพรรคอยากให้ได้มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันในมุมมองแตกต่าง ในเรื่องของชื่อพรรค ซึ่งได้สอบถามสมาชิกพรรคทั้งที่จังหวัดนครราชสีมา ภาคใต้ ภาคเหนือ ภาคอีสาน ตะวันออกตะวันตก ภาคกลางต่างๆ ทุกท่านเห็นเป็นเอกฉันท์ ว่าอยากจะให้ทางพรรคได้กลับมาใช้ชื่อเดิม เปลี่ยนจากชาติพัฒนากล้า เป็น พรรคชาติพัฒนา โดยไม่มีผู้ใดคัดค้านทุกๆท่านเห็นด้วยเป็นมติ ว่าจะเปลี่ยนชื่อพรรคชาติพัฒนากล้า มาเป็นชื่อเดิมคือ พรรคชาติพัฒนา ก็ต้องไปแก้ไขข้อบังคับ
ในส่วนโลโก้ อักษร ชื่อ.ช้างไขว้ เหมือนเดิมมีปรับองศานิดหน่อย วันนี้ขึ้นคำว่า ”พรรคชาติพัฒนา 2567 Re-Start-Up” เพื่อแสดงผลงานให้พี่น้องประชาชนฟังว่า สส.พรรคชาติพัฒนาทุกคนมีบทบาทในสภาหมด อย่าง คุณหมอวรรณรัตน์ ได้ติดตามโครงการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโครงการน้ำประปา โครงการมอเตอร์เวย์ หรือการย้ายเรือนจํา จังหวัดนครราชสีมา การแก้ไขปัญหาเรื่องบุหรี่ไฟฟ้า คุณวุฒิพงศ์ ชำนาญเรื่องสิ่งแวดล้อม คุณวัชรพล ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข ก็ทํางานในเรื่องการดูแลอสม. คุณประสาท เลขาพรรค ก็ดูแลในเรื่องของสินค้า คุณเทวัญ หัวหน้าพรรคก็ช่วยงานท่านนายกรัฐมนตรี
นายสุวัจน์ กล่าวว่าเป็นจุดเริ่มต้นกลับมา Re-Start-Up ต้องทำงานกันด้วยวิทัยทัศน์ ด้วยนโยบายอะไรใหม่ๆ โดยเฉพาะการที่ได้คนใหม่ๆ เข้ามาร่วมกันทํางาน อย่างสนามท้องถิ่นทีมโคราชชาติพัฒนา สท.สจ. ที่เป็นฐานเก่าๆต้องรักษาฐานที่มั่น ทำงานกันต่อไป เมื่อกลับมาใช้ชื่อเดิม ”ชาติพัฒนา“ จะเป็นการสร้างขวัญกําลังใจ เหมือนคนเรา เปลี่ยนชื่อ ก็รู้สึกว่าดีขึ้น มั่นใจ โชคดีขึ้น เป็นสิ่งที่คิดว่าเป็นเรื่องที่อยู่ในใจของคนโคราช วันนี้ในที่ประชุม 300 กว่าคน ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ชาติพัฒนากลับมาอยู่ในหัวใจ วันนี้ก็เอาหัวใจกลับคืน เปลี่ยนชื่อเป็น ชาติพัฒนา คิดว่าเป็นขวัญกําลังใจที่ดี ในการที่จะสร้างการทํางานที่จังหวัดนครราชสีมาให้เข้มแข็งขึ้น
ฉะนั้น เราคงต้องทํางานกันอย่างเข้มแข็ง สมาชิกคนรุ่นใหม่ อย่าง สส.วุฒิพงศ์ ถือว่าเป็นคนหนุ่มคนรุ่นใหม่ที่ไฟแรงมากๆ มาก หรือ ดร.อรัญ รองหัวหน้าพรรคก็เป็นคนรุ่นใหม่ ดังนั้น ตอนนี้พรรคพยายามที่จะเปิดโอกาสให้กว้าง รับสมาชิกพรรคใหม่ๆ ที่เป็นคนรุ่นใหม่ให้คนในพรรคได้เติบโตขึ้นมาอยู่ในตําแหน่งบริหารที่สูงขึ้น เพื่อเป็นการเข้ามาช่วยกันใช้กําลังใช้ความคิดใหม่ๆ เข้ามาช่วยกันปรับปรุงพรรคให้ดีขึ้น
ผู้สื่อข่าวถามว่าในเดือนพฤษภาคมนี้ ครม.สัญจรมาที่โคราช ท่านจะเสนออะไร
นายสุวัจน์ กล่าวว่าตอนที่จัดทํานโยบายรัฐบาลก็เป็นนโยบายของแต่ละพรรคที่มารวมกันเป็นนโยบายรัฐบาลอยู่แล้ว อย่าง พรรคชาติพัฒนากล้าตอนเลือกตั้งก็พูดเรื่องมอเตอร์เวย์ ต้องเปิด การแก้ไขปัญหาน้ําประปาในเมืองโคราช การชูให้โคราชเป็นเมืองท่องเที่ยวอุทยานธรณีโลกต่างๆ โครงสร้างพื้นฐานต่างๆ หรือเรื่องเขตเศรษฐกิจในการที่จะสร้างโคราช nomics ดังนั้น สิ่งต่างๆ ที่เราพูดเรื่องค่าน้ํามันไม่แพง ไฟไม่แพง มันก็อยู่ใน นโยบายรัฐบาลที่ตอนนี้เราก็ร่วมขับเคลื่อนกับรัฐบาล ในการทํางานอยู่แล้ว
ฉะนั้น ถ้าเป็นโอกาสดีที่ท่านนายกฯ หรือครม.จะมาประชุมครม.ที่โคราช ตนเชื่อว่าเป็นข่าวดี พี่น้องประชาชนชาวโคราช ก็ควรต้อนรับ แล้วก็คงจะมีข่าวดีๆ อะไรที่เกี่ยวกับการพัฒนาโคราช ทางพรรคยินดีต้อนรับ ยินดีที่จะสนับสนุน นโยบายอะไรที่ดีๆ เราก็จะได้มีโอกาส นําเสนอคณะรัฐมนตรี ตามที่ท่านจะเห็นเหมาะสม
ผู้สื่อข่าวถามเรื่องปรับครม. นายสุวัจน์ กล่าวว่ายังไม่ทราบว่าจะปรับเมื่อไหร่ แต่ระยะเวลาของการเป็นของสภาก็ปีหนึ่งถ้าท่านนายกรัฐมนตรี จะเห็นว่าการปรับรัฐมนตรีนั้น จะทําให้การทํางานในการพัฒนาประเทศหรือการแก้ไขปัญหาของประชาชนดีขึ้น
เพราะถ้าปรับแล้ว ตนเชื่อว่าความคาดหวังอย่างหนึ่งของประชาชน เมื่อมีการปรับ ครม.ประชาชนก็ต้องคิดว่าปรับแล้วดีขึ้น ได้คนเก่งขึ้น ได้คนดีขึ้น การทํางานกระจับกระเฉ่งขึ้น อันนี้คือ ความคาดหวังของประชาชน