วันที่ 22 ส.ค.2565 นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน เผยว่าทางคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.)ได้พิจารณาขยายแนวทางช่วยเหลือกลุ่มผู้ใช้ไฟฟ้าที่ใช้ไฟฟ้าระหว่าง 301-500 หน่วยต่อเดือน ซึ่งเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากการเพิ่มขึ้นของราคาไฟฟ้าซึ่งเป็นสาธารณูปโภคพื้นฐาน โดยการให้ส่วนลดจากการเพิ่มขึ้นของค่าไฟฟ้าผันแปร (เอฟที) เดือนก.ย.-ธ.ค.2565 แบบขั้นบันไดในอัตรา 15-75% เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและช่วยลดภาระค่าครองชีพของผู้ใช้ไฟฟ้า
ทั้งนี้ ถือว่าเป็นการเพิ่มเติมจากปัจจุบันได้มีการช่วยเหลือค่าไฟฟ้าในกลุ่มผู้ใช้ไฟฟ้าบ้านอยู่อาศัยที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือน ซึ่งเป็นกลุ่มเปราะบางที่ได้รับผลกระทบจากการเพิ่มขึ้นของราคาไฟฟ้าได้รับส่วนลดค่าไฟฟ้า 92.04 สตางค์ต่อหน่วย เป็นเวลา 4 เดือน ตั้งแต่เดือนก.ย.-ธ.ค.2565 ประกอบด้วยส่วนลดจากการเพิ่มขึ้นของค่าเอฟทีเดือนพ.ค.-ส.ค.2565 จำนวน 23.38 สตางค์ต่อหน่วย และส่วนลดจากการเพิ่มขึ้นของค่าเอฟทีเดือนก.ย.-ธ.ค.2565 จำนวน 68.66 สตางค์ต่อหน่วย
มาตรการช่วยเหลือกลุ่ม 1 และ 2 ซึ่งเป็นผู้ใช้ไฟฟ้าในพื้นที่ของ กฟน. และ กฟภ. จะครอบคลุมผู้ใช้ไฟฟ้าประมาณ 80% ของผู้ใช้ไฟฟ้าทั่วประเทศ หรือคิดเป็น 89% ของผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัย และจะครอบคลุมบ้านที่อยู่อาศัยที่เป็นผู้ใช้ไฟฟ้ารายย่อยของ กฟผ. และผู้ใช้ไฟฟ้าของกิจการไฟฟ้าสวัสดิการสัมปทานกองทัพเรือ ซึ่งคาดว่าจะต้องใช้งบประมาณรวม 2,000 ล้านบาทต่อเดือน หรือประมาณ 8,000 ล้านบาท สำหรับ 4 เดือน
โดยจะนำเสนอเรื่องการขอใช้งบกลางของปีงบประมาณ 2565 ให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) พิจารณาเห็นชอบภายในเดือนส.ค.นี้ ส่วนที่เหลือจะขอใช้เงินจากงบประมาณประจำปี 2566 ตั้งแต่เดือนต.ค.เป็นต้นไป
ทั้งนี้ เนื่องจากราคาแอลพีจียังคงอยู่ในระดับสูง กบง.ยังมีมติขยายระยะเวลามาตรการบรรเทาผลกระทบด้านราคาก๊าซปิโตรเลียมเหลว หรือก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) ที่ให้ส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้มแก่ผู้มีรายได้น้อย ผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (โครงการฯ) จาก 45 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน เพิ่มขึ้นอีก 55 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน เป็น 100 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน ออกไปอีก 3 เดือน เริ่มประมาณกลางเดือนต.ค.-ธ.ค.2565 จากเดิมสิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย.2565
โดยมอบหมายให้กรมธุรกิจพลังงานนำเรื่องเสนอต่อคณะรัฐมนตรี(ครม.) เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบในหลักการเกี่ยวกับการขยายระยะเวลาโครงการและจัดทำคำขอรับงบประมาณเพื่อใช้สำหรับดำเนินโครงการเสนอสำนักงบประมาณตามขั้นตอนต่อไป อย่างไรก็ตาม จากการติดตามความคืบหน้าของโครงการบรรเทาผลกระทบด้านราคาก๊าซหุงต้ม พบว่าตั้งแต่เดือนก.ค.-14 ส.ค.2565 มีผู้ใช้สิทธิ์ 3,741,994 ราย
นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่าสำหรับความคืบหน้าการออกพระราชกำหนด(พรก.) ให้กระทรวงการคลังค้ำประกันการชำระหนี้ของสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. …. และการกู้ยืมเงินของสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง(สกนช.) กรอบวงเงิน 1.5 แสนล้านบาทนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณารายละเอียด
การออกพรก. ค้ำประกันให้กองทุนกู้เงิน เพื่อสร้างความมั่นใจให้สถาบันการเงินปล่อยกู้มาเสริมสภาพคล่องของกองทุน ซึ่งไม่ได้กู้ครั้งเดียวทั้งหมด 1.5 แสนล้านบาท ซึ่งช่วงนี้สถานการณ์ราคาดีเซลที่ปรับตัวลดลงบางช่วง ช่วยลดการชดเชยของกองทุนและยังสามารถเก็บเงินเข้ากองทุนได้ จากที่เคยอุดหนุนสูงถึงวันละ 12 บาทต่อลิตร
นายวิศักดิ์ วัฒนศัพท์ ผู้อำนวยการ สกนช. กล่าวว่าคณะอนุกรรมการบริหารสภาพคล่องเงินกองทุนที่รองปลัดกระทรวงการคลังเป็นประธาน มีกำหนดการพิจารณาในวันที่ 5 ก.ย.นี้ เบื้องต้นกองทุนจะกู้เงินก้อนแรกวงเงิน 30,000 ล้านบาทตามความเหมาะสมก่อน แบ่งเป็นการกู้ผ่านพระราชบัญญัติกองทุน 20,000 ล้านบาท และผ่านพระราชกฤษฎีกาวงเงิน 10,000 ล้านบาท
ขณะนี้เตรียมทำหนังสือแจ้งไปยังธนาคารออมสินและธนาคารกรุงไทย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้สถาบันการเงินว่ากองทุนมีกระทรวงการคลังค้ำประกัน แต่จะกู้ธนาคารใด วงเงินเท่าไหร่ ยังอยู่ระหว่างพิจารณา ส่วนการชำระหนี้ทั้งหมดจะอยู่ในความรับผิดชอบของกองทุนอยู่แล้ว ไม่ใช่หน้าที่ของกระทรวงการคลัง