หลังมีผู้เผยแพร่เอกสารจากกรมป่าไม้ ที่ “ทร.”ขอใช้พื้นที่ป่าสงวน4,600ไร่ เพื่อวัตถุประสงค์ทางการทหาร มีผู้วิจารณ์ที่เข้าขั้นเสี่ยงความมั่นคงของชาติ

พล.ร.ท.ประชาชาติ ศิริสวัสดิ์ โฆษกกองทัพเรือ ชี้แจงต่อกรณีที่มีผู้เผยแพร่เอกสารของกองทัพเรือที่เสนอขอเข้าใช้ฟื้นที่ของกรมป่าไม้ ซึ่งเป็นเขตป่าสงวน ที่จ.ระยอง รวม 4,600 ไร่ แบ่งเป็นพื้นที่เขาโกรกตะแบก เนื้อที่ประมาณ 2,000ไร่ และบริเวณเขาเนิกกระปรอก เนื้อที่ประมาณ 2,600 ไร่ ว่า หนังสือที่ถูกเผยแพร่ดังนั้นเป็นเพียงการขอต่ออายุการเข้าใช้ประโยชน์พื้นที่ที่จะหมดอายุซึ่งเคยเป็นพื้นที่ที่รัฐบาลให้ความเห็นชอบตั้งแต่อดีต และเป็นเพียงการปฏิบัติตามขั้นตอนทางธุรการเท่านั้น ทั้งนี้ที่มีผู้ระบุว่าเหตุที่กองทัพเรือขอใช้พื้นที่เพราะอยู่ระหว่างจัดทำโครงการป้องกันภัยทางอากาศในพื้นที่พัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) นั้นไม่เป็นความจริง เพราะแม้ไม่มีโครงการอีอีซี กองทัพเรือยังมีหน่วยป้องกันสนามบินอู่ตะเภา

“กองทัพเรือได้รับอนุญาตให้ใช้พื้นที่ป่าดังกล่าว จำนวน 30 ปี เพื่อซ่อนพรางหน่วย ซ่อนพรางยุทโธปกรณ์ และเป็นพื้นที่ฝึกป้องกันภัยทางอากาศ ให้แก่สนามบินอู่ตะเภา และในส่วนที่ขอเพิ่มนั้น เพราะมีความจำเป็นด้านนิรภัยการบิน ในการก่อสร้าง รันเวย์ หมายเลข 2 ของสนามบินอู่ตะเภา ซึ่งสัมพันธ์กับความสูงและเนื้อที่ขอบเขตของเขาโกรกตะแบก ซึ่งตั้งประชิดอยู่บริเวณหัวรันเวย์” พล.ร.ท.ประชาชาติ ชี้แจง

โฆษกกองทัพเรือ ชี้แจงด้วยว่าสำหรับผู้ที่นำเอกสารที่ถือเป็นเอกสารเรื่องความมั่นคงของชาติ เกี่ยวกับที่ตั้งทางยุทธศาสตร์และยุทธวิธีทางทหาร และบัญชีพิกัดเป้าหมายสำคัญทางเศรษฐกิจและความมั่นคงของชาติ มีความเสี่ยงต่อการละเมิด หรือการเปิดเผยความลับของทางราชการ และกระทบต่อความมั่นคงขอชาติได้ อย่างไรก็ตามยืนยันว่ากองทัพเรือยึดมั่นตามบันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือในการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ ระหว่าง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะทำเรื่องที่ขัดแย้งกับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ.