“สุวัจน์” สร้างประวัติศาสตร์ ชู Soft Power
ชิงแชมป์ “มวยไทย- MMA” ในสนามเดียวกัน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ท่องเที่ยวหัวหิน
นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานที่ปรึกษาการจัดการแข่งขันฯ เป็นประธานเปิดการแข่งขันกีฬามวยไทย และศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสาน (Mixed martial arts : MMA) “มวยไทย-MMA” รายการ เลเจนด์ เอฟซี “เลเจนด์ ไฟท์ติ้ง แชมเปี้ยนชิพส์” ชื่อศึก “เดอะ ไรซ์ ออฟ เดอะ เลเจนด์” จัดโดยเดอะ เลเจนด์ อารีน่า, กลุ่มบริษัทพราว และบลูพอร์ต หัวหิน
ดำเนินการจัดการแข่งขันทั้งสิ้น 3 สนาม ตั้งแต่เดือนเมษายน- มิถุนายน 2565 โดยมี แม้ทธิว พอล ดีน และ “วิว” เยาวภา บุรพลชัย อดีตนักเทควันโด ฮีโร่เหรียญทองแดงโอลิมปิกเกมส์ 2004 ในฐานะโปรโมเตอร์ เป็นพิธีกรคู่ ที่เดอะสแควร์ บลูพอร์ต หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2565 (สนามที่ 3) รอบชิงชนะเลิศ
นายสุวัจน์ กล่าวว่า เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่มีการแข่งขันทั้ง มวยไทย และ MMA ที่อยู่ในสนามเดียวกัน และเป็นครั้งแรกที่มีการจัดการแข่งขัน Tournament ระดับอินเตอร์ ที่นักชกชาวไทยกับนักชกชาวต่างประเทศทั้งกีฬามวยไทย และกีฬา MMA ถือว่าเป็นการส่งเสริมอนุรักษ์ศิลปะมวยไทย และกีฬาใหม่ๆให้กับบ้านเรา
โดยเฉพาะกีฬา MMA ขณะนี้มาแรงได้รับความนิยม ทั้งเรื่องคนดูและค่าตัวนักกีฬา ซึ่งกีฬา MMA จะประกอบด้วยกีฬา 4-5 อย่างถึงเรียกว่า ศิลปะกีฬาที่ผสมผสาน คือ จะมีทั้ง มวยไทย มวยสากล ยูโด มวยปล้ำ เทควันโด คาราเต้ ยูยิตสู เมื่อมวยไทยเป็นศิลปะแขนงหนึ่งในกีฬา MMA ก็เป็นโอกาสอันดีที่เราจะสร้างมวยไทยของเราให้มีชื่อเสียงในกีฬา MMA ตามกระแสนิยม
“ผมว่าเป็นทั้งการอนุรักษ์มวยไทย และเป็นการต่อยอดศิลปะมวยไทย ถือว่าเป็นเรื่องอันดีซึ่งวันนี้คึกคักมาก มีผู้ชมมาเป็นจำนวนมาก และเป็นครั้งแรกที่มีการถ่ายทอดสด 2 เวที และมาจัดที่เมืองท่องเที่ยว เพื่อให้ประชาชนพี่น้องชาวไทยได้ชมกันทั้งประเทศ ถือว่าเป็นการส่งความสุข ส่งความรู้สึกรักชาติ และส่งความปรารถนาดีๆ ในเรื่องของการสร้างกีฬาใหม่ๆให้กับประเทศ และเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวให้กลับมา ต้องขอขอบคุณคุณวิว เยาวภา อดีตนักกีฬาเทควันโด เหรียญทองแดง ถึงแม้วันนี้จะเลิกเล่นโอลิมปิก ก็ยังมีใจรักชาติ มาส่งเสริมการกีฬา สนับสนุนกีฬา ถือว่าเป็นสปิริตที่ดี และขอขอบคุณทางผู้จัด บลูพอร์ต หัวหิน และเดอะ เลเจนด์ อารีน่า,ที่มีกิจกรรมดีๆ มากระตุ้นเศรษฐกิจ ขอบคุณทางช่อง 8 ที่มาถ่ายทอดสด”
นายสุวัจน์ กล่าวว่า ศิลปะมวยไทย เป็นศิลปะประจำชาติ และเป็นอีกหนึ่งของ Soft Power นอกจากศิลปะ ดนตรี กีฬา อาหาร การแต่งกายต่างๆ ซึ่งตอนนี้เราจะอยู่ในบรรยากาศการเปิดประเทศ การกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวมีความสำคัญมาก่อนการลงทุน จึงได้มีการผลักดันการส่งเสริมการท่องเที่ยว ให้มีการจัดกีฬาระดับอินเตอร์ เพื่อกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวมาเมืองไทย โดยการนำ Soft Power ของเมืองไทยมาใช้เพื่อมากระตุ้นเศรษฐกิจ และถือโอกาสนี้ ขอบคุณ ช่อง 8 ที่ได้ถ่ายทอดสด ให้พี่น้องประชาชนชาวไทยทั้งประเทศได้ภาคภูมิใจ กับ Soft Power กับมวยไทย และจะช่วยสร้างนักมวยไทย MMA ของคนไทยไปสู่ระดับโลก
“กีฬาจะต้องมีแพ้และชนะ แต่สำคัญที่สุด คือสปิริต รู้แพ้ รู้ชนะ เราส่งกำลังใจให้คนไทย ขอให้พี่น้องชาวไทยทุกท่านมีความสุข สนุกสนาน ชื่นชม กับ กีฬา MMA” นายสุวัจน์ กล่าว
สำหรับการแข่งขันครั้งนี้ เป็นการแข่งขันสนามที่ 3
รอบชิงชนะเลิศ มีการจัดการแข่งขันทั้งมวยไทย และ การต่อสู้แบบผสมผสาน(MMA) ประกอบด้วย 4 คู่ มวยไทย และ MMA รอบชิงชนะเลิศ
4 คู่ มวยไทย และ MMA ซุปเปอร์ไฟต์ โดยแชมป์จะได้เหรียญรูปหลวงปู่ทวด ผ่านพิธีพุทธาภิเษกโดย พระพิศาลสิทธิคุณ หรือ เจ้าคุณไพโรจน์ ปภัสสโร เจ้าอาวาสวัดห้วยมงคล รวมทั้งยังได้รับเงินสดและถ้วยรางวัลด้วย