สมาคมผู้ค้าปลีกไทยและสมาคมศูนย์การค้าไทย ประกาศมาตรการ 4 ข้อ รับ “ล็อกดาวน์” 13 จังหวัด “พื้นที่สีแดง” ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด เริ่มพรุ่งนี้ (20 ก.ค. 64)
สมาคมผู้ค้าปลีกไทยและสมาคมศูนย์การค้าไทย ขานรับมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 ของศบค. และปฎิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด เฉพาะในเขตพื้นที่ 13 จังหวัด โดยมีผลบังคับใช้ ตั้งแต่ 20 กรกฎาคม 2564 เป็นต้นไป ดังนี้
1. ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า เปิดบริการได้เฉพาะซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านยา พื้นที่ฉีดวัคซีน หรือบริการทางการแพทย์ของรัฐ จนถึง 20.00 น.
2. ซูเปอร์มาร์เก็ต ไฮเปอร์มาร์ท และแคช แอนด์แครี่ ที่ตั้งนอกศูนย์การค้า เปิดตามปกติ และปิดให้บริการ 20.00 น
3. ร้านสะดวกซื้อและตลาดสด เปิดบริการได้ 04.00 น. ถึง 20.00 น. ของทุกวัน
4. กิจการนอกศูนย์การค้า ดังต่อไปนี้ ร้านขายยา ร้านค้าทั่วไป โรงงาน ธุรกิจหลักทรัพย์ ธุรกรรมการเงิน ธนาคาร ตู้เอทีเอ็ม ธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคม ไปรษณีย์และพัสดุภัณฑ์ ร้านจำหน่ายอาหารสัตว์ ร้านขายยาและเวชภัณฑ์ ร้านจำหน่ายเครื่องมือช่างและอุปกรณ์ก่อสร้าง รวมทั้งบริการส่งสินค้าและอาหารตามสั่ง (Delivery Online) ยังคงเปิดดำเนินการได้ตามความจำเป็น ภายใต้มาตรการคุมโควิด-19 อย่างเคร่งครัด
ทั้งนี้ สมาคมผู้ค้าปลีกไทย และสมาคมศูนย์การค้าไทย ในฐานะตัวแทนของสมาชิกภาคีเครือข่ายผู้ประกอบการค้าปลีกทั่วประเทศ ขอยืนยันว่า ผู้ประกอบการค้าปลีกมีความพร้อมที่จะเสริมการบริการด้วยช่องทางออนไลน์ เพื่อให้ลูกค้าสามารถซื้อสินค้าผ่านช่องทางนี้ได้อย่างสะดวกและง่ายดายทุกที่ทุกเวลา
โดยในส่วนของซูเปอร์มาร์เก็ต และร้านสะดวกซื้อที่ยังคงเปิดให้บริการ เรามีการบริหารการจัดการสต็อกสินค้าอุปโภคบริโภค และสินค้าจำเป็น ที่ใช้ในชีวิตประจำวันสำหรับลูกค้าทุกกลุ่ม เพื่อลดความกังวลเรื่องสินค้ามีไม่เพียงพอ
13 จังหวัดพื้นที่สีแดงเข้ม ประกอบด้วย
กรุงเทพฯ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี นครปฐม นนทบุรี นราธิวาส ปทุมธานี ปัตตานี พระนครศรีอยุธยา ยะลา สงขลา สมุทรปราการ สมุทรสาคร