“สุวัจน์ฯ” นำศูนย์คนโคราชรักจริงไม่ทิ้งกันและพรรคชาติพัฒนา เดินหน้าโครงการ“อาสาสมัครสู้ภัยโควิด-19”
เปิดสายตรงรับฟัง แนะนำทุกปัญหา 24 ชม.จัดหน่วยเคลื่อนที่เร็วลงพื้นที่แก้ปัญหาด่วนในชุมชน
สุวัจน์ฯ นำศูนย์คนโคราชรักจริงไม่ทิ้งกันและพรรคชาติพัฒนา เดินหน้าโครงการ“อาสาสมัครสู้ภัยโควิด-19”
เปิดสายตรงรับฟังแนะนำทุกปัญหา 24 ชม.จัดหน่วยเคลื่อนที่เร็วลงพื้นที่แก้ปัญหาด่วนในชุมชน พร้อมมอบอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้ รพ. กับถุงน้ำใจ ช่วยชาวโคราช 2 หมู่บ้านเขตเมือง ที่ถูกกักตัว
วันนี้ (12 พฤษภาคม 2564) ที่ทำการศูนย์คนโคราชรักจริงไม่ทิ้งกัน เลขที่ 222/2 ถ.มิตรภาพ ต.ในเมือง อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดโครงการ “อาสาสมัครสู้ภัยโควิด-19” ซึ่งเป็นโครงการที่ศูนย์คนโคราชรักจริงไม่ทิ้งกัน และพรรคชาติพัฒนา ได้ร่วมกันจัดขึ้นมอบวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้กับหน่วยงานและสถานพยาบาลต่างๆในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา อาทิ มอบชุด PPE ให้แก่ รพ.มหาราชนครราชสีมา รพ.เทพรัตน์ รพ.ค่ายสุรนารี รพ.มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี และมอบชุด PPE กับ เฟสชิลด์ ให้แก่ รพ.สูงเนิน รวมถึงมอบเงินให้ นายกิตติพล กิรัมย์ เจ้าของวงดนตรีมโหรีทานตะวัน บ้านดงใหญ่ อ.พิมาย ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด19 อย่างหนัก จนต้องนำเครื่องมือหากินออกมาขาย เพื่อนำเงินไปช่วยครอบครัวและลูกวง
จากนั้น นายสุวัจน์
ได้เดินทางไปมอบ ดิจิทัล เทอร์โมมิเตอร์ ให้กับศูนย์บริการสาธารณสุข , ส่วนส่งเสริมสาธารณสุข และกองสวัสดิการสังคม เทศบาลนครนครราชสีมา กับมอบชุด PPE และเฟสชิลด์ ให้แก่มูลนิธิหลักเสียงเซี่ยงตึ๊ง สว่างเมตตาธรรมสถาน และมูลนิธิพุทธธรรม ฮุก 31 นครราชสีมา ก่อนจะเดินทางไปมอบถุงน้ำใจและหน้ากากอนามัยให้กับผู้ที่ถูกกักตัว และได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19 จำนวน 29 ครอบครัว ในหมู่บ้านหนองหญ้างาม ต.หนองกระทุ่ม อ.เมืองนครราชสีมา และ 11 ครอบครัวในหมู่บ้านโนนไม้แดง ต.สุรนารี อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา
นายสุวัจน์ ให้สัมภาษณ์ว่า รพ.ต่างๆในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ยังขาดแคลนอุปกรณ์ทางการแพทย์อีกหลายอย่าง ในวันนี้ ศูนย์คนโคราชรักจริงไม่ทิ้งกัน และพรรคชาติพัฒนาจึงได้จัดโครงการ “อาสาสมัครสู้ภัยโควิด-19” ขึ้น พร้อมกับนำอุปกรณ์ทางการแพทย์ มอบให้กับ รพ.ต่างๆในพื้นที่ ทั้งชุด PPE ประมาณ 220 ชุด , เครื่องวัดอุณหภูมิแบบดิจิทัล ประมาณ 20 เครื่อง , หน้ากากผ้า ประมาณ 2 หมื่นชุด ,น้ำยาฉีดพ่นฆ่าเชื้อไวรัส ตลอดจน อาหารและถุงน้ำใจ เตรียมไปมอบให้กับผู้ที่ถูกกักตัว ประมาณ 200 กว่าคน ใน ต.หนองกระทุ่ม และ ต.สุรนารี อ.เมืองนครราชสีมา เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อน และนำความห่วงใย ส่งกำลังใจมามอบให้คนโคราชด้วยกัน
“ศูนย์คนโคราชรักจริงไม่ทิ้งกัน เป็นความร่วมมือจากทุกฝ่าย พี่น้องประชาชน หอการค้า สภาอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัย กลุ่มผู้นำท้องถิ่น และพรรคชาติพัฒนา จึงเกิดการตั้งกลุ่ม ศูนย์คนโคราชรักจริงไม่ทิ้งกัน และได้ช่วยพี่น้องประชาชนมาโดยตลอด ในระยะเริ่มต้นแจกหน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ ฉีดพ่นฆ่าไวรัสในสถานที่สำคัญต่างๆ จัดอาหารจากครัวหลวงพ่อ ช่วยเหลือพี่น้องประชาชนมาโดยตลอด ต่อมาช่วงโควิดระลอกสอง เราได้ดำเนินการหน่วยเคลื่อนที่เร็วเป็นรถ Food Truck
แต่มาครั้งนี้การแพร่ระบาดระลอก 3 หนักที่สุด มีผลกระทบเป็นวงกว้าง ตัวเลขของผู้ติดเชื้อโคราช ขณะนี้ 700 กว่า และเสียชีวิต 5 ราย และยังมีผู้ประกอบการที่เสียหายที่ต้องหยุดกิจการก็เลยคิดว่าเราต้องมีการจัดตั้ง “อาสาสมัครกู้ภัยโควิด” ซึ่งก็ได้ท่านประธานสภาอุตสาหกรรม ประธานมูลนิธิหลักเสียงเซี่ยงติ๊ง และมูลนิธิฮุก 31 และก็มี สท. สจ. มีรองอธิการบดี มหาวิทยาลัยต่างๆ มาร่วมกันประมาณ 50 คน เป็นอาสาสมัคร ทุกคนก็จะมีเวรประจำ ซึ่งอาสาสมัครเหล่านี้จะร่วมกันทำงาน ในการที่จะให้ความรู้ ความเข้าใจ ในยามที่พี่น้องประชาชนมีความเดือนร้อน มีประสบภัยเรื่องโควิด เช่น หาโรงพยาบาลไม่ได้ หรืออยากจะตรวจโควิด หรืออยากลงทะเบียน หมอพร้อม จะต้องทำอย่างไร
…วันนี้ ศูนย์คนโคราชรักจริงไม่ทิ้งกัน ก็เลยมีการจัดตั้งอาสาสมัครเพื่อให้บริการพี่น้องประชาชน ในการที่จะประสานงานและช่วยเหลือ ผู้ประสบภัยโควิด และประสานงานในการลงทะเบียนในเรื่องหมอพร้อม เพื่ออำนวยความสะดวก เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้เข้าถึงวัคซีนได้ และเรายังมีหน่วยบริการเคลื่อนที่เป็นรถตู้ รถปิกอัพ 5 – 6 คัน ออกให้บริการประสานงานในการให้ความช่วยเหลือ และประสานงานในการลงทะเบียนหมอพร้อม ทั่วจังหวัดนครราชสีมา เพื่อคนไทยทุกคนจะต้องได้รับการฉีดวัคซีน เพราะวัคซีนเป็นทางออกของโควิด” นายสุวัจน์ กล่าวและย้ำว่า
ด้านเศรษฐกิจ ปากท้องความเป็นอยู่เราก็ต้องดูแล อย่างกรณี นายกิตติพล กิรัมย์ เจ้าของวงดนตรีมโหรีทานตะวัน บ้านดงใหญ่ อ.พิมาย ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด19 อย่างหนัก จนต้องนำเครื่องมือหากินออกมาขาย เพื่อนำเงินไปช่วยครอบครัวและลูกวงดนรี ความเดือดร้อนอย่างนี้ เราก็ต้องลงมาช่วยเหลือ วันนี้ทางศูนย์ฯ ได้มอบเงินให้ไปซื้อเครื่องมือทำมาหากินกลับมา เมื่อโควิดจบหรือสถานการณ์การแพร่ระบาดดีขึ้นจะได้มาประกอบอาชีพเหมือนเดิม
“ขอเป็นให้กำลังใจพี่น้องประชาชนคนไทยทุกคน การ์ดอย่าตก สวมหน้ากาก ล้างมือ รักษาระยะห่าง อยู่บ้าน ฉีดวัคซีน เราจะฝ่าวิกฤตโควิดไปด้วยกัน” นายสุวัจน์ กล่าว