“วุฒิสาร” เชิญ กกต.ถกหลักเกณฑ์ทำประชามติเพื่อแก้ รธน. ชงช่องทางอิเล็กทรอนิกส์เพิ่มความสะดวก พร้อมหารือพ่วง ลต.ท้องถิ่นปีหน้าได้หรือไม่
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 8 พฤศจิกายน ที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) ทำเนียบรัฐบาล นายวุฒิสาร ตันไชย ให้สัมภาษณ์ก่อนเป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการศึกษาแนวทางในการทำประชามติฯ ว่าในวันเดียวกันนี้มีการเชิญผู้แทนจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มาร่วมหารือเรื่องขั้นตอนทำประชามติเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อสอบถามเกี่ยวกับหลักเกณฑ์การทำประชามติว่าตามกรอบกฎหมาย เงื่อนไขเวลาต่างๆ ในการกำหนดการทำประชามติแล้ว จะต้องมีขั้นตอนและเงื่อนไขอย่างไร ซึ่งเราก็อยากจะทราบว่าหากจะทำประชามติ จะมีการใช้งบประมาณประมาณเท่าไหร่
นายวุฒิสารกล่าวว่า และจะหารือว่าการทำประชามติจะสามารถ ทำแบบการลงอิเล็กทรอนิกส์ได้หรือไม่ หรือการทำประชามติที่ง่ายขึ้น เนื่องจากการทำประชามติครั้งนี้อาจจะแตกต่างจากการเลือกตั้งทั่วไป เพราะไม่มีส่วนได้เสียแบบตรงไปตรงมา เพราะฉะนั้นถ้าจะทำให้ง่ายขึ้น จะทำได้หรือไม่อย่างไร และจะมีการสอบถามจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ว่า การตั้งคำถาม การทำประชามติ ซึ่งหลักการทำประชามติมีทั้งผลผูกพันกันกับคำถาม นั่นก็คือผูกพันกับรัฐบาล หรือ เป็นประชามติแบบปรึกษาหารือ เพราะถ้าจะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ อาจจะมีประเด็นหลายเรื่อง ที่จะมีการสอบถาม ในเชิงหารือกับประชาชน ฉะนั้นสิ่งเหล่านี้จะหารือกับ กกต.รวมถึงกรอบเวลา ที่จะมีการเลือกตั้ง
นายวุฒิสารกล่าวว่า เช่น การเลือกตั้งท้องถิ่น ซึ่งตนเข้าใจว่า ปีหน้า หรืออาจจะต้นปี 2568 จะมีการเลือกตั้งองค์การบริหารส่วนจังหวัด ซึ่งจะมีการเลือกตั้งทั้งประเทศ เราจะสามารถพ่วงกับการทำประชามติได้หรือไม่ ก็ จะหารือกับ กกต.เพื่อให้ทราบแนวทางว่า ถ้าจะออกแบบ และถ้า ข้อพิจารณาของอนุกรรมการชุดนี้เห็นว่า จะสามารถทำประชามติ จะทำได้กี่ครั้งอย่างไร จะได้นำกรอบพิจารณา และระยะเวลาเหล่านี้ไปพิจารณา
นายวุฒิสารกล่าวว่า ตามที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ชี้แจงไปว่าประมาณสิ้นปีนี้คงจะได้ข้อยุติเบื้องต้น เพื่อนำเสนอให้กับคณะกรรมการชุดใหญ่ เพราะอนุกรรมการ 2 ชุดที่กำลังทำงานอยู่ในขณะนี้ ซึ่งคณะอนุกรรมการที่ทำงานมากหน่อย ในขณะนี้คือชุดของนายนิกร ที่ไปรับฟังความคิดเห็น ซึ่งวันที่ 15 นี้ จะรับฟังความคิดเห็นที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล เกี่ยวกับเนื้อหาสาระที่จะแก้ไข การจัดทำรัฐธรรมนูญ
นายวุฒิสารกล่าวว่า อนุฯ ชุดของตนจะพิจารณาในลักษณะข้อกฎหมาย เป็นการศึกษาข้อกฎหมายของคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ผูกพันอยู่ ว่าสรุปแล้วการทำประชามติจะต้องทำกี่ครั้ง เพราะนโยบายรัฐบาลประกาศว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องคงหมวด 1 หมวด 2 ซึ่งก็ต้องมาดูว่าการยกเว้นหมวด 1 หมวด 2 จะเป็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับหรือไม่ อย่างไรก็ตามคณะอนุฯชุดนี้อาจมีการทอดเวลา ด้วยการรับฟังข้อมูล จากคณะอนุฯชุดที่สอง และรับฟังความเห็นของคนทั่วไป ขณะเดียวกัน ก็จะไปหารือกับผู้ที่เกี่ยวข้อง และคนที่เป็นนักกฎหมายทั้งหลาย เพื่อมาช่วยกันให้คำตอบ
เมื่อถามว่า แสดงว่าเหลือเวลาไม่ถึง 2 เดือน นายวุฒิสารกล่าวว่า ตามกรอบเวลาก็น่าจะเป็นอย่างนั้น อย่างน้อยที่สุดก็น่าจะได้ข้อสรุปเบื้องต้น ที่จะนำเสนอ แต่น่าจะมีความชัดเจนว่าหากจะทำต้องทำอย่างไร ทั้งนี้ต้องหารือกับคณะกรรมการชุดใหญ่ก่อน
เมื่อถามว่า มีการกำหนดการประชุมครั้งสุดท้ายในช่วงสิ้นปีเมื่อไหร่ นายวุฒิสารกล่าวว่า ขึ้นอยู่กับประธานที่จะนัดประชุม ซึ่งปลายเดือนนี้ คิดว่าน่าจะมีการประชุมร่วมกัน และอีกครั้งหนึ่งคือในช่วงเดือนธันวาคม