“สุวัจน์”โชว์วิชั่นอนาคตโคราชผุด “ท่าเรือบก”
แห่งแรกของอีสานกระจายสินค้าเกษตรออกทะเล
“สุวัจน์” โชว์วิชั่นอนาคตโคราช ต้องเป็น “ฮับอุตสาหกรรมเกษตร” ฐานการผลิตแห่งอินโดจีน ระบบคมนาคม รถไฟเร็วสูง รถไฟรางคู่ รถไฟฟ้า มีครบทันสมัยที่สุดในอีสาน พร้อมดันโคราชท่าเรือบก แห่งแรกของอีสาน เป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับโลก ดัน “เขาใหญ่” เป็นมรดกโลก หนุนสร้าง “จีโอพาร์ค” เมืองฟอสซิลโลก ลั่นจะปั่นโคราชเป็น “เมืองแห่งกีฬา” แหล่งปั้นนักีฬาทีมชาติผุด Sport Academy ลงไปในระดับรากหญ้า
เมื่อวันที่่ 22 มี.ค.เวลา 19.00 น. นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา พร้อมนายเทวัญ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรค พร้อมคณะผู้บริหาร และผู้สมัคร สส.จังหวัดนครราชสีมา พบคณะกรรมการและสมาชิกสมาคมศิษย์เก่าอัสสัมชัญนครราชสีมา ณ ห้อง Terminal ในโอกาสนี้ นายสุวัจน์ ได้กล่าวแสดงวิสัยทัศน์ เรื่อง “ทิศทางการพัฒนาโคราชในอนาคต” ว่าพรรคชาติพัฒนาเป็นพรรคเดียวในประเทศที่มีนโยบายพัฒนาโคราชเฉพาะ โดยบุคคลคนแรกที่ทำให้โคราชเจริญ คือ พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ อดีตนายกรัฐมนตรี ที่พัฒนาเศรษฐกิจโคราชเป็นประตูสู่อีสาน ด้วยการทำให้อีสานเป็นฐานการผลิตเพื่อการส่งออกไปสู่อินโดจีน และ เร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานคมนาคม
นายสุวัจน์ กล่าวว่าสิ่งที่พรรคชาติพัฒนาจะพัฒนาโคราช คือ ต่อยอดสิ่งที่ พล.อ.ชาติชาย ได้ตอกเสาเข็มไว้ คือ ภาคเกษตรต้องพัฒนาระบบชลประทาน 9 ลุ่มน้ำ พร้อมพัฒนาเกษตรกรให้เป็น Smart Farmerที่สามารถใช้เทคโนโลยีมาวางแผนการผลิต พร้อมส่งเสริมปศุสัตว์เลี้ยงโคเนื้อพันธุ์ “โคราชวากิว” พร้อมส่งเสริมโคราชเป็น “ฮับอุตสาหกรรมการเกษตร” แปรรูป อ้อย ยาง ปาล์ม มันสำปะหลัง เป็นสินค้าอุตสาหกรรมเพื่อเป็นฐานการผลิตเพื่อการส่งออก และยกระดับราคาสินค้าเกษตร รวมถึงขยายเส้นทางคมนาคม อาทิ รถไฟความเร็วสูง รถไฟรางคู่ มอเตอร์เวย์ ที่กำลังจะแล้วเสร็จย่อมทำให้โคราชกลายเป็น “เทอมินอลแห่งภาคอีสาน” การเดินทางสะดวกที่สุดใน 19 จังหวัดภาคอีสาน พร้อมกับต่อยอดและเชื่อมโยงเส้นทางคมนาคมดังกล่าวไปยังประเทศอินโดจีน และ เพื่อเชื่อมโยงโครางการ วันเบลต์วันโรด “One Belt One Road” รวมถึงการขยายถนน 304 ให้เป็นประตูไปสู่ทะเลเชื่อมกับภาคอีสาน โดยตั้งเป้าให้โคราชกลายเป็น Dry Port หรือ ท่าเรือบก ที่เป็นศูนย์กลางจุดบรรจุสินค้าเกษตรขนถ่ายต่อไปสู่ท่าเรือน้ำลึกออกทะเลไปต่างประเทศ
นายสุวัจน์ กล่าวอีกว่าพรรคชาติพัฒนา พร้อมส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองโคราชให้ “เขาใหญ่” เป็น มรดกโลก และ สนับสนุนให้โคราชได้รับการรับรองจากยูเนสโกเป็น “เมืองฟอสซิลของโลก” ภายใต้โครงการ อุทยานธรณี หรือ จีโอพาร์ค แหล่งขุดค้นพบกระดูกไดโนเสาร์ หรือสัตว์ดึกดำบรรพ์ ที่ อ.เฉลิมพระเกียรติให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับโลก ดังนั้นเมื่อการท่องเที่ยวดีการเดินทางต้องสะดวกรวดเร็ว จึงจะสนับสนุนการแก้ปัญหาจราจร สร้างทางแยก ทางรอด วงแหวนรอบโคราช และรถไฟฟ้าแบบรางเบา 3 สาย คือ เขียว ม่วง และ ส้ม มูลค่า 3.2 หมื่นล้านบาท ยาว 50 กม. เพื่อยกระดับความทันสมัยของเมืองโคราช
นอกจากนี้มีแนวคิดการพัฒนาโคราชให้เป็น “เมืองกีฬา” ด้วยการสนับสนุน Sport Academy ลงไปในระดับรากหญ้า เพื่อพัฒนานักกีฬาให้เป็นนักกีฬาระดับชาติ พร้อมๆกับส่งเสริม Mini Sport Complex ในระดับชุมชน รวมถึงจะพัฒนาเมืองโคราชให้เป็น “เมืองพลังงาน” ต่อยอดโครงการเดินท่อก๊าซจากอ่าวไทยมายังวังน้อย – สระบุรี ให้ต่อมาถึงโคราช เพื่อสร้างความมั่นคงด้านพลังงานแห่งโคราช โครงการดังกล่าวเป็นสิ่งที่พรรคชาติพัฒนาได้ทำมาและสานต่อมาโดยตลอดช่วง 20 กว่าปีที่ผ่านมา
“สิ่งที่พรรคชาติพัฒนาได้พัฒนา จังหวัดโคราช มาตลอด 20 ปี อาทิ โครงการระบบบำบัดน้ำเสีย โครงการโรงไฟฟ้าขยะ โครงการขยายถนน 10 เลน และโครงการมอเตอร์เวย์ รวมถึงโครงการก่อสร้างสนามบิน และดำเนินโครงการโรงกรองน้ำประปาอุปโภคบริโภคครอบคลุมทุกพื้นที่ เพื่อรองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจ โครงการก่อสร้างสนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา เพื่อจัดการแข่งขันซีเกมส์ เพื่อสนับสนุนให้คนโคราชออกกำลังกายมีสุขภาพที่ดี รวมถึงการสนับสนุนให้จัดตั้ง พิพิธภัณฑ์ไม้กลายเป็นหิน ตั้งอยู่ที่บ้านโกรกเดือนห้า ต.สุรนารี อ.เมืองนครราชสีมา มีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมส่งเสริมการท่องเที่ยว” นายสุวัจน์ กล่าว
/-/-/