พิธา ลั่น เดินสายมาโคราช ไม่ได้ต้องการปลุกระดมมวลชน ให้ออกมากดดัน ส.ว.โหวตเลือกตนเป็นนายกฯ  ยังมั่นใจว่าจะได้รับเลือก ส่วน ม.112 หลายคนเริ่มเข้าใจ ทำให้เงื่อนไขเริ่มอ่อนลง  ยืนยัน ต้องทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชน

 นครราชสีมา-นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลและแคนดิเดท นายกรัฐมนตรี ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ภายหลังจากไปพบปะกลุ่มผู้ประกอบการเอกชน หอการค้า สภาอุตสาหกรรมจังหวัด ภาคประชาสังคม จ.นครราชสีมา ที่ห้องแกรนด์บอลรูม ชั้น 2 โรงแรมฟอร์จูน อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา ว่า  การออกเดินสายต่างจังหวัด ไม่ได้มีจุดประสงค์ที่จะปลุกระดมมวลชนออกมากดดัน ส.ว.ให้โหวตเลือกตนเป็นนายรัฐมนตรีตามที่หลายคนตั้งข้อสังเกตอยู่ในขณะนี้  แต่เป็นการเดินทางมาขอบคุณพี่น้องชาวจังหวัดนครราชสีมา ที่ได้เลือก ส.ส.เขต พรรคก้าวไกล เข้ามาถึง 3 คน และเลือก ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ จนทำให้พรรคก้าวไกลได้จำนวน ส.ส.มาเป็นลำดับที่ 1 แต่ยังมีอีกหลายพื้นที่ที่ยังไม่ได้ไปแสดงความขอบคุณ วันนี้ก็มาตามคำเรียกร้องของชาวโคราช  ได้มาพบปะหารือกับภาคเอกชน ได้รับทราบปัญหาไม่ว่าจะเรื่องเศรษฐกิจ ภาคการเกษตร ภัยแล้ง ปรากฎการณ์เอลนีโญ และเรื่องอื่นๆ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ากังวลใจสำหรับพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งจะได้ช่วยกันขับเคลื่อนแก้ไขปัญหาตามลำดับต่อไป

 

ส่วนเรื่องการปลุกระดมมวลชน ทางพรรคก้าวไกลก็คงจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะมักจะโดนวิพากษ์วิจารณ์แทบทุกเรื่อง แต่เราก็ยังตั้งใจทำงานของเราอย่างเต็มที่ ซึ่งในวันที่ 13 กรกฎาคมที่จะถึง จะมีการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีแล้ว ตนก็มีความมั่นใจขึ้นเรื่อยๆ เพราะจากการเข้าไปพูดคุยกัน ก็ได้เห็น ส.ว.หลายท่านได้ให้สัมภาษณ์สื่อฯ และส่งจดหมายเปิดผนึก ก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่เป็นโอกาสในการคืนความปกติให้กับการเมืองไทยและเป็นการให้โอกาสประเทศไทยด้วย  ในครั้งนี้จึงเชื่อว่าทั้ง ส.ส. และ ส.ว. ยังมีโอกาสที่จะคืนความปกติให้กับการเมืองไทย โดยยึดมติของเสียงข้างมาก ซึ่งจะเป็นวาระสำคัญของประเทศว่า เราจะไปในทิศทางไหน

 

ส่วนเรื่องมาตรา 112  ตนคิดว่า เป็นเงื่อนไขที่อ่อนลงเรื่อยๆ เมื่อได้รับฟังคำชี้แจงและคำอธิบายถึงเหตุและผล ส.ว.หลายๆท่านก็เริ่มจะเข้าใจว่าเองนี้ไม่ใช่เรื่องที่อิงพรรคการเมือง หรือนโยบายของพรรคการเมือง  แต่เป็นเรื่องของหลักการที่จะทำให้ระบบกลับมาเป็นปกติได้ เป็นเรื่องที่จะต้องใช้พื้นที่ของสภาฯ ซึ่งมีความหลากหลายทางความคิด ต้องเปิดโอกาสให้สภาฯ ได้ทำงาน ซึ่งตนได้อธิบายให้ ส.ว.ได้รับทราบ หลายท่านก็เบาใจและมีความเข้าใจมากขึ้นว่า การอนุรักษ์ การรักษา และทำให้เกิดการพัฒนา จำเป็นต้องมีการพูดคุยด้วยวุฒิภาวะ จึงทำให้เงื่อนไขต่างๆน้อยลง  ซึ่งเรื่องนี้ ตนสัญญาไว้กับประชาชนอย่างไร ก็ต้องทำตามนั้น   ซึ่งการโหวตเลือกนายกฯ ครั้งนี้ นี้ ตนก็มั่นใจ และพยายามเต็มที่ที่สุด   แต่หากโหวตครั้งแรกไม่ผ่าน ก็ต้องยึดความคิดเห็นของพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลทั้ง 8 พรรค ซึ่งเท่าที่ฟังมา ตอนนี้ยังไม่มีแผน 2 ดังนั้น ก็จะโฟกัสให้เต็มที่ก่อนวันที่ 13  ก.ค.นี้ก่อน ซึ่งจะโหวตกี่ครั้ง ก็ต้องให้เป็นไปตามกระบวนการที่ควรจะเป็นตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้  และยึดมติของประชาชนเป็นหลัก ถ้าประชาชนไม่ถอย ตนก็ไม่ถอย  ส่วนกรณีที่มีเสียงจากพรรครวมไทยสร้างชาติที่บอกว่า ถ้าโหวตไม่ผ่านในครั้งแรก ก็ควรจะให้โอกาสพรรคลำดับ 2 แทน ไม่ควรจะโหวตซ้ำอีกรอบ ซึ่งเรื่องนี้ ตนมองว่าเป็นความคิดเห็นของพรรครวมไทยสร้างชาติเอง ไม่ได้เป็นหลักการหรือข้อกฎหมายอะไร ตอนนี้ยังไม่มีแผน 2 ยังยึดตามแผนที่พรรคร่วมทั้งหมดได้พูดคุยกันไว้ก่อน” นายพิธาฯ กล่าว .

///////////////ประสิทธิ์ ตั้งประเสริฐ / นครราชสีมา