ผอ.กศน.โนนสูง โร่แจ้งความถูกมิจฉาชีพแฮกเฟสบุ๊คและไลน์ หลอกเพื่อนครูให้โอนเงิน สูญเงินกว่า 2 แสนบาท

นครราชสีมา – วันนี้ (17 พฤศจิกายน 2563) เวลา 14.49 น. นางวิไลลักษณ์ โรจนาศรีรัตน์ อายุ 56 ปี ผอ.กศน.อำเภอโนนสูง จังหวัดนครราชสีมา ได้เดินทางมาที่ สภ.เมืองนครราชสีมา เพื่อเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยมี ร.ต.ท.วโรรส เคษรักษา รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองนครราชสีมา เป็นผู้รับแจ้งความไว้ ภายหลังจากที่ถูกมิจฉาชีพแฮกแอพลิเคชั่นไลน์ และเฟสบุ๊ค แล้วส่งข้อความไปหลอกยืมเงินกับเพื่อนข้าราชการ และสามี โดยมีผู้หลงกลโอนเงินเข้าบัญชีพร้อมเพย์ของมิจฉาชีพไปกว่า 10 ราย รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 200,000 บาท ซึ่งนางวิไลลักษณ์ ได้นำหลักฐานการข้อความแชตในเฟสบุ๊ค และไลน์ มาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อแจ้งความไว้ และจะได้นำใบแจ้งความไปขอให้ธนาคารทำการอายัดบัญชีไว้ก่อน

นางวิไลลักษณ์ โรจนาศรีรัตน์ เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ขณะที่ตนเองเข้าประชุม กศน.ระดับจังหวัด อยู่ในโรงแรมแห่งหนึ่ง ในเขตพื้นที่ อ.เมืองนครราชสีมา ปรากฏว่าระหว่างนั้นมีเพื่อนครูที่ประชุมอยู่ด้วยกัน มาสอบถามว่าได้ส่งข้อความผ่านไลน์มาขอยืมเงินกับเขาหรือไม่ ซึ่งตนเองก็ตกใจมาก เพราะไม่ได้มีปัญหาทางด้านการเงินที่ถึงกับต้องยืมเงินเพื่อนในเวลานี้ จึงได้ขอดูข้อความ ปรากฏว่าเป็นข้อความจากไลน์ของตนเองจริงๆ และตอนนั้นตนเองก็ไม่สามารถเข้าไลน์ได้เลย จึงมั่นใจว่าถูกมิจฉาชีพแฮกไลน์ของตนซะแล้ว หลังจากนั้นก็มีเพื่อนๆ โทรมาบอกว่าได้โอนเงินให้ตนแล้วหลายราย โดยมีการแฮกทั้งไลน์และเฟสบุ๊คของตนเองด้วย บางคนหลงกลโอนไปให้ 5,000 บาทบ้าง 10,000 บาทบ้าง โดยมิจฉาชีพจะใช้วิธีหว่านล้อมบอกว่า ตนเองมีความจำเป็นต้องใช้เงินด่วน แล้วส่งคิวอาร์โค้ด ที่เป็นบัญชีพร้อมเพย์ ผูกติดกับบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ เลขบัญชี 4100994909 ชื่อบัญชีนายอนุชา ธิมาทา ซึ่งไม่มีใครรู้จักเลย ตนเองจึงให้เพื่อนพยายามติดต่อขอให้คนดังกล่าวโอนเงินกลับคืน แต่ปรากฏว่ามิจฉาชีพไหวตัวทันบล็อกแชตกันถ้วนหน้า ดังนั้นตนเองจึงได้นำหลักฐานมาแจ้งความไว้เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ และให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามจับตัวมิจฉาชีพรายนี้มาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว เพราะถือว่าเป็นภัยสังคม ส่วนสาเหตุที่มิจฉาชีพสามารถแฮกเฟสบุ๊ค และไลน์ของตนได้นั้น ตอนนี้ยังไม่ทราบ แต่มีข้อสงสัยหลายอย่าง เช่น 1.ตนเองได้ใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ทำงานเข้าเฟสบุ๊ค และไลน์บ่อยครั้ง 2.ตนเองเพิ่งใช้เบอร์โทรศัพท์สมัครพร้อมเพย์ 3.เมื่อวันที่ 2 พ.ย.ที่ผ่านมาตนเองเพิ่งจะแจ้งธนาคารกรุงไทย ขอเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์รับแจ้งข้อความจากแอพธนาคาร และ 4.เมื่อวันที่ 11 เดือน 11 ตนเพิ่งสั่งซื้อของออนไลน์ แต่ก็เป็นแบบเก็บเงินปลายทาง ซึ่งข้อสงสัย 4 ข้อนี้ อาจจะมีบางข้อที่ทำให้มิจฉาชีพสามารถแฮกข้อมูลไลน์ และเฟสบุ๊คได้ ดังนั้นจึงฝากเตือนประชาชนว่า หากมีเพื่อนหรือคนรู้จักทักเฟสบุ๊คหรือไลน์มาขอยืมเงิน ก็ขอให้โทรศัพท์มาสอบถามกับเจ้าตัวดูก่อน เพื่อให้แน่ใจ อย่าเพิ่งรีบโอนเงิน เพราะอาจจะถูกมิจฉาชีพหลอกได้เหมือนกรณีนี้

ด้านนายมนตรี โรจนาศรีรัตน์ อายุ 56 ปี สามีของนางวิไลลักษณ์ฯ กล่าวว่า ตนเองก็ถูกทักข้อความมาหลอกให้โอนเงินไป 2 รอบๆ ละ 5,000 บาท รวมเป็นเงิน 10,000 บาท หลังจากทราบเรื่องจากภรรยาว่าเฟสบุ๊คและไลน์ถูกแฮก จึงได้รีบไปพบผู้จัดการธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาหัวทะเล เพื่อขออายัดเลขบัญชีธนาคารที่ถูกโอนเงินเข้าไป ซึ่งธนาคารตรวจสอบดูแล้วก็ปรากฏว่ามีเงินถูกโอนเข้ามานับแสนบาท แต่การจะอายัดบัญชีได้นั้น ผู้แจ้งจะต้องเป็นผู้เสียหาย และก็ต้องนำใบแจ้งความจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ มาเป็นหลักฐานก่อน ธนาคารจึงจะสามารถอายัดบัญชีได้ ตนจึงรีบมาแจ้งความเพื่ออายัดบัญชีก่อนที่เงินจะถูกถอนออกไปหมด และทราบจากเพื่อนของภรรยาอีกว่า ขณะนี้ได้มีเพื่อนครูทั้งในภาคเหนือ และภาคอีสาน จำนวนมากกำลังถูกมิจฉาชีพแฮกเฟสบุ๊คและไลน์ ก่อเหตุยืมเงินลักษณะนี้ จึงขอเตือนให้ผู้ที่ถูกยืมเงิน ให้โทรศัพท์ไปสอบถามคนที่ยืมก่อนให้แน่ใจ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุลักษณะนี้ซ้ำอีก.