เทศบาลหัวทะเล โคราช ยืนยันจัด “ลอยกระทงโคมไฟ’68” ต่อเนื่อง 7 วัน ปรับรูปแบบพลุแสงสีเสียงแบบสำรวม พร้อมพิธีจุดเทียน–ร้องเพลงถวายอาลัย “พระพันปีหลวง” ยกเลิกกิจกรรมรื่นเริงบางอย่างให้เหมาะสม

 นครราชสีมา – ภายหลังจากที่ก่อนหน้านี้  เทศบาลตำบลหัวทะเล อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา ได้มีกำหนดการจัดงาน “เทศกาลลอยกระทง โคมไฟ’68 @ บึงหัวทะเล ชมพลุไฟใต้แสงจันทรา และส่งเสริมผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรม” ระหว่างวันที่ 30 ตุลาคม – 5 พฤศจิกายน 2568 ที่ บริเวณตลาดน้ำบึงหัวทะเล ต.หัวทะเล อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา โดยกำหนดการเดิม ภายในงานจะมีลอยกระทงพระประทีปพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และมีกิจกรรมหลากหลายทางวัฒนธรรมและความบันเทิง ตลอดระยะเวลาจัดงาน 7 วัน พร้อมเวทีแสดงคอนเสิร์ตจากศิลปินชื่อดังทุกวัน อาทิ ปู พงษ์สิทธิ์ คำภีร์, วงมหาหิงค์, ปราง ปรางทิพย์, สิงโต นำโชค, เบียร์ พร้อมพงษ์, ไววิทย์, วงเฟลม เป็นต้น รวมถึง มีมหกรรมโคมไฟตระการตา และมีไฮไลท์ของงาน คือ การแสดงพลุประกอบแสงสีเสียงนับหมื่นลูก ซึ่งเป็นงานจุดพลุที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของจังหวัดนครราชสีมาที่มีการจัดขึ้นในช่วงเทศกาลวันลอยกระทงของทุกปี  แต่เทศกาลวันลอยกระทงปีนี้ อยู่ในห้วงเวลาการถวายอาลัยแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง จึงทำให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวจำนวนมากกังวล ว่า ปีนี้จะยังคงมีการจัดงานเหมือนทุกปีหรือไม่

 ล่าสุด วันนี้ (30 ตุลาคม 2568) นายวัชรพล โตมรศักดิ์ ที่ปรึกษาพิเศษเทศบาลตำบลหัวทะเล พร้อมด้วย นายเอกภาพ โตมรศักดิ์ นายกเทศมนตรีตำบลหัวทะเล ได้ออกมายืนยันว่า งานเทศกาลลอยกระทงของเทศบาลตำบลหัวทะเล จะยังคงจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่เหมือนเดิม เพียงแต่จะมีการปรับเปลี่ยนบางกิจกรรมเพื่อให้มีความเหมาะสมตามนโยบายของรัฐบาล

 โดยนายวัชรพล โตมรศักดิ์ ที่ปรึกษาพิเศษเทศบาลตำบลหัวทะเล กล่าวว่า “ตนยืนยันว่า การจัดงานเทศกาลลอยกระทงบึงหัวทะเลปีนี้ จะยังคงมีขึ้นตามกำหนดการเดิม คือระหว่างวันที่ 30 ตุลาคม – 5 พฤศจิกายน 2568 แต่จะปรับรูปแบบให้สอดคล้องกับบรรยากาศของการถวายอาลัย โดยมีเป้าหมายเพื่อสืบสานประเพณีอันดีงามควบคู่ไปกับการเปิดโอกาสให้ประชาชนได้แสดงความจงรักภักดีต่อสมเด็จพระพันปีหลวง ซึ่งการเปลี่ยนแปลงหลักคือ การยกเลิกกิจกรรมที่เน้นความรื่นเริง เช่น การประกวดนางนพมาศและการแข่งขันเรืออีโปง ขณะที่การแสดงคอนเสิร์ตและการจุดพลุยังคงมีอยู่ แต่เปลี่ยนวัตถุประสงค์ใหม่เป็น “การถวายอาลัยและน้อมส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย” ศิลปินผู้ร่วมแสดงทุกคนจะปรับบทเพลงและการแต่งกายให้เหมาะสม โดยเทศบาลตำบลหัวทะเล  ได้เพิ่มกิจกรรมพิเศษเพื่อให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมถวายอาลัย เช่น พิธีลงนามถวายความอาลัย การแต่งกายด้วยโทนสีสุภาพ การแจกริบบิ้นสีดำ และพิธีจุดเทียนน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระพันปีหลวง ทั้งนี้ การจัดงานจะยังคงความงดงามของประเพณีลอยกระทงไว้ครบถ้วน เพื่อให้ประชาชนได้ทั้งสืบสานวัฒนธรรมและร่วมถวายอาลัยในเวลาเดียวกัน”

 ด้านนายเอกภพ โตมรศักดิ์ นายกเทศมนตรีตำบลหัวทะเล กล่าวว่า “ตนยืนยันว่าการจัดงานปีนี้ยังคงเป็นงานใหญ่ของจังหวัดเหมือนทุกปี เพียงแต่ได้ปรับรูปแบบให้สงบงามและเหมาะสมกับช่วงเวลาแห่งความโศกเศร้า โดยงดกิจกรรมที่มีลักษณะรื่นเริงเกินควร เช่น การประกวดนางนพมาศ เทพบุตรเรืออีโปง และมิสควีน รวมทั้ง ปรับคอนเสิร์ตให้เป็นแนวที่ซอฟต์ลง ไม่เน้นความรื่นเริงเกินควร และก่อนเริ่มการแสดงจะมีการเชิญชวนให้ผู้ร่วมงานยืนถวายความอาลัยร่วมกัน พร้อมทั้ง น้อมส่งเสด็จสู่สวรรคาลัยผ่านบทเพลงถวายความอาลัย นอกจากนี้ ยังมีการเพิ่มกิจกรรมพิเศษในวันที่ 2 พฤศจิกายน 2568 เพื่อรำลึกถึงวันเสด็จพระราชดำเนินมาที่จังหวัดนครราชสีมาครั้งแรกของในหลวงรัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระพันปีหลวง เมื่อปี พ.ศ.2498 โดยจัดพิธีทำบุญตักบาตรในตอนเช้า และพิธีจุดเทียนถวายอาลัยในตอนค่ำ  ซึ่งการจัดงานครั้งนี้ไม่ได้เป็นเพียงการเฉลิมฉลองตามประเพณีไทย แต่เป็นโอกาสให้ประชาชนได้ร่วมกันแสดงออกถึงความจงรักภักดีและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระพันปีหลวงที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทย.