กู้ภัยฮุก 31 โคราช ได้รับเงินล็อตแรกจาก สพฉ.แล้ว 1.4 แสนบาท แต่ยังติดลบอยู่อีกกว่า 2.2 ล้านบาท ตั้งตารอเงินที่เหลือ วอนเห็นใจอาสาสมัครกู้ภัยที่ทำงานด้วยความเสียสละ
นครราชสีมา – จากกรณีที่เจ้าหน้าที่สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ ค้างจ่ายเงินสนับสนุนเงินชดเชยการออกปฏิบัติงานให้กับหน่วยกู้ภัยต่างๆ ทั่วประเทศ ต่อเนื่องมานานกว่า 8 เดือนแล้ว ส่งผลให้หน่วยกู้ภัยทั่วประเทศประสบกับปัญหาขาดเงินในการเติมน้ำมันจนไม่สามารถออกปฏิบัติหน้าที่ได้ โดยเฉพาะหน่วยกู้ภัย 2 แห่งในพื้นที่ จ.นครราชสีมา ได้แก่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิหลักเสียงเซี่ยงตึ๊งสว่างเมตตาธรรมสถาน นครราชสีมา หรือกู้ภัยสว่างเมตตา และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิพุทธธรรม 31 หรือฮุก 31 นครราชสีมา ซึ่งมีจุดปฏิบัติการหน่วยกู้ภัยรวมกว่า 50 จุด ทั่วทั้ง 32 อำเภอ ของ จ.นครราชสีมา เริ่มประสบปัญหาขาดเงินงบประมาณในการบริหารงานปฏิบัติหน้าที่ของหน่วยกู้ภัย จนทำให้หลายจุดเริ่มที่จะหยุดวิ่งรถรับส่งผู้ป่วยแล้วในขณะนี้ ขณะเดียวกันทางสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ ก็ได้ออกมายอมรับว่าเกิดปัญหาความล่าช้าจริง เนื่องจากอยู่ระหว่างปรับปรุงระบบใหม่ โดยขณะนี้จะเริ่มทยอยจ่ายเงินค้างจ่ายให้หน่วยกู้ภัยทั่วประเทศให้แล้วเสร็จภายในเดือน ก.ค.นี้ หรืออย่างช้าไม่เกินเดือน ต.ค.นี้นั้น
ล่าสุด วันนี้ (6 กรกฎาคม 2566) ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยังศูนย์วิทยุสื่อสาร หน่วยกู้ภัยสว่างเมตตา นครราชสีมา ได้รับการยืนยันว่า ขณะนี้ก็ยังไม่ได้รับเงินสนับสนุนชดเชยการออกปฏิบัติงานจาก สพฉ.แต่อย่างใด มีเพียงข่าวออกมาว่าจะโอนเงินให้ ซึ่งหน่วยกู้ภัยสว่างเมตตา ในพื้นที่ จ.นครราชสีมานั้น มีอยู่ทั้งหมด 4 อำเภอ ได้แก่ อ.เมือง อ.พิมาย อ.ชุมพวง อ.หนองบุญมาก มีรถกู้ภัยปฏิบัติหน้าที่อยู่กว่า 40 คัน ถ้าตามปกติจะได้รับเงินสนับสนุนจาก สพฉ.เดือนละกว่า 1 แสนบาท ซึ่งค้างจ่ายมานานกว่า 8 เดือนแล้ว ก็เป็นเงินเกือบ 1 ล้านบาท ตอนนี้ก็ยังไม่ได้รับเงินส่วนนี้เลย จึงขอวิงวอน สพฉ.ช่วยเหลือในส่วนนี้ด้วย
ด้านนายพิสิษฐ พงษ์ศิริศุภกุล รองประธานและเลขาธิการมูลนิธิพุทธรรม 31 นครราชสีมา เปิดเผยว่า ในส่วนของมูลนิธิฯ นั้น มีจุดบริการของอาสากู้ภัยอยู่ทั่วทั้งจังหวัดนครราชสีมากว่า 50 จุด มีรถอาสากู้ภัยอยู่กว่า 400 คัน ซึ่งยังไม่ได้รับเงินสนับสนุนจาก สพฉ.ที่ค้างจ่ายมานานกว่า 8 เดือนแล้ว เป็นมูลค่าเงินค้างจ่ายกว่า 4 ล้านบาท โดยที่ผ่านมาทางมูลนิธิฯ ได้นำเงินกองทุนสำรองจ่ายไปก่อนกว่า 2.4 ล้านบาท ต่อมาเมื่อเร็วๆ นี้ได้ข่าวว่าทาง สพฉ.ได้เริ่มดำเนินการโอนเงินให้หน่วยกู้ภัยต่างๆ แล้ว ซึ่งล่าสุด วันนี้ (6 ก.ค.66) เวลา 09.30 น. ตนเอง ได้ให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน นำสมุดบัญชีไปอัพเดทแล้ว และพบว่ามีเงินโอนเข้าบัญชีมา จำนวน 148,954.50 บาท จากยอดค้างชำระทั้งหมดกว่า 4 ล้านบาท ซึ่งต้องขอขอบคุณ นพ.ณรงค์ อภิกุลวณิช รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ที่ได้เร่งรัดให้ สพฉ.จ่ายเงินให้กับเครือข่ายหน่วยกู้ภัยทั่วประเทศในครั้งนี้ด้วย ทั้งนี้ทราบว่าทาง สพฉ.ได้โอนเงินให้เครือข่ายกู้ภัยทั่วประเทศล็อตแรกไปแล้ว ประมาณ 30% หรือประมาณ 32 ล้านบาท ตอนนี้ก็ยังเหลือเงินค้างอยู่ประมาณ 1,050 ล้านบาท ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะจ่ายให้อีกเมื่อใด ถึงอย่างไรก็ตามในส่วนของมูลนิธิฯ ก็จะใช้เงินกองทุนสำรองจ่ายไปก่อน โดยเดือนนี้ก็จะใช้เงินสำรองจ่ายไปประมาณ 250,000 บาท เพื่อให้อาสาสมัครกู้ภัย สามารถทำงานได้ต่อไป ซึ่งในส่วนของมูลนิธิพุทธธรรม 31 หรือฮุก 31 ไม่มีปัญหาอะไร แต่ในส่วนของเครือข่ายกู้ชีพกู้ภัยทั่วประเทศ โดยเฉพาะที่อยู่ในสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่างๆ มีปัญหาแน่นอน ทำให้รถอาสาสมัครกู้ชีพกู้ภัยหลายคนหยุดวิ่ง เพราะไม่มีเงินอุดหนุนส่วนนี้ ขณะเดียวกันเดิมทีเงินส่วนนี้ทางอาสาสมัครกู้ชีพกู้ภัยทั่วประเทศ ก็ไม่เคยเรียกร้องใดๆ มาก่อนอยู่แล้ว แต่เมื่อ สพฉ.มีเงินอุดหนุนส่วนนี้ให้มา และเป็นเงินจากภาษีประชาชน เพื่อทำให้การทำงานของอาสาสมัครกู้ชีพกู้ภัยมีขวัญกำลังใจในการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ก็เป็นสิ่งที่ควรจะได้รับอย่างตรงไปตรงมา เพราะผู้ที่มาเป็นอาสาสมัครกู้ชีพกู้ภัย ทุกคน ก็ไม่มีเงินเดือน แต่อาสานำรถส่วนตัวมาวิ่งรับส่งผู้ป่วย เขาต้องเติมน้ำมัน ต้องบำรุงรักษาสภาพรถอยู่เสมอ และเสียเวลาในการปฏิบัติหน้าที่วิ่งรับส่งผู้ป่วย การได้เงินชดเชยเพียงแค่ 350 บาท และไม่ได้ทุกวัน จึงไม่สามารถทำให้เขาดำรงชีวิตอยู่ได้ในยุคนี้ หลายคนจึงต้องมีรายได้จากงานประจำ เมื่อมีเงินส่วนนี้ที่ได้มาด้วยความสุจริต ก็ควรที่จะให้เขาอย่างตรงไปตรงมาด้วย.
//////////ประสิทธิ์ ตั้งประเสริฐ // นครราชสีมา