ชาวไร่อ้อยโคราช ทวงเงินรัฐฯ ช่วยตัดอ้อยสดลด PM 2.5 กว่าพันล้าน หลังรับปากจะช่วยสนับสนุน 120 บาทต่อตัน เกษตรกรนับ 30,000 ครอบครัว กำลังเดือดร้อนหนัก
นครราชสีมา – วันนี้ (30 มิถุนายน 2566) ที่ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา ตัวแทนสมาคมชาวไร่อ้อยของจังหวัดนครราชสีมา 4 สมาคม นำโดยนายมนตรี วิศณุพรประสิทธิ์ นายกสมาคมชาวไร่อ้อยอีสานใต้ , นายเลียบ บุญเชื่อง นายกสมาคมชาวไร่อ้อยลำมูลบน , นายเกียรติภูมิ ศรีจันทร์รัตน์ นายกสมาคมชาวไร่อ้อยสุรนารี และนายอำนวย เพ็งสระเกษ นายกสมาคมชาวไร่อ้อยสีคิ้ว พร้อมด้วย ตัวแทนเกษตรกรผู้ปลูกอ้อย นำหนังสือเปิดผนึกชี้แจงปัญหาความเดือดร้อนของเกษตรกรชาวไร่อ้อย ตามโครงการช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อยตัดอ้อยสดคุณภาพดี เพื่อลดฝุ่น PM 2.5 ฤดูกาลผลิตปี 2565 / 2566 มามอบให้กับนายสมเกียรติ วิริยะกุลนันท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เพื่อนำเรื่องส่งต่อให้นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ไปเสนอต่อทางรัฐบาล
ภายหลังจากปีนี้ชาวไร่อ้อยยังไม่มีวี่แววที่ได้รับเงินช่วยเหลือจากการรณรงค์ตัดอ้อยสดจากทางรัฐบาล จำนวน 120 บาทต่อตัน และทางภาครัฐยังไม่มีการนำเรื่องนี้ไปพิจารณาผ่านคณะรัฐมนตรีแต่อย่างใด ทำให้สมาคมชาวไร่อ้อย เกรงว่า หากภาครัฐไม่มีมาตรการช่วยเหลือในส่วนนี้ จะทำให้เกษตรกรหันไปใช้วิธีการเผา เพื่อลดต้นทุนค่าใช้จ่าย และการรณรงค์ให้หยุดเผา ลดฝุ่น PM 2.5 ที่ดำเนินการผ่านมากว่า 3 ปีจะไร้ความหมาย
นายมนตรี วิศณุพรประสิทธิ์ นายกสมาคมชาวไร่อ้อยอีสานใต้ กล่าวว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีในคราวประชุมเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2564 มีมติรับทราบและอนุมัติในหลักการโครงการช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อยเพื่อลดฝุ่น PM 2.5 โดยให้ได้รับการสนับสนุนช่วยเหลือจากรัฐบาล เพื่อลดต้นการตัดอ้อยสดให้กับชาวไร่อ้อยใน 2 ฤดูกาลผลิต คือ ปีการผลิต 2564 / 2565 และปีการผลิต 2565 / 2566 โดยล่าสุด หลังจากสิ้นสุดการหีบอ้อยแล้วในฤดูกาลผลิต พ.ศ.2565 / 2566 จนถึงวันนี้ ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะได้รับเงินช่วยเหลือจากการตัดอ้อยสดจากทางภาครัฐแต่อย่างใด ทั้งที่เกษตรกรได้ปฏิบัติตามนโยบายของทางภาครัฐด้วยการตัดอ้อยสดแล้ว ซึ่งทำให้ต้องแบกภาระต้นทุนที่สูงกว่าการตัดอ้อยไฟไหม้อย่างมาก
จึงอยากฝากทางจังหวัดให้ช่วยทำหนังสือส่งไปถึงรัฐบาล เพื่อให้เร่งพิจารณาให้ความช่วยเหลือในส่วนนี้เร่งด่วน เพราะเกรงว่า มาตรการการลดการตัดอ้อยไฟไหม้ หรือลดการเผาเพื่อลดปัญหา PM 2.5 ตลอดระยะที่ผ่านมา 3 – 4 ปี จะสูญเปล่า และเกษตรกรจะหันกลับไปเผาอ้อยก่อนตัดเหมือเช่นเดิม ดังนั้น กระทรวงอุตสาหกรรม ทั้งในส่วนของปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม รวมไปถึง รัฐมนตรีชุดใหม่ ควรจะเร่งพิจารณาอนุมัติก่อนที่จะสิ้นปีงบประมาณที่จะถึงในวันที่ 30 กันยายนนี้ เพื่อให้เกษตรกรได้นำเงินส่วนนี้ กลับไปใช้ในการลงทุนฤดูกาลใหม่
ทั้งนี้ พื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ฤดูกาลผลิตที่ผ่านมา พ.ศ.2565 / 2566 มีเกษตรกรเข้าร่วมโครงการช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อย ตัดอ้อยสดคุณภาพดี เพื่อลดฝุ่น PM 2.5 รวมกว่า 30,000 ราย มีผลผลิตอ้อยตัดสดรวมกว่า 8.4 ล้านตัน หากคิดเป็นมูลค่าเงินที่จะต้องได้รับการช่วยเหลือจากทางรัฐบาลในโครงการช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อยตัดอ้อยสดคุณภาพดีเพื่อลดฝุ่น PM 2.5 ตันละ 120 บาท จะอยู่ที่ประมาณ 1,000 ล้านบาท
///ประสิทธิ์ ตั้งประเสริฐ / นครราชสีมา