มท.เร่งขับเคลื่อนนโยบายรัฐ กำชับผวจ.จัดทำน้ำอภิเษกประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษกและสนับสนุนการเลือกตั้ง
.
เรื่อง มท. ประชุมขับเคลื่อนและติดตามนโยบายของรัฐบาล และภารกิจสำคัญของกระทรวง พร้อมกำชับ ผวจ. ดำเนินการเตรียมความพร้อมในการจัดทำน้ำอภิเษกประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษก และสนับสนุนการเลือกตั้ง ส.ส.
.
วันนี้ (11 กุมภาพันธ์ 2562) เวลา 09.00 น. พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมขับเคลื่อนและติดตามนโยบายของรัฐบาล และภารกิจสำคัญของกระทรวงมหาดไทย ณ ห้องประชุม 1 อาคาร 3 ชั้น 5 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดยมี นายสุธี มากบุญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ผู้บริหารระดับสูงของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงมหาดไทย และผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ เข้าร่วมการประชุม
.
พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้กล่าวมอบนโยบายการประชุมขับเคลื่อนและติดตามนโยบายของรัฐบาล และภารกิจสำคัญของกระทรวงมหาดไทย ดังนี้
(1) การเตรียมความพร้อมในการจัดทำน้ำอภิเษกของกระทรวงมหาดไทยในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ในขณะนี้จังหวัดทุกจังหวัดและกรุงเทพมหานคร ได้จัดส่งรายละเอียดของแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ทั่วประเทศมายังกระทรวงมหาดไทยแล้ว รวมทั้งสิ้น 108 แห่ง ปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนการปรับแต่งภูมิทัศน์ของแหล่งน้ำให้เกิดความพร้อมก่อนดำเนินพิธีตักน้ำเพื่อการจัดทำน้ำอภิเษกในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษกต่อไป ทั้งนี้ จะมีพิธีตักน้ำจากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์พร้อมกันทั่วประเทศในวันที่ 6 เมษายน 2562 นี้
(2) โครงการจิตอาสาพระราชทาน การพัฒนาคู คลอง ภายในเขตจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อเป็นโครงการเฉลิมพระเกียรติเนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ในส่วนนี้ถือเป็นพระมหากรุณาธิคุณของรัชกาลที่ 10 ที่ต้องการพัฒนาแหล่งน้ำในทุกจังหวัดให้ใสสะอาด เพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยวและสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของประชาชน อีกทั้งยังถือเป็นพระราชดำริของพระองค์ท่านในการสลายสีเสื้อของพสกนิกรชาวไทยผ่านการร่วมมือกันประกอบกิจกรรมจิตอาสา เพื่อเสริมสร้างความสามัคคีปรองดองให้เกิดขึ้นในสังคมไทย
(3) การเตรียมความพร้อมการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ที่กำลังจะมีขึ้นในวันที่ 24 มีนาคม 2562ในการดูแลรักษาสถานที่สำคัญต่างๆ ของส่วนราชการ ขณะนี้เป็นไปอย่างสงบเรียบร้อยในทุกพื้นที่ ภายใต้การสนับสนุนและดำเนินการร่วมกันระหว่างกระทรวงมหาดไทย ทหาร และตำรวจ ตามที่ ก.ก.ต. ได้ประสานขอความร่วมมือ อย่างไรก็ตาม ทางกระทรวงมหาดไทยได้มีการติดตามและประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเป็นระยะ เพื่อรองรับกับสถานการณ์ต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต พร้อมกันนี้กระทรวงมหาดไทยยังได้ประสานไปยังระดับพื้นที่เพื่อรณรงค์ให้ส่วนราชการดำเนินการเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ข้อมูลเกี่ยวกับการเลือกตั้ง เพื่อสร้างการรับรู้และความเข้าใจให้แก่ประชาชนโดยทั่วกัน และได้กำชับข้าราชการทุกคนให้วางตัวเป็นกลางทางการเมือง ซึ่งในส่วนนี้ได้มีกฎหมายกำกับไว้แล้ว และปลัดกระทรวงมหาดไทยได้มีหนังสือกำชับไปยังทุกจังหวัด โดยเน้นย้ำให้รักษาแนวทางที่เป็นกลาง ไม่ทำให้เกิดคุณหรือโทษแก่ฝ่ายใด
(4) ปัญหาสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ได้กำชับให้ทุกจังหวัดดำเนินการอย่างเร่งด่วนเพื่อจัดการกับปัญหามลพิษทางอากาศที่เกิดขึ้น โดยเน้นย้ำให้บังคับใช้กฎหมายควบคุมมลพิษอย่างเคร่งครัด พร้อมตรวจเข้มยวดยานพาหนะในทุกพื้นที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งรถบรรทุกขนาดใหญ่และรถที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซล พร้อมให้มีการควบคุมและตรวจสอบการปล่อยมลพิษของโรงงานอุตสาหกรรมในแต่ละพื้นที่ให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานตามกฎหมายและให้มีการติดตามและเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดในการแก้ไขปัญหาการเผาในที่โล่งและพื้นที่การเกษตรอย่างต่อเนื่อง เพื่อพิจารณามาตรการในการแก้ไขและรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าว
และ (5) การฝึกการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแบบบูรณาการ ประจำปี 2562 เน้นย้ำให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงมหาดไทย ให้ความร่วมมือกับกองทัพและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการฝึกในการบูรณาการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด โดยได้กำชับให้ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ใช้ทำการฝึกในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2562 นี้ เตรียมความพร้อมในด้านต่างๆ เพื่อรองรับกับสถานการณ์จำลองการฝึกดังกล่าว พร้อมกันนี้ให้พิจารณาแนวทางการนำจิตอาสาในระดับพื้นที่มาร่วมการฝึกด้วย เพื่อเสริมสร้างทักษะที่จำเป็นต่อการปฏิบัติงานในสถานการณ์เร่งด่วน และเตรียมความพร้อมให้แก่จิตอาสาในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต
.
นอกจากนี้ พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้กำชับให้กระทรวงมหาดไทยเร่งทำหน้าที่ในการสร้างความรับรู้ให้แก่ประชาชนในระดับพื้นที่ โดยให้ใช้กลไกการทำงานของกระทรวงมหาดไทยเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับการขับเคลื่อน เพื่อสร้างความเข้าใจที่ตรงกันของประชาชน ทั้งนี้ ได้เน้นย้ำให้มีการใช้หอกระจายข่าวที่มีอยู่ในทุกพื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยนำข้อมูลการดำเนินงานของรัฐบาลที่ถูกต้องไปเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ เพื่อสร้างความรับรู้แก่ประชาชนให้ทราบโดยทั่วกัน
.
กลุ่มงานเผยแพร่การประชาสัมพันธ์
กองสารนิเทศ สป.มท.
ครั้งที่ 24/2562
วันที่ 11 ก.พ. 2562