“สุวัจน์”เร่งสร้างโอกาส ไทยเที่ยวไทย วันนี้ กระจายทุกภาค เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจสู้โควิด
เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2563 เวลา 14.00 น.โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล ภูเก็ต รีสอร์ท
นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ร่วมเปิดงาน “Unseen Kamala presents Disaya Vacationist”และพิธีรับมอบป้ายสัญลักษณ์ SHA ร่วมกับ นายธเนศวร์ เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย นายพสุ ลิปตพัลลภ กรรมการบริหารกลุ่มบริษัทพราว ผู้บริหารโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล ภูเก็ตรีสอร์ท ผู้ได้รับป้ายสัญลักษณ์ SHA นายดนัย สรไกรกิติกูล กรรมการผู้จัดการกลุ่มบริษัท ALIST ผู้นำเข้าและจัดจำหน่าย Leica Camera Thailand นางดิษยา สรไกรกิติกูล ครีเอทีฟไดเร็กเตอร์แบรนด์ DISAYA Vacationist นายภูริต ภิรมย์ภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด กลุ่มธุรกิจเอกชนที่จับมือกันจัดกิจกรรมกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวภูเก็ต
นายสุวัจน์ สะท้อนมุมมองการท่องเที่ยวภูเก็ต ว่า ได้รับผลกระทบจากโควิด เหมือนกับแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ ทำให้นักท่องเที่ยวน้อยลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ และแหล่งท่องเที่ยวไหนที่คนไทยคุ้นเคยก็พอเอาตัวรอด เช่น ตอนนี้มีนโยบาย “เราเที่ยวด้วยกัน” คนไทยก็คุ้นแหล่งท่องเที่ยวนั้น ก็ยังประทังยังไม่จมน้ำตาย แต่แหล่งท่องเที่ยวไหนที่ คนไทยไม่คุ้นและก็พึ่งพานักท่องเที่ยวจากต่างประเทศอย่างเดียวจะลำบาก ยกตัวอย่างภูเก็ต ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับอินเตอร์ และโครงสร้างอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวถูกออกแบบเอาไว้เพื่อรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ ซึ่งปีหนึ่งต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างประเทศ 15 ล้านคน ฉะนั้น หากเมืองๆหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นภูเก็ต หรือเมืองใดในโลกนี้ที่ปีหนึ่งมีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวกว่า 10 ล้านคน แสดงถึงศักยภาพของเมืองของการเป็นสากลและความเป็นไทยพอเรามีผลกระทบจากการท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวต่างประเทศเดินทางมาไม่ได้ ภูเก็ตซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยว เป็นจังหวัดที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด เพราะถูกออกแบบเอาไว้ มีโรงแรมที่มีจำนวนมาก มีสนามบินขนาดรันเวย์ มาตรฐาน 3 กม. มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบ ซึ่งขณะนี้เราต้องยอมรับกันว่าภูเก็ตได้รับผลกระทบมาก เพราะพึ่งนักท่องเที่ยวต่างประเทศ
เพราะฉะนั้น เราจะแก้ไขปัญหากันอย่างไร จริงๆ แล้วมันเป็นเรื่องที่เกือบๆ ทุกประเทศทั่วโลก ก็กังวลเรื่องโควิด ดังนั้น ตราบใดที่เรื่องโควิด ยังไม่คลี่คลายไปสู่สถานการณ์ที่ไว้วางใจได้ ผมก็ว่าจะมีผลกระทบอย่างนี้ต่อไป
สมมุติว่า เราเปิดให้นักท่องเที่ยวต่างประเทศเข้ามา ต้องเข้า State Quarantine 14 วัน นักท่องเที่ยวบอกผมมาเที่ยว 7 วัน แต่ผมมาเจอ State Quarantine กลายเป็น 21 วัน แต่ที่ได้เที่ยวจริงๆ 7 วัน แล้ว State Quarantine 14 วัน ใครจะรับผิดชอบ เรื่องค่าใช้จ่าย ถึงแม้ว่าจะเปิดให้เข้ามา แต่ก็มี State Quarantine มีค่าใช้จ่ายอยู่ มีระยะเวลาในการพำนัก ยาวพอสมควร ก็เหมือนอุตหสากรรมการท่องเที่ยวยังไม่เปิด นายสุวัจน์ บอกว่าโดยภาพรวมหากเรายังไม่ปรับโครงสร้างของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวภายในประเทศ ถ้ายังไม่ปรับ เรายังต้องพึ่งนักท่องเที่ยวต่างประเทศ สถานการณ์การท่องเที่ยวก็ขึ้นกับ สถานการณ์โควิด โดยตรง ถ้าโควิด คลี่คลายเมื่อไร เช่นมีการติดเชื้อน้อยลง มีการเจอวัคซีน หรือมีการเจอยา ตอนนั้นการท่องเที่ยวก็จะกลับมา กับอัตราเร่ง 5 % เพราะก่อนเกิดโควิด เราเป็นประเทศท่องเที่ยว Top Ten ของโลก และภูเก็ตมี Market Share สูงมาก และก็ Rate of Road อัตราการเติบโตของการท่องเที่ยวประเทศไทยสูงมาก อุตสาหกรรมส่งออก การลงทุนต่างๆ ถึงแม้ว่า จะไม่โต ในช่วงก่อนเกิดโควิด แต่มีเรื่องหนึ่งที่โต คืออุตสาหกรรมการท่องเที่ยว แล้วถ้าเกิดโควิดจบ แต่บังเอิญ ในช่วงที่มีเกิดโควิด เรามีอัตลักษณ์ในระบบการการจัดการกับโควิดได้ ก็เลยเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ นักท่องเที่ยวทั่วโลกให้คะแนนโหวตกับประเทศไทย นักท่องเที่ยวทั่วโลกก็จะแสวงหาว่าไปที่ไหนแล้วปลอดภัย
“ผมเชื่อว่าเมื่อโควิดจบลงแล้วนักท่องเที่ยวโลกเดินทางได้เหมือนเดิม เมืองไทยก็จะได้อานิสงค์ อุตสาหกรรมท่องเที่ยวจะกลับมาเติบโต เพียงแต่ช่วงนี้เราจะทำยังไรไม่ให้เราจมน้ำตาย ขณะที่นักท่องเที่ยวไม่เข้ามา
“ผมคิดว่าอันเดียวที่จะอยู่ได้ ก็คือ Made in Thailand , ไทยเที่ยวไทย , ไทยช่วยไทย ซึ่งเราต้องช่วยกันรณรงค์ ให้คนไทยได้รู้จักแหล่งท่องเที่ยว ภายในประเทศให้มากขึ้น อย่างเช่น มาตรการ “เราเที่ยวด้วยกัน” ถือว่าเดินมาถูกทาง เพียงแต่ว่า วิธีการ รายละเอียด ทำยังไรให้เกิดการอำนวยความสะดวกให้มากขึ้น เราต้องประชาสัมพันธ์ ให้นักท่องเที่ยวคนไทยได้รู้จักแหล่งท่องเที่ยวภายในประเทศ ให้มากขึ้น ยกตัวอย่าง ถ้าพูดถึงภูเก็ต ส่วนใหญ่ มองว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ เป็นแหล่งท่องเที่ยวอินเตอร์ ภูเก็ตอาจจะมีอัตราค่าพักแพง สรุปว่าที่นี้ ไม่ใช่ที่เที่ยวของคนไทย ที่เที่ยวของคนไทยก็อาจจะเป็น พัทยา บางแสน หัวหิน แต่พอพูด ภูเก็ต ด้วยปัจจัยดังกล่าว เพราะต่างประเทศมาเที่ยวที่พักมีราคาสูง ดังนั้นไม่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวคนไทย แต่ช่วงนี้เราไม่สามารถคาดการณ์ว่าจะจบเมื่อไร ฉะนั้น ผมคิดว่าเที่ยวนี้ เราต้องใช้วิกฤตตรงนี้มาปรับฐาน แทนที่จะมองว่า ภูเก็ต เป็นแหล่งท่องเที่ยวของคนต่างชาติ ถือโอกาสนี้ประชาสัมพันธ์ให้คนไทย ว่า Made in Thailand ช่วงนี้เรามาช่วยกันสร้างความยั่งยืนให้กับ ภูเก็ต อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวโปรโมทให้คนไทยรู้จักภูเก็ตมากขึ้น รู้จักเมือง สถานที่ แหล่งท่องเที่ยว วัฒนธรรม อาหาร วิถีชีวิต หาดต่างๆ รู้จักวนอุทยานต่างๆ
“ผมว่าเราเอาวิกฤตมาเป็นโอกาส คือ ขณะนี้มองแค่ว่าให้คนไทยได้มาเที่ยว เพื่อรอโควิดจบ มาคิดใหม่เลยว่าที่นี้ เป็นเมืองท่องเที่ยวของคนไทยด้วย จากที่ได้มีการร่วมมือกันวันนี้ 5 เอกชน การท่องเที่ยว ก็ร่วมกัน เช่น การท่องเที่ยวมามอบ SHA บอกว่าโรงแรมแห่งนี้ มีมาตรฐานสุขอนามัย มีมาตรฐานในด้านบริการที่นักท่องเที่ยวไม่ต้องห่วงเรื่องของโควิด ขณะเดียวกันก็มี เอกชนอย่าง บริษัท กล้อง ถ่ายรูป ก็เชิญ เซเลป มาร่วมงาน และใช้กล้องถ่ายรูปตะเวณ ถ่ายภาพสวยๆ ของหาดกมลา แล้วก็ผ่านไปยังสื่อโซเซียล
ขณะเดียวกันก็มีบริษัทดีไซน์เนอร์ ชื่อดังของคนไทยแบรนด์ DISAYA นำผ้าบาติก ผ้าพื้นเมืองของหาดกมลามาตัดเย็บ ด้วยมาตรฐานของต่างประเทศมาให้คนไทยได้เห็นสินค้าโอทอป และจัดเดินแบบแฟชั่นโชว์ หรือการจัดงานของศิลปะ วัฒนธรรม บันเทิงต่างๆ ที่ทางบริษัทเอกชนมาร่วมกับโรงแรมเป็นเหมือนการมาผนึกกำลัง เพื่อไม่ให้จมน้ำตาย แต่ขณะเดียวกันที่ไม่จมน้ำตายก็เปลี่ยนวิกฤตเป็นโอกาสเปลี่ยนฐานการท่องเที่ยวภูเก็ต เหมือนโควิดจบ ภูเก็ตไม่ใช่แต่เป็นแหล่งท่องเที่ยวของชาวต่างประเทศ แต่จะเป็นแหล่งท่องเที่ยวของคนไทย และก็เอาโมเดล ภูเก็ต นี้ ขยายไปแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ ที่คนไทยยังไม่รู้จัก เพื่อส่งเสริมในเรื่องของ “Made in Thailand” หรือว่า “ไทยเที่ยวไทย” มีอีกหลายจุด หลายอำเภอ ที่มีความสวยงามมาก ซึ่งตอนนี้ผมว่าต้องฝ่าวิกฤตนี้ไปให้ได้ และผมเชื่อว่ายังเป็นความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจของประเทศไทย และเมื่อโควิดจบ แล้ว อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจะกลับมาเติบโต ด้วยความรวดเร็ว เป็นอันดับหนึ่งเลย
“วันนี้ ไทยต้องเที่ยวไทย คน 65 ล้านคนต้องออกมาช่วยกัน ต้องประชาสัมพันธ์ให้คนไทยรู้จักแหล่งท่องเที่ยวภายในประเทศ เงินที่กระตุ้นสองหมื่นสามหมื่นล้าน ตอนนี้ยังใช้ไม่ถึงหมื่นเลย เพราะยังใช้ไม่ครบก็ต้องไปดูสาเหตุว่าทำไมยังใช้ไม่ครบ เพราะอะไร การเข้าถึงยากใช่ไหม ระเบียบกฎต่างๆ มีมากมายใช่ไหม การประชาสัมพันธ์ การแนะนำแหลังท่องเที่ยวหลายๆ อย่าง ต้องทำให้ครบวงจร
“ผมอยากจะบอกว่า ประชาชนคนไทยอยากเที่ยวที่ไหน เที่ยวเลย จะไปโคราช หัวหิน ภูเก็ต บางแสน ไปเชียงใหม่ ไปได้หมด คือ ตอนนี้ต้องช่วยกัน คืนความสุข บริษัท เอกชน ก็ต้องส่งเสริม ทำงานแบบ Work From Home ออกไปเที่ยวแล้วทำงานด้วยเพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว” นายสุวัจน์ กล่าว
นายธเนศวร์ เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าววว่า ความปลอดภัยด้านสาธารณสุขเป็นอีกปัจจัยหนึ่ง ที่นักท่องเที่ยวไทยใช้ตัดสินใจในการเดินทางออกท่องเที่ยว โดยเฉพาะการท่องเที่ยวแบบทางไกล หรือใช้บริการระบบขนสนมวลชน ดังนั้น การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยเล็งเห็นความสำคัญในการสร้างความเชื่อมั่นให้กับการท่องเที่ยวของไทย โดยได้จัดทำโครงการ Amazing Thailand Safety and Health Administration (SHA) ซึ่งเป็นโครงการที่ร่วมมือกันระหว่างกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท. และกระทรวงสาธารณสุข
ทั้งนี้ SHA จะเป็นมาตรฐานและคุณภาพที่ช่วยเข้ามาสร้างความมั่นใจ ความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยว เพื่อให้นักท่องเที่ยวสามารถกลับมาเที่ยวได้อย่างมั่นใจ ในโอกาสนี้ถือเป็นเรื่องน่ายินดีอย่างยิ่งที่โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล ภูเก็ต รีสอร์ท ผ่านเกณฑ์ได้รับตราสัญลักษณ์ SHA เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ด้าน นายพสุ ลิปตพัลลภ กรรมการบริหาร กลุ่มบริษัท พราว ผู้บริหารโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล ภูเก็ต รีสอร์ท กล่าวว่า “ในช่วงขณะที่นักท่องเที่ยวต่างชาติซึ่งเป็นตลาดหลักของการท่องเที่ยวภูเก็ตยังไม่สามารถเข้าประเทศไทยได้ จึงทำให้โรงแรมฯเสียรายได้ไปค่อนข้างมาก ดังนั้น นักท่องเที่ยวชาวไทยจึงเป็นเป้าหมายใหม่ของโรงแรมฯ โดยเน้นไปที่กลุ่ม “นักท่องเที่ยวคุณภาพ” ซึ่งนิยมเดินทางท่องเที่ยวพักผ่อนในต่างประเทศ โดยความท้าทายของการทำกลยุทธ์ของกลุ่มนักท่องเที่ยวดังกล่าวอยู่ที่การปรับความคิดให้กลุ่มเป้าหมายรับรู้ว่าท่องเที่ยวภูเก็ต ก็ได้รับประสบการณ์การท่องเที่ยวและบริการได้เทียบเท่ากับการไปต่างประเทศ โดยเฉพาะในช่วงหลังโควิดที่ธรรมชาติได้ฟื้นฟู คุณจะได้พบความงามของธรรมชาติของทะเลกมลาในแบบอันซีนที่ไม่เคยเห็นมาก่อน
นอกจาก ชมความสวยงามของธรรมชาติแล้ว ภูเก็ตยังเป็นเมืองแห่งไลฟ์สไตล์ ที่มีกิจกรรมอื่นให้คุณได้สัมผัสอีกมากมาย ทั้งวัฒนธรรม วิถีชีวิตชุมชน อาหาร สถาปัตยกรรมและกีฬาทางน้ำ “ภูเก็ตเป็นเมืองที่ขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งรวมเดสติเนชั่นของโรงแรมชั้นนำในเอเชียและเป็นที่นิยมมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล ภูเก็ต รีสอร์ท ได้รับตราสัญลักษณ์ SHA ซึ่งเป็นเครื่องหมายรับรองมาตราฐานความสะอาดและปลอดภัยด้านสุขอนามัยสำหรับผู้ประกอบการด้านธุรกิจท่องเที่ยวสร้างความมั่นใจให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวและพักผ่อนที่โรงแรมฯ ได้อย่างปลอดภัย” นายพสุ กล่าวและย้ำว่า
งาน “Unseen Kamala presents Disaya Vacationist” โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล ภูเก็ต รีสอร์ท เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คแห่งไลฟ์สไตล์เดสติเนชั่นของภูเก็ต ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของทริป เปิดโรงแรมฯ ต้อนรับเหล่าอินฟลูเอนเซอร์ที่ร่วมแคมเปญฯ เข้ามาพักผ่อนและเก็บภาพสถาปัตยกรรมของโรงแรมฯ อันเป็นเอกลักษณ์โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมไทยที่กลมกลืนไปกับธรรมชาติรอบข้างแบบ “Beach Resort” ภายใต้แนวคิด “Heaven on earth” เรื่องราวอันเป็นเอกลักษณ์ที่ได้แรงบันดาลใจจากจิตรกรรมบนฝาผนังอุโบสถ โดยเฉพาะ “อาคารสวรรค์” ซึ่งอยู่ที่ฝั่ง Hill ของโรงแรม และสถานที่ตั้งของโรงแรมฯ ซึ่งอยู่บนหาดกมลา หาดที่มีความเป็นส่วนตัว สงบ และยังไม่เป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวคนไทยมากนัก จึงเหมาะสำหรับประสบการณ์แบบอันซีน
นอกจากนี้ โรงแรมฯยังมีมุมถ่ายรูปที่สวยงาม เช่น Infinity Pool, หรือช่วงพระอาทิตย์ตกดินริมหาดกมลาที่ Pine Bar, อุโมงค์ลอดใต้ดินที่เพนท์ภาพวิถีชีวิตของเมืองภูเก็ต, เมนูอาหารไทยที่มีรูปลักษณ์ร่วมสมัยแปลกตาแต่ยังคงรสชาติแบบดั้งเดิมและใช้วัตถุดิบอย่างดี