ด่วน นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นั่งหัวโต๊ะถก “ศบค.ชุดใหญ่”เคาะมาตรการควบคุมโอไมครอน เคาะ ยกระดับพื้นที่สีส้ม ทั่วประเทศ 69 จังหวัด-ไม่ล็อกดาวน์ ดื่มแอลกอฮอล์ได้ถึง 3 ทุ่ม สถานศึกษาเปิดได้

วันที่  7 ม.ค. 65 การประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ “ศบค.” ครั้งที่ 1/2565 โดยมีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ในฐานะผอ.ศบค. เป็นประธาน เพื่อพิจารณามาตรการรับมือการระบาดของเชื้อไวรัสโควิดสายพันธุ์โอไมครอน ที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อกำลังพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในหลายจังหวัดหลังผ่านเทศกาลปีใหม่ พบว่าจุดเสี่ยงการระบาดคือร้านอาหารกึ่งผับที่ละเลยมาตรการป้องกันโรค

ทั้งนี้ มีรายงานข่าวจากที่ประชุม”ศบค.” แจ้งว่า เบื้องต้นที่ประชุมมีมติให้ปรับระดับพื้นที่สี เป็นระดับสีส้ม หรือพื้นที่ควบคุมทั่วประเทศ 69 จังหวัด ส่วนพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว หรือพื้นที่สีฟ้า 8 จังหวัด ยังเหมือนเดิม โดยอนุญาตให้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ถึงเวลา 3ทุ่ม 

ในส่วนของสถานศึกษา นั้น ที่ประชุม “ศบค.” ไม่ได้พิจารณาสั่งปิด แต่มีการพิจารณาเพิ่มวันทำงานที่บ้าน Work From Home (WFH) อีก14 วัน โดยไม่ได้มีการล็อกดาวน์แต่อย่างใด ซึ่งรายละเอียดมติ “ศบค.”ทั้งหมดจะมีการแถลงภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม

ขณะที่นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ หรือ หมอมนูญ  หัวหน้าโรคระบบทางเดินหายใจ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก  หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC” อัปเดตสถานการณ์โรคโควิด-19 ระบุว่า ธรรมชาติหาทางช่วยให้ไวรัสโควิด-19 อยู่กับมนุษย์มากที่สุดและนานที่สุด ไม่ให้สูญพันธุ์จากโลกนี้ ด้วยการกลายพันธุ์เกิดไวรัสสายพันธุ์โอไมครอน ลดความรุนแรงลงมาก ไม่ทำให้มนุษย์ป่วยหนักถึงขั้นเสียชีวิต เพื่อให้มนุษย์เป็นพาหะแพร่กระจายเชื้อต่อให้เพื่อนมนุษย์ทุกเผ่าพันธุ์ ผิวดำ ผิวขาว คนเอเซีย ทุกเพศ ทุกวัย แพร่เชื้อได้ง่ายทางการหายใจ และรวดเร็วมากกว่าทุกสายพันธุ์ดั้งเดิม

 

ในที่สุดคนส่วนใหญ่ในโลกไม่ช้าก็เร็วจะติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอไมครอนการติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอไมครอนเปรียบเสมือนการได้รับวัคซีนธรรมชาติอ่อนฤทธิ์ตัวเป็น กระตุ้นภูมิต้านทานได้ดีกว่าวัคซีนทุกชนิดในปัจจุบัน 

ศบค.ชุดใหญ่ ปรับพื้นที่สีส้ม เพิ่ม 30 จังหวัด รวม 69 จังหวัด ส่วน 8 จังหวัดพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยว ดื่มสุราในร้านได้ไม่เกิน 3 ทุ่ม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (7 ม.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค.ครั้งที่ 1/2565 (ผ่านระบบ Video Conference) ที่ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล
โดยที่ประชุมศบค. เห็นชอบปรับระดับพื้นที่สถานการณ์ โดยเพิ่มจังหวัดพื้นที่ควบคุม (สีส้ม) จาก 39 จังหวัด เป็น 69 จังหวัด มีผลตั้งแต่วันที่ 9 ม.ค.65 เป็นต้นไป
โดยจังหวัดที่เพิ่มขึ้นมา ได้แก่ 1.ขอนแก่น 2.จันทบุรี 3.เชียงราย 4.เชียงใหม่ 5.ตราด 6. นครราชสีมา 7.บุรีรัมย์ 8.ประจวบคีรีขันธ์ 9.พระนครศรีอยุธยา 10.เพชรบุรี 11.ระนอง 12.ระยอง 13.เลย 14.สมุทรปราการ 15.สุราษฏร์ธานี 16.สุรินทร์ 17.หนองคาย 18.อุดรธานี 19.กาฬสินธุ์ 20.กำแพงเพชร 21.ฉะเชิงเทรา 22.ชุมพร 23.ชัยนาท 24.ชัยภูมิ 25.ตรัง 26.ตาก 27.นครนายก 28.นครปฐม 29.นครพนม 30.นครศรีธรรมราช 31.นครสวรรค์ 32.นราธิวาส 33.น่าน 34.ปราจีนบุรี 35.ปัตตานี 36.บึงกาฬ 37.พะเยา 38.พัทลุง 39.พิจิตร 40.พิษณุโลก 41.เพชรบูรณ์ 42.แพร่ 43.มหาสารคาม 44.มุกดาหาร 45.แม่ฮ่องสอน 46.ยโสธร 47.ยะลา 48.ร้อยเอ็ด 49.ราชบุรี 50.ลพบุรี 51.ลำปาง 52.ลำพูน 53.ศรีสะเกษ 54.สกลนคร 55.สงขลา 56.สตูล 57.สมุทรสงคราม 58.สมุทรสาคร 59.สระแก้ว 60.สระบุรี 61.สิงห์บุรี 62.สุโขทัย 63.สุพรรณบุรี 64.หนองบัวลำภู 65.อ่างทอง 66.อำนาจเจริญ 67.อุตรดิตถ์ 68.อุทัยธานี และ 69.อุบลราชธานี
ส่วนพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยว 8 จังหวัด (สีฟ้า) ได้แก่ กรุงเทพมหานคร จังหวัดกาญจนบุรี จังหวัดกระบี่จังหวัดชลบุรี จังหวัดนนทบุรี จังหวัดปทุมธานี จังหวัดพังงา จังหวัดภูเก็ต บริโภคสุราในร้านอาหารไม่เกิน 21.00 น. และ ต้องเป็นร้านอาหารที่ผ่าน SHA+ หรือ Thai Stop COVID 2 Plus เท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของสถานศึกษานั้น ที่ประชุม ศบค. ไม่ได้พิจารณาสั่งปิด แต่มีการพิจารณาเพิ่มวันทำงานที่บ้าน Work From Home (WFH) เพิ่มอีก 14 วัน โดยไม่ได้มีการล็อกดาวน์แต่อย่างใด อีกทั้งไม่ห้ามเดินทางข้ามจังหวัด แต่จะขอความร่วมมือในช่วงเวลานี้หากไม่จำเป็น รวมทั้งได้มีการพิจารณาเพิ่มพื้นที่แซนด์บ็อกซ์
ซึ่งรายละเอียดมติ ศบค.ทั้งหมดจะมีการแถลงภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม