สุวัจน์ ลิปตพัลลภ ขอแสดงความยินดีกับ อ.อำมฤทธิ ชูสุวรรณ รองประธานมูลนิธิภาพถ่ายแห่งประเทศไทย
ได้รับเกียรติเป็นศิลปินแห่งชาติปี 2563

มูลนิธิภาพถ่ายแห่งประเทศไทย นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานมูลนิธิภาพถ่ายแห่งประเทศไทย ขอแสดงความยินดี กับ อาจารย์ อำมฤทธิ์ ชูสุวรรณ รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยศิลปากร และ รองประธานมูลนิธิภาพถ่ายแห่งประเทศไทย ใน การได้รับแต่งตั้งให้เป็น ศิลปินแห่งชาติ สาขา ทัศนศิลป์ จิตรกรรม สื่อผสม ปี 2563

อ.โห้ และ ” ผมมองว่าภาพถ่ายเป็นงานศิลปะ ที่สามารถสื่อสาร ได้กว้างมาก ยินดี กับการมาช่วย มูลนิธิภาพถ่ายแห่งประเทศไทย ด้วยการใช้ภาพถ่ายในการพัฒนาประเทศไทย ตามแนวคิดของ ท่านประธานมูลนิธิภาพถ่ายแห่งประเทศไท

สุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานมูลนิธิภาพถ่ายแห่งประเทศไทย (อดีตรองนายกรัฐมนตรี)

………………………………………………………………………………..

นายอำมฤทธิ์ ชูสุวรรณ เกิดเมื่อวันที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2498 ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ปัจจุบันอายุ 65 ปี เริ่มศึกษาศิลปะที่โรงเรียนเพาะช่าง สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาศิลปบัณฑิตและระดับปริญญา ศิลปมหาบัณฑิต สาขาจิตรกรรม จากคณะจิตรกรรมประติมากรรมและภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ต่อมาได้รับทุนการศึกษาต่อที่สถาบันศิลปแห่งเมืองคราคูฟ ณ ประเทศโปแลนด์

ในปี พ.ศ. 2527 นายอำมฤทธิ์ สร้างชื่อเสียงจากจิตรกรรมชุด “เงาสะท้อน” ได้รับรางวัลเกียรตินิยมอันดับ 2 จากการแสดงศิลปกรรมแห่งชาติ ครั้งที่ 30 ผลงานชุดนี้เป็นศิลปะนามธรรมเหมือนจริง ซึ่งจุดเปลี่ยนการทำงานครั้งสำคัญเมื่อนายอำมฤทธิ์สร้างงานชุด “จิตรกรรมสื่อผสม” จากวัสดุสำเร็จรูปทับซ้อนในจิตรกรรม อีกทั้งในปี พ.ศ. 2534 นายอำมฤทธิ์ได้ร่วมงานโครงการศิลปะและสิ่งแวดล้อมกับศิลปินไรเนอร์วิเทิลบอนด์ ชาวเยอรมันผู้มีชื่อระดับโลก นายอำมฤทธิ์ได้เริ่มนำวัสดุจากธรรมชาติมาสื่อความหมายใหม่ และต่อมาได้หันเห ความสนใจมุ่งมั่นทำงานศิลปะเชิงความคิด โดยการใช้สื่อใหม่ๆ เช่น ภาพถ่าย วีดิโอ แสงสีจากไฟฟ้า เป็นต้น การใช้สื่อใหม่กับวัสดุธรรมชาติสื่อความหมายได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ในผลงานชุด “เป็นทราย” และชุด “ความทุกข์” เนื่องจากศิลปินสนใจคำสอนของท่านพุทธทาส และเป็นการค้นพบแนวใหม่ ศิลปะกับสื่อทางจิตวิญญาณ

นายอำมฤทธิ์ เป็นอาจารย์สอนศิลปะ และศิลปินผู้อุทิศตนใช้สื่อศิลปะสร้างประโยชน์เพื่อสังคม ทั้งในประเทศและต่างประเทศมากว่า 20 ปี ในการเสนอแนวคิดพื้นที่กับกาลเวลาในสภาวะของการเปลี่ยนผ่านในสังคมปัจจุบัน นายอำมฤทธิ์จึงได้รับเชิญให้ร่วมแสดงงานครั้งสำคัญระดับโลก เช่น เวนิส เบียนลาเล่ และประเทศต่างๆ มากว่า 40 ปี จนเป็นที่ประจักษ์ชัด และยอมรับอย่างกว้างขวางในฐานะศิลปินผู้อุทิศตนเพื่อสาธารณประโยชน์อย่างแท้จริง

นายอำมฤทธิ์ ชูสุวรรณ จึงสมควรได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติเป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (จิตรกรรม-สื่อผสม) พุทธศักราช 2563