สวนเสือศรีราชาสู้ไม่ไหว หลังหลังเจอพิษ โควิด-19 รอบ 3 ประกาศเลิกกิจการอย่างถาวร หลังเปิดให้บริการ มาอย่างยาวนาน กว่า 24 ปี
โดยคณะผู้บริหารสวนเสือศรีราชา ทำความเข้าใจและชี้แจงการเลิกกิจการสวนเสือศรีราชา โดยที่ผ่านมาสวนเสือศรีราชา เกิดจากคณะผู้บริหารที่มีใจรักในอาชีพปศุสัตว์ ได้มีโอกาสเดินทางไปศึกษาดูงานและเก็บข้อมูลจากสถานที่ต่าง ๆ ในหลายประเทศทั่วโลก จึงได้นำจุดเด่นของแต่ละสถานที่มาพัฒนาปรับใช้กับสวนเสือศรีราชา
สวนเสือศรีราชาเริ่มเลี้ยงเสือโคร่งในปี พ.ศ. 2532 โดยเริ่มต้นได้มาจากสวนสัตว์เชียงใหม่ 2 คู่ และสวนสามพรานอีก 2 คู่ การที่ทางสวนเสือศรีราชาเลือกเพาะเลี้ยงเสือโคร่ง เนื่องจากเสือโคร่งเป็นเสือที่พบมากที่สุดในทวีปเอเชีย และในปัจจุบันเสือโคร่งในธรรมชาติมีจำนวนลดน้อยลง และที่เลือกเสือพันธุ์เบงกอล เพราะเสือพันธุ์นี้มีขนาดลำตัวที่ใหญ่ มีสีเข้มสวยงาม และสามารถอาศัยในภูมิอากาศของประเทศไทยได้
สวนเสือศรีราชาเปิดให้บริการมาตั้งแต่วันที่ 23 เม.ย. พ.ศ. 2540 โดยจัดการดำเนินงานเพื่อที่จะพัฒนาพันธุ์สัตว์ และให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และแหล่งท่องเที่ยวเชิงนันทนาการ ควบคู่ไปกับการให้ความรู้แก่นักท่องเที่ยว
สวนเสือศรีราชา เป็นสวนสัตว์เอกชน ตั้งอยู่ที่ ต.หนองขาม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี บนพื้นที่ 250 ไร่ สวนเสือศรีราชาเป็นที่เพาะเลี้ยงเสือโคร่งเบงกอลที่ใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นสถานที่ฝึกและแสดงความสามารถของสัตว์ อาทิ เสือ จระเข้ ช้าง และหมู นอกจากนี้ภายในยังเลี้ยง อูฐ กวางดาว กระต่าย และสัตว์ชนิดอื่น ๆ
โดยสาเหตุในการประกาศเลิกกิจการอย่างถาวร ได้รับแจ้งว่าเนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจและสถานการณ์ โควิด-19 ซึ่งอย่างไรก็ดีทางคณะผู้บริหารจะออกมาแถลงข่าวอีกครั้ง เพื่อความชัดเจน ในเร็ว ๆ นี้ ขณะที่ประชาชนและนักท่องเที่ยวรู้สึกใจหายหลังทราบข่าวว่า ปิดตำนานกว่า 20 ปี สวนเสือศรีราชาประกาศเลิกกิจการในวันนี้ เนื่องจากเจอวิกฤติ โควิด-19 ไปต่อไม่ไหว