เกษตรกรโคราชเฮ มูลนิธิปิดทองหลังพระฯ เดินหน้าโครงการระบบกระจายน้ำผ่านท่อใต้ผิวดิน แก้ภัยแล้ง ป้องกันขาดแคลนน้ำใช้ในการเกษตร

 นครราชสีมา-วันนี้ (1 กรกฎาคม 2566) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  เกษตรกรบ้านจานเหลือ หมู่ที่ 13 ตำบลกำปัง อำเภอโนนไทย จังหวัดนครราชสีมา  ต่างรู้สึกดีใจที่สถาบันส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมปิดทองหลังพระสืบสานแนวพระราชดำริฯ ได้ดำเนิน “โครงการปรับปรุงเสริมศักยภาพกระจายน้ำ”ให้กับพื้นที่ โดยนายกฤษฎา บุญราช ประธานกรรมการสถาบันฯ  และคณะ มาร่วมส่งมอบโครงการฯ และเปิดระบบกระจายน้ำคลองลุง โซนที่ 1 ระยะที่ 1 บ้านจานเหนือ หมู่ที่13 ต.กำปัง อ.โนนไทย จ.นครราชสีมาเมื่อวานนี้ (30 มิถุนายน 2566) หลังจากได้รับงบประมาณสนับสนุนจัดซื้อวัสดุ อุปกรณ์ รวม 580,000 บาท และประชาชนในพื้นที่ร่วมกันดำเนินการตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคม 2566 จนแล้วเสร็จเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2566 ที่ผ่านมา

 

ซึ่งการดำเนินการโครงการปรับปรุงเสริมศักยภาพกระจายน้ำ หน่วยราชการปกติไม่สามารถก่อสร้างและติดตั้งเครื่องสูบน้ำหรือดึงน้ำในฝายที่อยู่ต่ำขึ้นที่สูง เพื่อกระจายน้ำเข้าสู่แปลงของเกษตรกรได้ เพราะไม่มีงบประมาณ อีกทั้งยังเป็นงานด้านเทคนิคการเชื่อมท่อใต้ดิน ทำให้ไม่สามารถใช้แรงงานมาช่วยได้เท่าที่ควร สถาบันปิดทองหลังพระฯ จึงได้ให้อาสาสมัครของสถาบันฯ ที่เป็นอดีตข้าราชการด้านยุทธศาสตร์น้ำ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ซึ่งเป็นวิศวกรที่มีความเชี่ยวชาญด้านน้ำ มาช่วยออกแบบเพื่อยกน้ำขึ้นที่สูงเพื่อยกระดับน้ำไหลเข้าแปลงของเกษตรกรผ่านระบบท่อใต้ดินได้  และเมื่อทดลองเปิดระบบน้ำโดยใช้เครื่องสูบน้ำ 1 เครื่องเข้าระบบท่อ ปรากฏว่า แรงดันน้ำมีกำลังสูง จึงทำให้ไม่เสียพื้นที่ในการทำเกษตรสามารถใช้หน้าดินในการเพาะปลูกได้เต็มศักยภาพ  สามารถส่งน้ำเข้าพื้นที่การเกษตรของเกษตรกรได้ 11 ราย เป็นพื้นที่เพาะปลูก 85 ไร่

 

ทั้งนี้  พื้นที่ที่จะสามารถขอรับการสนับสนุนจากสถาบันปิดทองหลังพระฯ จะต้องเป็นพื้นที่ที่คนในชุมชนหรือหมู่บ้านมีความต้องการอย่างแท้จริง รวมทั้ง ยินดีที่จะสละแรงงานและเวลามาร่วมดำเนินการก่อสร้างซ่อมแซมและพัฒนาแหล่งน้ำไปด้วยกัน  โดยสถาบันฯ จะสนับสนุนงบประมาณและวัสดุในการซ่อมแซมและพัฒนาแหล่งน้ำขนาดเล็กดังกล่าว ด้วยการขอความร่วมมือนายช่างองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นผู้ออกแบบและควบคุมการซ่อมแซม รวมทั้ง ขอให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้านและนายอำเภอ นำกำลังแรงงานชาวบ้านมาร่วมดำเนินการด้วย และหลังจากซ่อมแซมแล้วเสร็จ ประชาชนผู้ได้รับประโยชน์จากโครงการฯ จะต้องมีการตั้งกลุ่มคณะกรรมการกลุ่มผู้ใช้น้ำ เพื่อช่วยกันดูแลบำรุงรักษาให้สามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งปีนี้มีพื้นที่ดำเนินการรวม 9 จังหวัดในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ใช้งบประมาณรวม 42.88 ล้านบาท จำนวน 132 โครงการ คาดว่าประชาชนจะได้รับประโยชน์ไม่น้อยกว่า 9,751 ครัวเรือน พื้นที่ทำการเกษตร ได้รับน้ำจำนวน 46,800 ไร่

 

ทั้งนี้ สถาบันฯ เป็นองค์กรพัฒนาที่ไม่ได้แสวงหากำไร ภายใต้สังกัดมูลนิธิปิดทองหลังพระฯ จะได้รับงบประมาณเงินอุดหนุนทั่วไป จากกรมทรัพยากรน้ำ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และเงินบริจาคของมูลนิธิตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อมาสนับสนุนให้หน่วยราชการในจังหวัดและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ ไปประชุมปรึกษาหารือกับประชาชนในพื้นที่ดูแลที่ประสบปัญหาและมีความต้องการจะให้สถาบันฯ เข้ามามาสนับสนุนดำเนินการซ่อมแซมหรือเสริมศักยภาพแหล่งน้ำขนาดเล็กให้  เช่น ฝาย เหมือง คลองส่งน้ำ ฯลฯ ที่ถูกปล่อยไว้ไม่มีหน่วยงานใดเข้ารับผิดชอบ เนื่องจากขาดแคลนงบประมาณ และระเบียบราชการที่ไม่เปิดช่องทาง หรือไม่สามารถดำเนินการได้ตามระเบียบราชการทั่วไป.

ประสิทธิ์ ตั้งประเสริฐ / นครราชสีมา