โคราชจ่อวิกฤติแล้ง 4 เขื่อนใหญ่เหลือน้ำใช้แค่ 36 เปอร์เซ็นต์ ผู้ว่าโคราช สั่ง 32 อำเภอ เร่งสำรวจพื้นที่และประเมินความเสี่ยงขาดแคลนน้ำอุปโภค-บริโภค
นครราชสีมา-วันนี้ (29 เมษายน 2567) นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานประชุมกรมการจังหวัดและหัวหน้าส่วนราชการจังหวัดนครราชสีมา ครั้งที่ 4/2567 ที่หอประชุมเปรมติณสูลานนท์ ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา โดยมีหัวหน้าส่วนราชการทุกสังกัดกระทรวงในพื้นที่จังหวัดฯ ,นายอำเภอทั้ง 32 อำเภอ และตัวแทนจากภาคส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม ซึ่งวาระสำคัญในการประชุมครั้งนี้ จะเป็นเรื่องสถานการณ์ภัยแล้ง และสถานการณ์น้ำในพื้นที่จังหวัดฯ
โดยโครงการชลประทานนครราชสีมา ได้รายงานว่า สถานการณ์น้ำเก็บกักในอ่าเก็บน้ำขนาดใหญ่ 4 แห่ง และอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง 23 แห่งของจังหวัดนครราชสีมา ปัจจุบัน มีปริมาตรน้ำรวมคงเหลือ อยู่ที่ 488.52 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 40.15 % และเป็นน้ำใช้การได้ 426.12 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 36.92 % เท่านั้น โดยอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ 4 แห่ง ประกอบด้วย
1.อ่างเก็บน้ำลำตะคอง อ.สีคิ้ว มีปริมาตรน้ำคงเหลือ อยู่ที่ 107.51ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็น 34.19 % เท่านั้น ซึ่งเป็นน้ำใช้การได้ 84.79 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 29.06% อยู่ในเกณฑ์สีเหลือง “น้ำน้อยวิกฤติ”
2.อ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง อ.ปักธงชัย มีน้ำคงเหลือเกินครึ่งอ่างฯ โดยมีปริมาตรอยู่ที่ 82.89 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็น 53.48 % เป็นน้ำใช้การได้ 82.17 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 53.26% อยู่ในเกณฑ์สีน้ำเงิน “น้ำปานกลาง”
3.อ่างเก็บน้ำมูลบน อ.ครบุรี มีปริมาตรน้ำคงเหลือ อยู่ที่ 57.67 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็น 40.91 % เป็นน้ำใช้การได้ 50.67 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 37.82 % ยังอยู่ในเกณฑ์สีเขียว “น้ำน้อย”
4.อ่างเก็บน้ำลำแชะ อ.ครบุรี มีปริมาตรน้ำคงเหลือ อยู่ที่ 102.40 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็น 37.24 % และเป็นน้ำใช้การได้ 95.40 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 35.60 % ยังอยู่ในเกณฑ์สีเขียว “น้ำน้อย”
ซึ่งจะเห็นได้ว่า อ่างเก็บน้ำลำตะคอง ที่เป็นอ่างเก็บน้ำหลัก ส่งจ่ายน้ำหล่อเลี้ยงชาวโคราชถึง 5 อำเภอ ตอนนี้เหลือน้ำใช้น้อยกว่า 30 % เข้าขั้นวิกฤติแล้ว นายชัยวัฒน์ฯ จึงมีข้อสั่งการให้ทุกอำเภอเร่งสำรวจพื้นที่และประเมินความเสี่ยงขาดแคลนน้ำอุปโภค-บริโภค เพื่อนำมาประกอบการประเมินสถานการณ์น้ำจากผลกระทบภัยแล้งในภาพรวม จะได้เตรียมความพร้อมรับมือ และดำเนินแผนเผชิญเหตุได้อย่างรวดเร็ว ทันสถานการณ์ พร้อมกับย้ำชลประทานทุกพื้นที่ให้บริหารจัดการน้ำอย่างรัดกุม ใช้น้ำให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด โดยเน้นเพื่อการอุปโภค บริโภคมาเป็นอันดับแรก และรักษาระบบนิเวศ , ส่งจ่ายให้ภาคอุตสาหกรรม และการเกษตร ตามลำดับ ส่วนภาคประชาชนขอให้เก็บสำรองน้ำไว้ใช้ในครัวเรือนให้นานที่สุดจนกว่าจะถึงหน้าฝน รวมทั้งใช้น้ำอย่างประหยัดและใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด .
////////////////ประสิทธิ์ ตั้งประเสริฐ / นครราชสีมา