ที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภา ผลโหวตนายกฯรอบ 3 เห็นชอบ เกิน 374 เสียง ให้ “เศรษฐา ทวีสิน” เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทย ขณะที่ สว. ที่มาจากเหล่าทัพ ยังคงโหวตงดออกเสียง
วันที่ 22 ส.ค. 2566 ที่อาคารรัฐสภา ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ในวาระเรื่องด่วน การพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ตามมาตรา 272 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ภายหลัง นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่าน ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้เสนอชื่อ นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย ต่อสภา และมีการอภิปรายคุณสมบัติกันอย่างกว้างขวาง
ต่อมาเวลา 15.11 น. นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ได้แจ้งต่อที่ประชุมว่า การลงคะแนนจะเป็นแบบเปิดเผย และจะเป็นการเรียกชื่อตามลำดับอักษรเป็นรายคนโดยต้องได้รับเกินกึ่งหนึ่งหรือมากกว่าเกิน 374 เสียงขึ้นไป
โดยล่าสุดเมื่อเวลา 16.49 น. ผ่านมาเกินกว่าครึ่งทางแล้ว ผลปรากฏว่าที่ประชุมร่วมรัฐสภา ได้โหวตเห็นชอบเกิน 374 เสียง ไม่เห็นชอบ 144 เสียง งดออกเสียง 67 เสียง
ต่อมาสมาชิกรัฐสภาได้ลงคะแนนเสร็จสิ้น จากนั้นเวลา 17.40 น. ศาสตราจารย์พิเศษ พรเพชร วิชิตชลชัย รองประธานรัฐสภา ได้แจ้งว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบ 482 เสียง (สส.330+สว.152) ไม่เห็นชอบ 165 เสียง (สส.152+สว.13) งดออกเสียง 81 เสียง (สส.13+สว.68) เป็นอันว่า นายเศรษฐา ได้รับคะแนนเสียงเห็นชอบมากกว่ากึ่งหนึ่งของทั้ง 2 สภา ดังนั้นจึงเห็นได้ว่า มติที่ประชุมเห็นชอบให้นายเศรษฐาเป็นนายกรัฐมนตรี ก่อนจะสั่งปิดประชุม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ส่วนใหญ่โหวตเห็นชอบให้กับนายเศรษฐาเกินกว่า 100 คน ขณะที่ สว. ที่มาจากเหล่าทัพ โหวตงดออกเสียง ส่วนพรรคร่วมรัฐบาลทั้ง 11 พรรค ยังคงไม่แตกแถว ขานชื่อโหวตเห็นชอบ