‘นพ.ยง’ ยอมรับสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ในไทย งานใหญ่ต้องฉีดวัคซีนวันละ 3 แสนโดส พร้อมแนะวัยทำงานหลังฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกา กินพาราเซตามอล รอได้เลย

18 พฤษภาคม 2564 ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “Yong Poovorawan” มีเนื้อหาดังนี้…
โควิด-19 วัคซีน
ทั่วโลกมีประชากร 7000 ล้านคน ถ้าจะให้วัคซีนให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ขึ้นมาได้ ต้องให้อย่างน้อย 5 พันล้านคนหรือประมาณ 10,000 ล้านโดส
ขณะนี้ทั่วโลกได้รับวัคซีนไปแล้วเกือบ 1,500 ล้านโดส หรือ 15 เปอร์เซ็นต์ของเป้าหมาย ส่วนใหญ่อยู่ในประเทศที่เป็นเจ้าของวัคซีน เช่น จีน อเมริกาและ ยุโรป ถึงแม้ว่าอินเดียจะระดมฉีดวัคซีนกันขนาดใหญ่ก็ยังไล่ไม่ทันการระบาดของโรค
โดยขณะนี้ฉีดวัคซีนทั่วโลกเฉลี่ยวันละไม่ถึง 25 ล้านโดส ถ้าด้วยอัตราขนาดนี้ก็ต้องใช้เวลาไม่น้อยกว่า 1 ปี จึงจะได้เป้าหมายทั่วโลก นอกจากว่ามีอัตราการเร่งผลิต และฉีดให้ได้มากกว่านี้อีก 1 เท่าตัว ก็จะบรรลุเป้าหมายภายในสิ้นปีนี้
สำหรับประเทศไทย ฉีดวัคซีนไปแล้ว 2.26 ล้านโดส โดยมีเป้าหมายอยู่ที่ 100 ล้านโดส หรือได้ประมาณ 2.2 เปอร์เซ็นต์ของเป้าหมาย ที่จะให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่
ในร้อยล้านโดสนี้ เราจะต้องฉีดให้คนไทยประมาณวันละไม่ต่ำกว่า 300,000 โดส จึงจะบรรลุเป้าหมายภายในสิ้นปีนี้
นับเป็นงานใหญ่มากสำหรับประเทศไทย
สิ่งที่ทุกคนจะต้องเข้าใจ โดยเฉพาะการให้วัคซีน AstraZeneca ในคนที่มีอายุน้อย หรือวัยทำงาน โอกาสจะเป็นไข้ ไม่สบายตัว ปวดเมื่อยตัวเหมือนไข้หวัดใหญ่ จะสูงมากกว่าผู้สูงวัย
ที่ผ่านมาเราฉีดวัคซีน AstraZeneca ในผู้สูงวัย เราจึงยังไม่ค่อยเห็นใครบ่นเรื่องไข้หลังฉีดวัคซีน เมื่อฉีดวัคซีนหมู่มากที่กำลังจะมาถึง โดยเฉพาะในวัยทำงานหรือที่อายุ น้อยกว่า 30 ปี หลังฉีดวัคซีน AstraZeneca ให้เตรียมยาพาราเซตามอล ไว้ได้เลย เมื่อฉีดแล้วกลับถึงบ้าน กินเลย ก็ไม่ว่ากัน
จากการศึกษาที่ศูนย์ การให้วัคซีนในกลุ่มอายุน้อย จะมีโอกาสเกิดขึ้นได้มากกว่า และบางคนอาจจะมีบวมแดงบริเวณฉีด ถือเป็นปฏิกิริยาของวัคซีนที่เป็นเรื่องที่พบได้ ไม่ต้องตกใจอาการดังกล่าวจะอยู่ชั่วคราวเท่านั้น โดยทั่วไปอาการไข้จะอยู่ 24 ชั่วโมง และมีน้อยที่จะเป็น 2 วัน และน้อยมากๆที่จะถึง 3 วัน
จากการศึกษาของเราพบว่าผู้ที่มีอายุน้อยและมีปฏิกิริยาต่อวัคซีนมาก จะมีภูมิต้านทานที่สูง
จึงไม่แปลกผู้หญิงมีภูมิต้านทานสูงกว่าผู้ชาย ผู้ที่มีอายุน้อยจะมีภูมิต้านทานสูงกว่าผู้ที่มีอายุมากหรือผู้สูงวัย
ถ้าทุกคนเตรียมตัว ก็จะได้ไม่ตื่นตระหนก ถึงอาการที่เกิดขึ้น นอกจากว่ามีอาการมาก ก็ต้องพบแพทย์