“กินเข่าค่ำ รำบวงสรวง แสดง แสง สี เสียง สดุดีวีรกรรมทุ่งสัมฤทธิ์”
ระหว่างวันที่ 2 – 5 มีนาคม พ.ศ. 2562
ณ อนุสรณ์สถานวีรกรรมทุ่งสัมฤทธิ์ ตำบลสัมฤทธิ์ อำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา
ปีนี้พณฯท่านกร ทัพพะรังสีและภริยามาเป็นประธานเปิดงานฯ สำหรับวีรกรรมทุ่งสัมฤทธิ์ เป็นวีรกรรมทรงคุณค่าคู่เมืองโคราช สืบเนื่องจากประวัติศาสตร์ได้จารึกไว้ว่า เมื่อปี พ.ศ.2369 คุณหญิงโม ภริยาปลัดเมืองโคราช ได้ใช้อุบาย และรวบรวมกำลังต่อสู้กองทหารข้าศึกผู้รุกราน จนได้ชัยชนะ พวกข้าศึกผู้รุกรานแตกพ่ายถอยทัพกลับไป ซึ่งนับเป็นเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์ไทย ที่ชาวไทยมีความภาคภูมิใจ ในการสู้รบครั้งนั้น
นอกจากนี้ ยังมีอีกหนึ่งเหตุการณ์สำคัญ ที่ช่วยให้มีชัยชนะแก่ข้าศึก คือวีรกรรมของ นางสาวบุญเหลือ ที่ได้พลีชีพด้วย การนำคบไฟไปจุดที่กองเกวียนบรรทุกกระสุนดินดำ ทำให้เกิดการระเบิดขึ้นอย่างรุนแรง ข้าศึกบาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมาก วีรกรรมสำคัญของนางสาวบุญเหลือ ยังจารึกในความทรงจำ ของชาวจังหวัดนครราชสีมาและเล่าขานสืบต่อกันมาจนถึงปัจจุบัน
ดังนั้น ทำให้ชาวบ้านในตำบลสัมฤทธิ์ อำเภอพิมาย พร้อมใจกันจัดงานสดุดีวีรกรรมทุ่งสัมฤทธิ์ขึ้น เป็นประจำทุกปี เพื่อให้ชนรุ่นหลังได้รำลึกวีรกรรมในครั้งนี้ตลอดไป
ประวัติศาสตร์ “วีรกรรมทุ่งสัมฤทธิ์”
สำหรับวีรกรรมทุ่งสัมฤทธิ์ เป็นวีรกรรมทรงคุณค่าคู่เมืองโคราช สืบเนื่องจากประวัติศาสตร์ได้จารึกไว้ว่าเมื่อปี พ.ศ.2369 มีเจ้าผู้ครองนครทางทิศตะวันออกของประเทศไทย เป็นกบฏต่อกรุงเทพฯ ยกกองทัพมายึดเมืองนครราชสีมา แล้วกวาดต้อนผู้คนไปเป็นเชลยศึกขณะเดินทางถึงทุ่งสัมฤทธิ์ (ที่อำเภอพิมายในปัจจุบัน) คุณหญิงโม ภริยาปลัดเมืองโคราช ได้ใช้อุบายและรวบรวมกำลังต่อสู้กองทหารข้าศึกผู้รุกรานจนได้ชัยชนะ พวกข้าศึกผู้รุกรานแตกพ่ายถอยทัพกลับไป ซึ่งนับเป็นเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์ไทยที่ชาวไทยมีความภาคภูมิใจ ในการสู้รบครั้งนั้น
วีรกรรมของ “นางสาวบุญเหลือ”
นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งเหตุการณ์สำคัญที่ช่วยให้มีชัยชนะแก่ข้าศึก คือวีรกรรมของ “นางสาวบุญเหลือ” ที่ได้พลีชีพด้วย การนำคบไฟไปจุดที่กองเกวียนบรรทุกกระสุนดินดำ ทำให้เกิดการระเบิดขึ้นอย่างรุนแรง แสงเพลิงแดงฉานไปทั่วทุ่งสัมฤทธิ์ ข้าศึกบาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมาก วีรกรรมสำคัญของ นางสาวบุญเหลือ ยังจารึกในความทรงจำ ของชาวจังหวัดนครราชสีมาและเล่าขานสืบต่อกันมาจนถึงปัจจุบัน ดังนั้นทำให้ชาวบ้านใน ต.สัมฤทธิ์ อ.พิมาย จ.นครราชสีมา พร้อมใจกันจัดงานสดุดีวีรกรรมทุ่งสัมฤทธิ์ขึ้น เป็นประจำทุกปี เพื่อให้ชนรุ่นหลังได้รำลึกวีรกรรมในครั้งนี้ตลอดไป