“สุวัจน์” ไม่ห่วง การเมืองในสภารบ. เสถียรภาพที่เหลือเป็นขีดความสามารถในการแก้ไขปัญหาบ้านเมืองนอกสภามากกว่า

เมื่อวันที่ 3 มกราคม นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษา พรรคชาติพัฒนา ให้สัมภาษณ์ ถึงสถานการณ์ทางการเมืองปี 2564 ว่า เสถียรภาพทางการเมืองในขณะนี้ต้องยอมรับว่าส่วนหนึ่งมาจากจำนวนเสียงของพรรคร่วมรัฐบาล บวกกับประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ นั่นหมายความว่ามีทั้งเสถียรภาพในสภาและนอกสภา ซึ่งถ้ามองเสถียรภาพในสภาก็ต้องยอมรับว่าวันที่จัดตั้งรัฐบาลวันแรกนั้นเกินครึ่งมาเพียง4เสียงคือ 254 แต่หลังจากนั้นมีเหตุการณ์บางอย่างที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางโครงสร้าง ของจำนวนเสียงและของพรรคการเมืองในสภา ดังนั้นวันนี้รัฐบาลมี 270 กว่าเสียงฝ่ายค้าน 200 ต้นๆซึ่งมีช่องห่างอยู่ระหว่าง60-70 เสียง ดังนั้นจึงมองว่าเสถียรภาพการเมืองในสภาไม่น่าจะมีปัญหาแต่อย่างใด แต่จะเป็นเสถียรภาพนอกสภามากกว่า นั่นคือการที่สามารถพูดคุยเพื่อลดความขัดแย้ง การแก้ไขและรัฐธรรมนูญทำให้เสร็จโดยเร็วเป็นที่พอใจของทุกฝ่ายหรือการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจการแก้ไขปัญหา โควิด-19 ตรงนี้ตนคิดว่าเป็นเสถียรภาพการเมืองนอกสภา ฉะนั้น การเมืองในสภาไม่น่าห่วง ที่เหลือเป็นเรื่องของขีดความสามารถในการแก้ไขปัญหาบ้านเมืองนอกสภามากกว่า

ผู้สื่อข่าวถามว่ามองว่าคณะกรรมการสมานฉันท์จะช่วยได้หรือไม่ นายสุวัจน์ กล่าวว่า ยังดีกว่าไม่ได้ทำอะไร การมีกรรมการสมานฉันท์ คือการแสดงออกถึงว่าเราพร้อมที่จะมีเวทีให้ทุกฝ่าย ได้มาพูดคุยกัน ตนเชื่อว่าสันติภาพเกิดจากการเจรจา ถ้าเราเปิดกว้างมีเวทีเจรจาให้มากพยายามกันอย่างจริงๆ จังๆ ก็ดีกว่าเราไม่ได้ทำอะไรเลยดังนั้นการที่มีกรรมการสมานฉันท์ ถ้าไม่ประสบความสำเร็จก็เท่าทุน แต่อย่างน้อยอาจจะเกิดไอเดียดีๆที่มาลดทอนความขัดแย้งได้

ผู้สื่อข่าวถามว่า มองว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นประเด็นหลักในการทำให้รัฐบาลมีเสถียรภาพมั่นคง นายสุวัจน์ กล่าวว่า เรื่องการแก้ไขและรัฐธรรมนูญเป็น เรื่องหนึ่งที่เป็นเงื่อนไขของความขัดแย้ง และเป็นเงื่อนไขที่กระทบต่อเสถียรภาพทางการเมือง เป็นเงื่อนไขที่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง เป็นเงื่อนไขที่เกี่ยวกับเศรษฐกิจต่างๆและทุกฝ่ายเห็นตรงกันว่าต้องการแก้ไข ดังนั้นหากมีความชัดเจนและมีความจริงใจร่วมกันทุกฝ่ายเพื่อให้ได้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่ประชาชนยอมรับ ก็จะเป็นการลดทอนเงื่อนไขของความขัดแย้ง ซึ่งจะนำไปสู่สิ่งที่ดีให้กับเสถียรภาพของประเทศ

ผู้สื่อข่าวถามถึงการแก้ไขและรัฐธรรมนูญในขั้นแรกที่จะต้องมีส.ส.ร. แก้มาตรา256 ส่วนตัวมองอย่างไร ที่จะเป็นการทำให้ส่งเสริมการเมืองการปกครอง ลดความขัดแย้งในสังคม นายสุวัจน์ กล่าวว่า คิดว่าต้องทำให้เป็นรัฐธรรมนูญที่เกิดขึ้นด้วยประชาชนอย่างแท้จริง แนวคิดการมี ส.ส.ร. หรือสภาร่างรัฐธรรมนูญ ก็มีที่มาจากการเลือกของประชาชน เป็นตัวแทนจากการตกผลึกของประชาชนอย่างแท้จริง ไม่ได้มีเรื่องอื่น มาแทรกแซงในการร่างรัฐธรรมนูญ เป็นพื้นฐานของประชาชนซึ่งเป็นเจ้าของประเทศ ก็จะเกิดความชอบธรรม แล้วนำไปสู่การลงรายละเอียดเนื้อหาของรัฐธรรมนูญว่าสามารถที่จะหยิบยกอดีตหรือปัญหาของรัฐธรรมนูญฉบับเก่ามาแก้ไขในฉบับใหม่ได้มากน้อยเพียงใด ดังนั้นขึ้นอยู่กับตัวแทนที่จะมาร่างและเนื้อหาที่จะมีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ดังนั้นหากเราสามารถแก้ไขรัฐธรรมนูญที่นำไปสู่การจะมีตัวแทนประชาชนมาร่างก็ให้สมบูรณ์ที่สุด ให้ดีที่สุด ให้ได้คนดีที่สุดเข้ามาร่าง นี่คือสิ่งที่ตั้งแท่นไว้ เพื่อให้ได้รัฐธรรมนูญที่ดี ขึ้นอยู่กับตัวแทน ดังนั้นส.ส.ร. เราก็ต้องดูที่มาที่ไป ดูความชอบธรรม ดูระบบการเลือกตั้ง ดูที่การเฟ้นว่ามาได้อย่างไร