สธ.พบติดโควิด-19 เพิ่ม 107 ราย รวมผู้ป่วยสะสม 934 ราย รวมหมอติดเชื้อ 2 ราย

กระทรวงสาธารณสุขเผยเคสป่วยโควิด-19 เพิ่ม 107 รายมีบุคลากรทางการแพทย์ 2 ราย ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มสนามมวย-ผับ ส่วนผู้ป่วยรายใหม่พบหลากหลายอาชีพ “พนง.บริษัท-ร้านนวด-แคชเชียร์-ทำงานสนามบิน)

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 25 มี.ค. 2563 ที่ศูนย์แถลงข่าวทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) แถลงข่าวสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทย ว่า วันนี้รับรายงานผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้น 107 ราย รักษาหายกลับบ้าน 70 ราย ยังเป็นผู้ป่วยรักษาในรพ. 860 ราย มีอาการวิกฤต 4 ราย และเสียชีวิต 4 ราย รวมผู้ป่วยสะสม 934 ราย ทั้งนี้ ในส่วนผู้ป่วยอาการหนัก 4 รายยังใส่เครื่องท่อช่วยหายใจ เฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด

สำหรับผู้ป่วยรายใหม่ 107 ราย(25 มี.ค.) แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ดังนี้

กลุ่มที่ 1 ผู้ป่วยที่มีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วย หรือเกี่ยวข้องกับสถานที่ที่พบผู้ป่วยก่อนหน้านี้ 27 ราย

-สนามมวย 4 ราย มีอาชีพขับรถ บขส. รับจ้าง อาศัยอยู่ในพื้นที่กทม. และสมุทรสาคร

-สถานบันเทิง 5 ราย (ทำงานท่องเที่ยว นักร้อง นักดนตรี เจ้าของสถานบันเทิง)

-ผู้สัมผัสกับผู้ป่วยที่มีรายงานก่อนหน้านี้ 14 ราย มีอาชีพรับจ้าง ค้าขาย พนง.บริษัท คนขับแท็กซี่ ตำรวจ ผู้ต้องขังกระจายในพื้นที่จ.เพชรบุรี ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี ชลบุรี ภูเก็ต และกรุงเทพ

-ผู้ร่วมพิธีทางศาสนาที่มาเลเซีย 4 ราย (สงขลา ยะลา)

กลุ่มที่ 2 ผู้ป่วยรายใหม่ 13 ราย

-ผู้ป่วยเดินทางจากต่างประเทศ 6 ราย

-ทำงานในสถานที่แออัด/มีผู้คนจำนวนมาก 5 ราย (พนง.บริษัท พนง.ร้านนวด แคชเชียร์ เจ้าหน้าที่สนามบิน)

-บุคลากรทางการแพทย์ 2 ราย พบว่าเป็นแพทย์พี่เลี้ยงที่ใช้ทุนปีที่ 2 ทำงานรพ.มีอาการเล็กน้อย และยังคงทำงานอยู่ ทั้งผ่าตัด และทานข้าวกับเจ้าหน้าที่ต่างๆ ทำให้มีกลุ่มสัมผัสใกล้ชิดรวม 25 คน (บุคลากรห้องผ่านตัด 15 คน และหมอทำงานใกล้ชิด 10 คน) ทั้งหมดหยุดพักงานและสังเกตอาการที่บ้าน

กลุ่มที่ 3 ผู้ที่ได้รับผลยืนยันทางห้องปฏิบัติการพบเชื้อ แต่อยู่ระหว่างรอประวัติและสอบสวนโรค 67 ราย

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวอีกว่า กระทรวงฯ ได้สั่งการนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด และให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุข อสม.สำรวจผู้เดินทางกลับภูมิลำเนา ให้คำแนะนำการปฏิบัติตัวให้อยู่บ้านอย่างเคร่งครัด 14 วัน และปฏิบัติตามเว้นระยะห่างทางสังคมอย่างเคร่งครัด ประมาณ 1-2 เมตร และสวมหน้ากากอนามัย หรือสวมหน้ากากผ้าสำหรับคนไม่เจ็บไข้ได้ป่วย และชัดเจนว่า กลุ่มที่มีงานเลี้ยงสังสรรค์ กลุ่มพบปะกันยังคงมีอยู่จนทำให้มีคนติดเชื้อเรื่อยๆ

“ดังนั้น ขอให้งดการพบปะสังสรรค์ โดยเฉพาะผู้สูงอายุ เด็กเล็ก ผู้ที่มีโรคประจำตัวต้องระวังตัวมาก เพราะหากติดเชื้อแล้ว เป็นแล้วเป็นหนัก ดังนั้น กลุ่มนี้ควรงดออกจากบ้านเลย ส่วนกลุ่มที่ออกไปทำงานมีโอกาสรับเชื้อจากนอกบ้าน เมื่อกลับถึงบ้านให้เว้นระยะห่างกับครอบครัวด้วย และหากป่วยมีไข้ มีอาการระบบทางเดินหายใจให้รีบพบแพทย์ทันที และขอให้แจ้งประวัติกับผู้ป่วย อย่างปกปิด โดยมีแพทย์ท่านหนึ่งรับเชื้อจากคนไข้ เพราะคนไข้มาบอกประวัติทีหลัง เนื่องจากบอกว่าเพิ่งทราบว่าสามีเดินทางไปสนามมวย สิ่งสำคัญขออย่าให้มีการปกปิด หากทราบประวัติขอให้แจ้ง เพราะหากบุคลากรติดเชื้อก็จะส่งผลต่อการบริการ ต่อระบบบริการสาธารณสุขเป็นอย่างมาก” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว